วันแรกของงานมหรสพสมโภชเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ชุด“พระบารมีเกริกฟ้ารามาวตาร” จำนวน 3 ตอน อย่างสมบูรณ์ สวยงาม และสมพระเกียรติ โดยมีนักแสดงรวมแล้วมากกว่า 1,000 ชีวิต พร้อมใจแสดงนาฏกรรมชั้นสูงอันเก่าแก่ของไทยเฉลิมฉลองในวโรกาสมหามงคลยิ่งของแผ่นดิน โดยมีประชาชนจำนวนมากเฝ้ารอชมเต็มพื้นที่ที่จัดไว้
การแสดงเริ่มจากตอน“สถลมาศเฉลิมราชจักรี” โดยนักแสดงมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุง200 คนเริ่มเรื่องพระรามคิดจะยกกองทัพข้ามมหาสมุทรไปทำสงครามกับทศกัณฐ์ ยังกรุงลงกาจึงบัญชาให้หนุมานและนิลพัทนำไพร่พลไปขนก้อนหินมาทิ้ง ในมหาสมุทรเพื่อทำถนนแต่นิลพัทกับหนุมานเกิดวิวาทกันจนพระลักษมณ์ ต้องมาระงับเหตุพาไปเฝ้าพระรามให้พิพากษาพระรามลงโทษให้นิลพัทกลับไปดูแลเมืองขีดขินและเมืองชมพูมีหน้าที่ส่งเสบียงเลี้ยงกองทัพส่วนหนุมานให้ไปจองถนนให้เสร็จในเจ็ดวันฝ่ายทศกัณฐ์รู้ข่าวจึงสั่งให้นางสุพรรณมัจฉาธิดาพาฝูงบริวารปลาไปคาบก้อนหินไปทิ้งที่อื่นแต่ถูกหนุมานจับได้และตกเป็นชายา ยอมเอาก้อนหินมาคืนจนถนนสำเร็จพระรามจึงยกกองทัพข้ามไปสู่เกาะลงกา
ตอน“เล่ห์อสุรีเมืองลงกา” โดยผู้แสดงมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ150 คนดำเนินเรื่องเมื่อพระรามยกกองทัพข้ามมหาสมุทรมาประชิดติดกรุงลงกาทศกัณฐ์จึงขอให้อินทรชิตราชโอรสยกกองทัพออกไปรบอินทรชิตขอไปชุบศรพรหมาศโดยให้แสงอาทิตย์และมังกรกัณฐ์ออกไปขัดตาทัพแสงอาทิตย์และมังกรกัณฐ์แพ้กองทัพพระรามทศกัณฐ์จึงให้กาลสูรไปแจ้งข่าวแก่อินทรชิตเมื่อกาลสูร ถึงโรงพิธีอินทรชิตกริ้วกาลสูรที่มาบอกข่าวร้ายในกลางพิธีอินทรชิตสั่งให้ ไพร่พลแปลงกายเป็นเทวดานางฟ้าให้การุณราชแปลงกายเป็นช้างเอราวัณอินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ยกขบวนโยธาทัพไปที่สนามรบพระรามได้ใช้ให้พระลักษมณ์คุมกองทัพวานรออกไปกลางสนามรบเห็นกองทัพเทวดาแปลง ยกมาเข้าใจผิดว่าเป็นกองทัพพระอินทร์มาร่ายรำอำนวยอวยพรเหล่ากองทัพ พระลักษมณ์และวานรหลงกลเพลิดเพลินดูเหล่าเทวดานางฟ้าร่ายรำอินทรชิตได้ทีจึงแผลงศรพรหมาศสังหารกองทัพวานรทั้งกองทัพหนุมานเพียงตนเดียว ที่ไม่ถูกศรพรหมาศจึงเหาะขึ้นเข้าต่อสู้กับพระอินทร์แปลงอินทรชิตใช้ศรตี หนุมานจนสลบตกพื้นดินพระอินทร์แปลงจึงยกกองทัพกลับพระรามยกกองทัพมาถึงสนามรบเห็นพระลักษมณ์และไพร่พลถูกศรพรหมาศพระรามจึงกันแสง จนสลบไปพระอินทร์จึงลงมาพรมน้ำทิพย์ชุบชีวิตให้กองทัพพระรามฟื้นคืนชีพพระรามจึงยกกองทัพและไพร่พลกองพลับพลา
และตอน“บรมราชาภิเษกพระราม” โดยผู้แสดงสำนักการสังคีต กรมศิลปากรและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์(สบศ.) จำนวน500 คนถ่ายทอดเรื่องราวขณะที่พระรามทำสงครามชิงนางสีดากับทศกัณฐ์บรรดาเหล่าอสุรพงศ์ต่างล้มตายมากมายทศกัณฐ์จึงยกกองทัพเกรียงไกรพร้อมด้วยสิบรถโอรสและสิบขุนฝีมือเก่งกาจหมายจะเข่นฆ่าพระรามและพลวานรให้พินาศ แต่กลับถูกพระรามและวานรขุนทหารสังหารหมดสิ้นแม้แต่ทศกัณฐ์ก็ถูกพระรามแผลงศรสังหารถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาเมื่อเสร็จศึกลงกา ก็ครบเวลาสิบสี่ปีที่ออกเดินป่าพระราม นางสีดาและพระลักษมณ์จึงเสด็จกลับกรุงอโยธยาพร้อมด้วยโยธาพลากรทรงรับการบรมราชาภิเษกเป็นกษัตริย์องค์ที่3 ปกครองบ้านเมืองผาสุกร่มเย็นด้วยทศพิธราชธรรม
สำหรับการจัดมหรสพสมโภชฯ ณ ท้องสนามหลวง ตลอด 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 22-28 พ.ค. โดยกระทรวงวัฒนธรรม มีการแสดงเวทีกลางตั้งแต่18.30-21.30 น. วันที่23 พ.ค. แสดงมหาดุริยางค์สากลรวมใจภักดิ์ชุด“ทศมราชันขวัญหล้า” บรรเลงดนตรีสากล,วันที่24 พ.ค. มหกรรม“ลูกทุ่งไทยเทิดไท้องค์ราชัน” ,วันที่ 25 พ.ค. มหาดุริยางค์ไทยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์บรรเลงดนตรีไทย,วันที่26 พ.ค. ละครเพลง“ในสวนฝันผสานใจภักดิ์จงรักนฤบดี” รับบทโดยสินจัยเปล่งพานิช ,ธนวรรธน์วรรณธนะภูติ,เบลลาราณีแคมเเบิร์ดและธงไชยแมคอินไตย์ร่วมแสดงและขับร้องเพลง กำกับการแสดงโดยสุประวัติปัทมสูตศิลปินแห่งชาติ, วันที่27 พ.ค. มหกรรมการแสดงนานาชาติเฉลิมพระเกียรติจาก 10 ประเทศเข้าร่วมได้แก่อินโดนีเซีย,เมียนนมา,เวียดนาม,กัมพูชา,มาเลเซีย,สิงคโปร์ฟิลิปปินส์,เกาหลีใต้,อินเดียและจีนและ“นาฏศิลป์ร่วมสมัยรวมใจภักดิ์” และวันที่28 พ.ค. จัดขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะจาก4 ภูมิภาคมหกรรมกลอง มิ่งมงคลและการแสดงพื้นบ้าน4 ภาคเฉลิมพระเกียรติชุด“ปวงประชาน้อมเกล้าฯถวายราชสักการะด้วยภักดี” รวมทั้งมีการแสดงแสงสีเสียง ม่านน้ำไฟประดับชุด“แสงแห่งพระมหากรุณาธิคุณอบอุ่นหล้า” ประชาชนเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา21.30-23.00 น. ทุกวัน