23พ.ค.62-นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้เดินทางมาสักการะพระพุทธบารมีศักดิ์สิทธิ์สยามิศรจักรี สัฏฐีอนุสรณ์ ศึกษาทรรังสรรค์ พระพุทธรูปประจำ ศธ. สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของ ศธ. ตอนหนึ่งว่า ศธ.ถือเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานที่สร้างอนาคตของประเทศ ถ้าเราสร้างไม่ดี อนาคตของประเทศก็จะลำบาก เนื่องจากประเทศจะเดินหน้าไปได้เพราะคน ถ้าคนดี ประเทศก็ดี ประเทศไทยจะมีอนาคตหรือไม่ขึ้นอยู่กับการผลิตเด็กสำหรับอนาคต ซึ่งตนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นกับผู้บริหารของ ศธ. และได้พูดถึงทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคตข้างหน้า ว่า เราต้องการบุคลากรประเภทไหน และได้ย้ำให้ทราบถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรว่า เราไม่ได้เพียงต้องการสร้างทักษะความสามารถในการประกอบอาชีพ แต่เราต้องการสร้างบุคลิก ค่านิยม ที่ถูกต้องให้แก่เด็กในอนาคตข้างหน้า สังคมจึงจะอยู่ได้เด็กมีภูมิต้านทานในการดำรงชีวิต และหากพบว่ามีปัญหาสังคมเยอะเราจะไปโทษที่คนอย่างเดียวไม่ได้ คงต้องโทษที่ระบบการศึกษา ดังนั้นเวลาจะดำเนินการอะไรต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย เพราะทุกคนกว่าจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งต่างๆ ในทุกวันนี้ได้ก็ต้องผ่านระบบการศึกษาไทยมาก่อน ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่มองว่ามันไม่ดี หรือล้าสมัยก็จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยน อย่าไปยึดกฎเกณฑ์วิธีกรรม ให้ยึดในสาระสำคัญมากกว่า
นายสมคิด กล่าวต่อว่า ตนยังได้พูดถึงการบูรณาการการเชื่อมต่อระหว่างการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษา ว่า บุคลากรในระดับมหาวิทยาลัยนั้นจะไม่มีทางผลิตได้เลย ถ้าบุคลากรในระดับพื้นฐานไม่สอดรับกับทิศทางการผลิตได้ และอาชีวศึกษาเป็นการศึกษาที่สำคัญมากสำหรับอนาคตประเทศไทย อีกทั้งการศึกษาของประเทศในอนาคตข้างหน้า ไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องไปหาปริญญาตรีปริญญาโท บุคคลใดก็ได้ ถ้าต้องการมีวิชาชีพ ประกอบธุรกิจด้วยตนเอง ก็สามารถศึกษาด้านอาชีวะได้ ซึ่งการพัฒนาด้านอาชีวศึกษา หลักสูตรต่างๆ ก็เป็นสิ่งจำเป็น และการที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีในอนาคตข้างหน้านั้น ศธ.ต้องมีแนวร่วม ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน สถาบันที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ ให้เข้ามาช่วยแนะนำ และจะต้องให้รู้จักการใช้เทคโนโลยีในการการเรียนการสอนและทำให้การศึกษาเข้าถึงชนบท เพื่อให้คนที่ยากไร้ คนในพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงข้อมูลและการศึกษาบางอย่างที่เป็นประโยชน์ เพราะวิชาชีพบางอย่างอาจจะไม่จำเป็นต้องมีอาจารย์ หากข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งถึงประชากรทุกคน เช่น การทำการเกษตร ปลูกพืชชนิดต่างๆ วิธีการปลูก เป็นต้น ซึ่งอินเตอร์เน็ตหมู่ก็มีแล้วดังนั้นการศึกษาต้องมีการประยุกต์ให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงให้ได้
นายสมคิด กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการพัฒนาบุคลากรครูเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ตนได้แนะนำว่าควรพัฒนาครู เพื่อเพิ่มความสามารถ เพิ่มทักษะ โดยดึงเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้วย และก็ยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของครูให้ดีขึ้น ต้องดูแลจริงๆ เพราะทุกวันนี้ครูก็เป็นหนี้เยอะอยู่แล้ว ตนเคยหารือกับธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้ครูด้วย เพราะตนมองว่าหากครูเป็นหนี้คงไม่มีจิตใจในการสอน ถ้าครูไม่ดีเด็กก็ไม่มีทางดี ดังนั้นตนจะพยายามเต็มที่เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ อีกทั้งกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) ต้องกลับไปเน้นเรื่องการผลิตครูจริงๆ และต้องเป็นการผลิตครูที่มีความสามารถแห่งอนาคต และการฝึกสอนจะต้องรับใช้ชนบทและในส่วนภูมิภาค สุดท้ายตนก็ได้เน้นเรื่องการสร้างระบบฐานข้อมูล หรือ Bigdata เพราะข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเป็น ศธ.และไม่มีข้อมูลอะไรเลยนโยบายการศึกษาก็ได้แต่เกิดจะการเดา ผิดพลาดหรือถูกต้องก็ไม่มีใครรู้ ก็เป็นที่น่ายินดีที่ได้ทราบว่า ขณะนี้ ศธ.กำลังเดินหน้าทำ Bigdata อยู่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม ผมหวังที่จะเป็นการทำงานของทั้ง 4 แท่ง เป็นแท่งที่จะต้องบรรจบ สามัคคี ร่วมกันทำงาน ไม่ใช่เป็นแท่งขนาน
“ผมอยากให้เด็กรุ่นใหม่ของเรามีค่านิยมที่ดี รู้ความสำคัญของครอบครัว สังคม ครู อาจารย์ เชื่อมมั่นในค่านิยมที่ถูกต้อง รู้ประวัติศาสตร์ของประเทศ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราได้ยึดเหนี่ยวและเป็นคนที่อยู่ในกรอบได้ อีกทั้งก็อยากให้ผู้บริหารของ ศธ.ต้องเข้มแข็งมีสมองเป็นของตัวเอง ใช้ความสามารของตัวเอง ในการเสนอเรื่องที่มีประโยชน์ให้รัฐมนตรีได้เป็นผู้สั่งการ ไม่ใช่ใช้เวลาส่วนใหญ่เอาใจรัฐมนตรี”ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ศธ.กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |