อ.เทพา จ.สงขลา / ชาวเทพาร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ‘เทพาที่ยั่งยืน’ จัดเวทีทำข้อเสนอแก้ไขการทำผังเมืองจังหวัดสงขลา เพื่อยื่นเสนอต่อคณะกรรมการผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เน้นปกป้องพื้นที่อุตสาหกรรมไม่เอาโรงงานอุตสาหกรรม ด้านนักวิชาการผังเมืองชี้ผังเมืองรวม จ.สงขลาที่กำลังแก้ไขนี้เหมือนกับจัดทำผังเมืองใหม่ เพราะกำหนดโซนพื้นที่ไม่มีความชัดเจน เปิดช่องให้มีการนำพื้นที่เกษตรกรรมไปใช้เพื่อการอุตสาหกรรม ทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และเกิดความขัดแย้งขึ้นได้
ตามที่กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศใช้ผังรวมจังหวัดสงขลาเมื่อปี 2561 และขณะนี้ได้ปรับปรุง (ครั้งที่ 1 ) เรื่องการจัดทำข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินผังเมืองรวมจังหวัดสงขลา โดยกำหนดให้จังหวัดสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางระดับภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญด้านการบริหารและการปกครอง การค้า การบริการที่ได้มาตรฐาน ส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจและพาณิชยกรรมของภาคใต้ตอนล่าง และสอดคล้องกับความร่วมมือระดับภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้มีความพร้อมในการพัฒนาเมือง อุตสาหกรรม และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ขณะเดียวกันชาวสงขลาก็กังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในด้านต่างๆ จึงได้จัดเวทีเพื่อจัดทำข้อเสนอของภาคประชาชนต่อทางราชการ โดยเริ่มที่อำเภอเทพาเป็นแห่งแรก
ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.) คณะทำงานการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เทพาที่ยั่งยืน ร่วมกับเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบล อำเภอเทพา ขบวนองค์กรชุมชนตำบลอำเภอเทพา ตัวแทนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อน “ยุทธศาสตร์การพัฒนาเทพาที่ยั่งยืน” ที่ห้องประชุมอาคารผู้สูงอายุ โรงพยาบาลเทพา โดยมีนายสนอง จันทร์รักษ์ นายอำเภอเทพา เข้าร่วมรับฟัง และมีตัวแทนภาคประชาชนร่วมประชุมประมาณ 100 คน
อาจารย์ภารณี สวัสดิรักษ์ นักวิชาการอิสระด้านผังเมือง กล่าวว่า การปรับปรุงการจัดทำข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินผังเมืองรวมจังหวัดสงขลาของกรมโยธาธิการและผังเมืองในครั้งนี้เหมือนกับการจัดทำผังเมืองใหม่ เพราะการกำหนดโซนพื้นที่อยู่อาศัย ชุมชน เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมไม่มีความชัดเจนและปะปนกันมากขึ้น จึงอาจทำให้มีการนำพื้นที่เกษตรกรรมไปใช้เพื่อการอุตสาหกรรม ทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และเกิดความขัดแย้งขึ้นได้
ตัวอย่างเช่น แผนผังแสดงการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต ข้อ 13 ระบุว่า ที่ดินประเภท ก.2 เป็นที่ดินประเภทพัฒนาเกษตรกรรมและการตั้งถิ่นฐาน ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การอยู่อาศัย อุตสาหกรรม คลังสินค้า สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สถาบันราชการ การสาธารณูปโภค ฯลฯ โดยห้ามใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อ (4) จัดสรรที่ดินเพื่อประกอบอุตสาหกรรม เว้นแต่การประกอบกิจการนิคมอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตประกอบการอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
“จะเห็นได้ว่าแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินในข้อ 13 ประเภท ก.2 เป็นที่ดินประเภทพัฒนาเกษตรกรรมและการตั้งถิ่นฐาน แต่เปิดช่องให้จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมได้ ซึ่งทำให้ชาวบ้านเกิดความกังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยเฉพาะที่อำเภอเทพา เพราะชาวบ้านมีอาชีพเกษตรกรรมและทำประมงพื้นบ้าน นอกจากนี้ในการรับฟังความคิดเห็นการจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดสงขลาที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการโดยบริษัทเอกชน ซึ่งตัวแทนชาวบ้านได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เพราะใช้ภาษาที่ฟังยาก ชาวบ้านจึงไม่ค่อยได้เสนอความคิดเห็น จึงเป็นกระบวนการที่ขาดการมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำจากชุมชน” อ.ภารณี นักวิชาการด้านผังเมืองยกตัวอย่าง
นอกจากนี้ อ.ภารณีบอกด้วยว่า การจัดเวทีประชุมในวันนี้ได้มีการแบ่งกลุ่มเพื่อให้ชาวบ้านแต่ละตำบลได้ร่วมกันเสนอความคิดเห็น เพื่อจะรวบรวมข้อมูลนำข้อเสนอของชาวบ้านอำเภอเทพาไปยื่นต่อคณะกรรมการผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้มีการแก้ไขข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินผังเมืองรวมจังหวัดสงขลาให้สอดคล้องกับพื้นที่และความต้องการของชาวบ้านต่อไป
สำหรับข้อเสนอของชาวอำเภอเทพาจากการประชุมเชิงปฏิบัติการมีดังนี้ ตำบลเกาะสะบ้า มีข้อเสนอต่อการแก้ไขผังเมือง คือ 1.ไม่ต้องการให้มีโรงงานอุตสาหกรรม เพราะเป็นเขตเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย 2. กำหนดโซนที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ ฯลฯ ตำบลปากบาง 1. ต้องการเขตอนุรักษ์และเกษตรกรรม โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลและปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2.ให้เปลี่ยนพื้นที่สีเหลืองใช้ทำกิจกรรมประมงชายฝั่งและเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน สร้างพื้นที่สุขภาพของชุมชนในพื้นที่ริมทะเล 3.ไม่เอาโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน ท่าเรือน้ำลึก และโรงงานขนาดใหญ่ ฯลฯ
ตำบลบางใหญ่ มีข้อเสนอให้กำหนดพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การจัดการน้ำ ฝายมีชีวิต สร้างพลังงานแสงอาทิตย์ พื้นที่อนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ฯลฯ ตำบลเทพา มีข้อเสนอไม่ต้องการโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ไม่ต้องการท่าเรือน้ำลึก แต่ต้องการท่าเรือประมง เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม นอกจากการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้แล้ว ในช่วงที่ผ่านมา ชาวอำเภอเทพาได้รวมตัวกันขับเคลื่อน ‘ยุทธศาสตร์เทพาที่ยั่งยืน’ โดยมีวิสัยทัศน์ คือ “คนเทพา อยู่ดี กินดี มีความสุขอย่างยั่งยืน” ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนเพื่อจัดทำข้อเสนอการแก้ไขผังเมืองในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เทพาที่ยั่งยืน เพื่อกระตุ้นให้ชาวเทพามีความตื่นตัวและมองเห็นถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับชุมชนท้องถิ่นของตัวเอง และพร้อมที่จะร่วมกันปกป้องและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้อำเภอเทพามีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 978 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 67,700 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น สวนยาง ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว สับปะรด ประมงพื้นบ้าน ฯลฯ โดยก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2560-2561 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีแผนงานส่งเสริมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินที่อำเภอเทพา แต่ถูกชาวบ้านรวมตัวกันคัดค้านเพราะกังวลเรื่องผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหินจนโครงการต้องยกเลิกไป
เดิมผังเมืองรวมจังหวัดสงขลามีพื้นที่สีเขียวหรือเกษตรกรรมค่อนข้างมาก
ผังเมืองที่แก้ไขใหม่ทำให้พื้นที่เกษตรลดลงกลายเป็นพื้นที่อยู่อาสัยและอุตสาหกรรม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |