ปภ.รายงาน 10 จังหวัดประสบภัยพายุฝนฟ้าคะนอง บ้านเรือนเสียหาย 293 หลัง มีผู้บาดเจ็บ 6 คน อุตุฯ เตือนยังมีฝนตกหนักทั่วทุกภาค
    เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต. ได้ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของบ้านเรือนราษฎร ต.นาเชิงคีรี อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย หลังถูกพายุฝนพัดถล่มเมื่อคืนที่ผ่านมา จนทำให้บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 6 และหมู่ 8 มีบ้านพังรวมกว่า 100 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่อีกนับสิบต้นถูกพายุพัดโค่นล้มขวางถนนทางเข้าอุทยานแห่งชาติรามคำแหง หรือเขาหลวง ตรงบริเวณหมู่ 8 บ้านน้ำลาด ต.นาเชิงคีรี เป็นระยะทางยาว ทำให้สายไฟฟ้าขาดหลายจุด เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และชาวบ้านต้องช่วยกันใช้เลื่อยตัดต้นไม้ เร่งเคลียร์พื้นที่บนถนน เปิดทางให้รถวิ่งสัญจรได้โดยเร็ว
    หนองคาย เช้าวันเดียวกัน นายแสงจันทร์ สิงห์บัว รองนายกเทศมนตรีตำบลหนองสองห้อง อ.เมือง พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหนองสองห้อง และผู้นำชุมชน ออกสำรวจและตรวจเยี่ยมประชาชนที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนเสียหาย โดยเฉพาะบ้านของนางสาวสมัย คำพิฑูรย์ เลขที่ 195 หมู่ 12 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมือง ที่หลังคาบ้านถูกพายุพัดเสียหายเกือบทั้งหมด และตรวจเยี่ยมนายสุรพล คิดสำราญ บ้านเลขที่ 86 หมู่ 11 ต.ค่ายบกหวาน ที่ต้นมะปรางและต้นลำไย ถูกพายุพัดโค่นล้มทับบ้านบางส่วน
    สำหรับความเสียหายโดยรวมอยู่ระหว่างสำรวจ เบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนประชาชนถูกพายุพัดพังเสียหายในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเฝ้าไร่ จำนวน 8 หลัง อำเภอเมือง เฉพาะในเขตเทศบาลตำบลหนองสองห้อง 3 หลัง และอำเภอท่าบ่อ เฉพาะในเขตเทศบาลตำบลโพนสา จำนวน 3 หลัง
    ตราด เช้าวันพุธ เกิดฝนหนักในตัวเมืองตราด ส่งผลให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองตราด ตำบลวังกระแจะ และตำบลหนองเสม็ด มีน้ำท่วมขังผิวการจราจร เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน ทำให้การสัญจรติดขัดเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้ปกครองและประชาชนกำลังเดินทางมาส่งลูกไปโรงเรียนและทำงาน โดยจุดสำคัญที่เกิดน้ำท่วมขังถนนเกือบทั้ง 4 เลน คือ บริเวณหน้าร้านเมย์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ถนนสุขุมวิท เขตเทศบาลเมืองตราด ทำให้การสัญจรของรถทุกชนิดต้องขับขี่ฝ่าน้ำที่ท่วมขังได้เพียงเลนเดียว มีระดับน้ำท่วมขังประมาณ 10-30 เซนติเมตร เทศบาลเมืองตราด ต้องนำรถดับเพลิงมาช่วยเร่งระบายน้ำอีกทางหนึ่ง  
    ลำพูน เกิดพายุพัดต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นทับรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บม 9479 ลำพูน บนถนนสายลี้-แก่งก้อ ช่วงอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ต.ก้อ อ.ลี้ รถพังเสียหายยับเยิน ส่วนคนขับรถโชคดีไม่เป็นอันตราย เพราะจอดรถลงไปหาซื้อเห็ดที่มักตั้งแผงขายริมถนนบริเวณนั้น
    นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 20-22 พ.ค. เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม พะเยา พิษณุโลก นครสวรรค์ อุดรธานี น่าน เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน รวม 23 อำเภอ 38 ตำบล 72 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 293 หลัง มีบาดเจ็บ 6 ราย (เชียงใหม่) 
    กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายลักษณะอากาศในรอบ 24 ชั่วโมงถึงเที่ยงวันที่ 23 พ.ค. ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง โดยหลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ บ้านเรือนที่ไม่แข็งแรง รวมถึงอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย 
    สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง 
    พยากรณ์อากาศ ภาคเหนือ อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และตาก 
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา 
    ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสมุทรสงคราม ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา 
    ภาคตะวันออก    มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร 
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่.