นายกฯ เทเรซา เมย์ ของอังกฤษประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วโดยให้มีผลในวันที่ 7 มิถุนายน เปิดทางผู้นำคนใหม่สานต่อการดันข้อตกลงเบร็กซิตผ่านสภา หลังจากนางล้มเหลวมาแล้ว 3 ครั้ง ขณะอียูย้ำสิ่งที่ตกลงกันไว้จะยังคงเดิมแม้อังกฤษเปลี่ยนตัวผู้นำ

เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงด้านหน้าสำนักงานนายกรัฐมนตรี เลขที่ 10 ถนนดาวนิงในกรุงลอนดอน เมื่อวันศุกร์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษนิยม วันที่ 7 มิถุนายน 2562 / AFP

    เอเอฟพีรายงานว่า นายกฯ เมย์แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2562 ว่านางจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมในวันที่ 7 มิถุนายนที่จะถึงนี้ แต่นางจะรักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปจนกว่าพรรคจะเลือกผู้นำคนใหม่ภายในวันที่ 20 กรกฎาคม โดยผู้นำพรรคจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติ

    นายกรัฐมนตรีหญิงวัย 62 ปีกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือและมีน้ำตาคลอว่า เป็นความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่นางไม่สามารถผลักดันข้อตกลงเบร็กซิตผ่านสภาได้

    เมย์เข้ารับตำแหน่งต่อจากเดวิด คาเมรอน ที่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายหลังผลประชามติสนับสนุนการนำอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อปี 2559

    ก่อนหน้านี้เมย์เคยเสนอจะลาออกมาแล้วหากสมาชิกพรรคสนับสนุนการลงมติผ่านข้อตกลงเบร็กซิตที่รัฐบาลของนางทำไว้กับผู้นำอียูเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากความพยายามดันข้อตกลงนี้ผ่านสภาล้มเหลวมา 3 ครั้ง

    รัฐบาลของเมย์เจรจาต่อรองกับอียูเพื่อขอเลื่อนการเบร็กซิตมาแล้ว 2 ครั้ง โดยเส้นตายที่ขยายล่าสุดคือวันที่ 31 ตุลาคม หลังจากเมย์ลาออก ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะถอนตัวจากอียูโดยไร้ข้อตกลง และมีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะต้องเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ ซึ่งอาจได้ผู้นำที่เลือกการเบร็กซิตแบบเด็ดขาด และเพิ่มโอกาสที่จะเกิดการเผชิญหน้ากับพวกผู้นำอียู

    สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมที่มีชื่อเข้าชิงตำแหน่งผู้นำพรรคคนใหม่นั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สนับสนุนการแยกทางอย่างเด็ดขาดจากอียู ซึ่งรวมถึงบอริส จอห์นสัน ตัวตั้งตัวตีของฝ่ายหนุนเบร็กซิตในการลงประชามติปี 2559 อย่างไรก็ตาม อียูประกาศชัดเจนว่าพวกเขาจะไม่เจรจาต่อรองความตกลงถอนสมาชิกภาพอีกแล้ว

    โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า การลาออกของเมย์ไม่เปลี่ยนแปลงผลการเจรจา ส่วนประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสกล่าวว่า เขาอยากเห็นความชัดเจนจากอังกฤษโดยเร็ว ขณะที่สเปนยอมรับว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่อังกฤษจะหลีกเลี่ยงการแยกทางจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงรองรับ เพราะอียูก็ไม่ยอมแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่คุยกันไว้.