24 พ.ค.62 - เมื่อเวลา 18.00 น.ณ ห้องประชุมคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดงานครบรอบวันเกิดครบ 72 ปี ให้ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. โดยมีนักการเมือง นักเคลื่อนไหว เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก นอกจากนั้น นายทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งกระเช้าผลไม้มาอวยพร เช่นเดียวกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตอดีตนายกฯก็ส่งตัวแทนมามอบกระเช้าดอกไม้ให้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. เป็นช่วง "เปิดใจ 72 ปี วีระกานต์ บนเส้นทางประชาธิปไตย "คิดอะไรคิดเถิด อย่าคิดคด คดอะไรคดเถิด อย่าคดมิตร’ ซึ่ง นายวีระกานต์ บอกว่าประโยคดังกล่าวเป็นของ "ไขแสง สุกใส" นักสู้ประชาธิปไตย อาจารย์ของตนเอง

นายวีระกานต์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่คนมางานในวันนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งที่ตนไม่ใช่คนที่มีอำนาจวาสนา มีบารมี เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น เมื่อเห็นคนมาขนาดนี้ก็รู้สึกชื่นใจและมีกำลังใจในการทำงานต่อไป

"มีคำถามว่าผมจะทำงานการเมืองต่อไปหรือไม่ ก็เป็นปัญหาที่ผมกำลังคิดอยู่เหมือนกัน ที่ผ่านมาไม่ได้เข้าไปแสดงบทบาทในสภาฯนานแล้ว แต่มีบทบาทอยู่นอกสภาอยู่บ้าง คราวนี้ขอพูดความจริงอย่างเปิดอกว่าผมจะไม่เลิกการเมืองจนกว่าประชาชนจะได้ประชาธิปไตยมา แต่ที่พูดไปแบบนี้ไม่ใช่เพราะคิดว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถทางการเมือง เพียงแต่ว่าผมทำอย่างอื่นไม่เป็นเท่านั้นเอง"

นายวีระกานต์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ตนเห็นว่ารัฐธรรมนูญปีนี้ เป็นรัฐธรรมนูญที่ต่อต้านประชาธิปไตยมากที่สุด ขณะที่ยินยอมให้เลือกตั้ง แต่ตอนนี้ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผิดหลักการ และมีการคำนวนณส.ส.อย่างแปลกประหลาด การตัดคะแนนใน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ออกมาในลักษณะที่เกิดขึ้น ตนไม่เห็นด้วย ตามความคิดของตนเชื่อว่าขัดรัฐธรรมนูญ

"หลังจากนี้ผมจะจัดทนายความฟ้องร้องว่าทำผิดรัฐธรรมนูญ จะเอากกต.ติดคุกให้ได้  ซึ่งที่มำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะอิจฉาพรรคเล็กพรรคน้อย แต่เพราะทำผิดหลักการ ซึ่งคงต้องรอให้เขาตั้งรัฐบาลให้เสร็จก่อน ผมจะดำเนินการในเรื่องนี้"นายวีระกานต์ กล่าว

สำหรับ นายวีระกานต์ เคยเป็นนักเขียนและนักข่าวของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ  เริ่มเส้นทางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ พ.ศ.2518 เป็น ส.ส.เขตพญาไทได้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ในรัฐบาล มรว.เสนีย์ ปราโมช เมื่อ พ.ศ.2519 แต่กลับร่วมมือกับฝ่ายค้าน ลุกขึ้นอภิปรายนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคของตัวเอง เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลยินยอมให้ จอมพลถนอม กิตติขจร เดินทางเข้าประเทศ ในรัฐบาล พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกฯ นายวีระได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี 3 สมัย คือ รมช.กระทรวงเกษตรฯ รมช.มหาดไทย รมช. คมนาคม และยังเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการประชาธิปัตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบรรดานักการเมือง นักเคลื่อนไหว ที่เข้าร่วมงานนี้ อาทิ .ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตสมาชิกพรรค ทษช., นายประภัสร์ จงสงวน อดีตสมาชิกพรรค ทษช. ,นายอุเมส ปานเดย์ อดีตสมาชิกพรรค ทษช. ,ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ อดีตสมาชิกพรรค ทษช. ,นางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ อดีตสมาชิกพรรค ทษช. ,นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตสมาชิกพรรค ทษช.

นพ.เหวง โตจิราการ อดีตสมาชิกพรรค ทษช.,นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตสมาชิกพรรค ทษช.,นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตสมาชิกพรรค ทษช.,นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตสมาชิกพรรค ทษช.,นายสุธรรม แสงประทุม อดีตสมาชิกพรรค ทษช. ,นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ อดีตสมาชิกพรรค ทษช.,นายจาตุรนค์ ฉายแสง อดีตสมาชิกพรรค ทษช.

นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายอดิศร เพียงเกษ ,นางธิดา ถาวรเศรษฐ ,นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ์,นายยศวริศ ชูกล่อม,นายอารี ไกรนรา ส.ส.พรรคเพื่อชาติ ,นายนิสิต สินธุไพร,พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ,พล.ต,ศรชัย มนตริวัต ,นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง,นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง,นายขวัญชัย สาราคำ,นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ.