รัฐบาลจีนกล่าวตำหนิสหรัฐอเมริกาว่ากำลังรังแกบริษัทหัวเว่ยของจีน ขณะที่ "พานาโซนิค" เป็นบริษัทต่างชาติรายล่าสุดที่ประกาศทบทวนความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีนรายนี้ภายหลังสหรัฐสั่งแบนหัวเว่ยโดยอ้างความเสี่ยงต่อความมั่นคง

โลโก้หัวเว่ยที่ร้านค้าปลีกในกรุงปักกิ่ง / AFP

    การเล่นงานบริษัทหัวเว่ยเกิดขึ้นในช่วงยามที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนตึงเครียดยิ่งขึ้น เพราะความขัดแย้งทางการค้า ซึ่งทำให้รัฐบาลจีนย้ำเตือนว่าสหรัฐต้องแสดง "ความจริงใจ" ก่อน ทั้ง 2 ฝ่ายจึงจะรื้อฟื้นการเจรจาการค้ากันได้

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2562 อ้างคำแถลงของเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ว่ารัฐบาลจีนได้ยื่นหนังสือแสดงความไม่พอใจอย่างจริงจังต่อรัฐบาลสหรัฐแล้ว โดยเตือนด้วยว่า รัฐบาลจีนมีความเชื่อมั่นและมีความสามารถที่จะปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและผลประโยชน์ของบริษัทจีน

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวตำหนิสหรัฐว่า การใช้อำนาจรัฐของสหรัฐเพื่อกดดันบริษัทเอกชนของจีนอย่างเช่นบริษัทหัวเว่ยตามอำเภอใจ ถือเป็นการรังแกทางเศรษฐกิจ พร้อมกับเตือนด้วยว่า รัฐบาลจีนพร้อมจะต่อสู้จนถึงที่สุดในสงครามการค้ากับสหรัฐ

    สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อห้ามบริษัทของสหรัฐใช้อุปกรณ์และส่วนประกอบจากบริษัทโทรคมนาคมต่างชาติที่เสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐ โดยทั่วไปมองกันว่าคำสั่งนี้พุ่งเป้าเล่นงานหัวเว่ย ซึ่งสหรัฐสงสัยว่าอาจเป็นเครื่องมือของหน่วยงานด้านข่าวกรองของจีน

    กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐก็ประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย และห้ามบริษัทอเมริกันขายหรือถ่ายโอนเทคโนโลยีของสหรัฐให้หัวเว่ย แต่ต่อมากระทรวงได้ผ่อนผันให้เป็นเวลา 90 วัน

    เมื่อต้นสัปดาห์นี้ บริษัทกูเกิลประกาศว่า กูเกิลจะจำกัดการใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในโทรศัพท์ของหัวเว่ย และต่อมามีรายงานว่า หัวเว่ยอาจเปิดตัวระบบปฏิบัติการของตนเองที่ใช้กับโทรศัพท์ในจีนภายในปีนี้ และจะเปิดตัวในระดับสากลปีหน้า

    เมื่อวันพฤหัสบดี บริษัทพานาโซนิคของญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรรายล่าสุดที่ประกาศระงับการจัดส่งส่วนประกอบบางอย่างแก่หัวเว่ยและบริษัทในเครือ 68 แห่งนี้ ที่ถูกรัฐบาลสหรัฐสั่งห้าม แต่คำแถลงไม่ได้กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ที่สหรัฐไม่ได้ห้าม

    ด้านหัวเว่ยชี้แจงกับเอเอฟพีกรณีนี้ โดยอ้างถึงคำแถลงในเว็บไซต์ภาษาจีนของพานาโซนิคว่า บริษัทยังจัดส่งสินค้าแก่หัวเว่ย "ตามปกติ" และปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและกฎระเบียบของแต่ละประเทศและแต่ละภูมิภาคที่พานาโซนิคดำเนินงานอยู่

    บริษัทโตชิบาของญี่ปุ่นก็เป็นอีกแห่งที่ประกาศระงับการจัดส่งสินค้าแก่หัวเว่ยชั่วคราว เพื่อตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามข้อห้ามของรัฐบาลสหรัฐ แต่ต่อมาโตชิบากล่าวว่า บริษัทกลับมาจัดส่งผลิตภัณฑ์บางอย่างให้หัวเว่ยตามเดิม หลังจากยืนยันได้ว่าสินค้าเหล่านี้ไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนจากสหรัฐ

    การเคลื่อนไหวของบริษัทเทคโนโลยีของญี่ปุ่นเกิดขึ้น 1 วันให้หลังบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของอังกฤษ ได้แก่ อีดีและโวดาโฟน กับบริษัทของญี่ปุ่น ได้แก่ เคดีดีไอและซอฟต์แบงก์ ประกาศว่าพวกเขาจะชะลอการวางจำหน่ายโทรศัพท์รุ่นใหม่ของหัวเว่ยที่จะรองรับระบบ 5จี

    หัวเว่ยยอมรับเมื่อวันพุธว่า บริษัทตระหนักดีว่าซัพพลายเออร์ของหัวเว่ยเผชิญกับแรงกดดัน แต่หัวเว่ยก็เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ที่น่าเสียใจนี้จะสามารถแก้ไขได้.