บช.น.แถลงจับยาบ้าหลายคดีรวมกว่ากว่า 6 ล้านเม็ด รวบสมุนแก๊งต่ำเอี่ยว เผย เสี่ย อ.-เสี่ย จ.ตัวการใหญ่ อีกรายได้ตัวนักค้ายาเสพติดรายใหญ่วัย 19 ปี พบเงินหมุนเวียนในบัญชีถึง 1.4 พันล้าน
ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น., พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบ.ช.น., พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดหลายคดี พร้อมด้วยของกลางยาบ้ากว่า 6 ล้านเม็ด
คดีที่ 1 จับกุมนายสมภพ คำจันทร์ อายุ 20 ปี นายมนัส หรือแบงค์ สาระบุตร อายุ 30 ปี นายศรายุทธ หรือบิ๊ก วงค์ต่อม อายุ 24 ปี และนายสุรชาติ หรืออุ้ย ควรบุปผา อายุ 32 ปี พร้อมยาบ้าจำนวน 5,444,200 เม็ด ยาไอซ์ 876.8 กรัม รถกระบะ 1 คัน รถตู้ 1 คัน รถยนต์ 4 คัน และปืนพกสั้น ยี่ห้อกล็อก 19 ขนาด 9 มม. 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ 3 คัน
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนได้ขยายผลการจับกุมคดียาเสพติด จนสืบทราบว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่บ้านเลขที่ 199/14 หมู่บ้านโกลเด้นทาวน์ ม.1 ต.บางรักใหม่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้ทำการตรวจค้น พบยาบ้า 1.4 ล้านเม็ด ต่อมาได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาทั้งสี่ได้ที่ริมถนนรังสิต-นครนายก คลองสามต่อเนื่องคลองสี่ ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมยึดยาบ้าอีก 4 ล้านเม็ด
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ สนธิกำลังจับกุมนายธนานนท์ หรือนนท์ เอกวรานนท์ อายุ 29 ปี นายหย่าชู หรือทัศน์ ขะล่ากู่ อายุ 28 ปี นายศรันย์ หรือป๊อป จิตต์ประภา อายุ 29 ปี และนายณัฐวัฒน์ หรือซัน แสงชู อายุ 33 ปี พร้อมยาบ้า 240,000 เม็ด รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง จับกุมได้ที่ถนนบางนา-ตราด แขวงและเขตบางนา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของเครือข่ายทางภาคเหนือ
อีกคดี เจ้าหน้าที่งานสายตรวจจับกุมนายนลทวัฒน์ พะสุธาวงศ์ อายุ 19 ปี ในฐานความผิดร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ยาบ้า, ไอซ์, ยาอี หรือเมตแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางเงินสด 3.7 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 61 ตำรวจ 191 ตรวจพบยาบ้า 1.5 ล้านเม็ด ก่อนจะติดตามจับกุมผู้ต้องหา 4 คน คือนายฐิติรัตน์ มาลัยทอง อายุ 24 ปี นายวีระพงษ์ คงใหญ่ อายุ 23 ปี นายพงศกร หรือกร แดงสุก อายุ 23 ปี ได้ เหลือเพียงนายนลทวัฒน์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมได้ที่ย่านฝั่งธนฯ พร้อมของกลางเป็นเงินสด 3.7 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม-5 พฤษภาคม นายนลทวัฒน์มีเงินหมุนเวียนในบัญชี 1,410 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าเป็นตัวการใหญ่ในขบวนการ อีกทั้งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ บช.ปส.อีกด้วย
ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดทั้งหมดนี้เป็นการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดไม่ให้เข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และถือเป็นการจับกุมยาเสพติดที่มากที่สุด โดยจับกุมยาบ้ากว่า 6 ล้านเม็ด ยาไอซ์กว่า 1 พันกรัม อาวุธปืน และอื่นๆ ซึ่งจากนี้ได้สั่งการให้ขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและผู้สั่งการทั้งหมด
ขณะที่ พล.ต.ต.สำราญกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่งานสายตรวจอยู่ระหว่างการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด โดยคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10 ราย ซึ่งเป็นระดับสั่งการ มีทั้งอยู่ในประเทศและต่างประเทศ โดยในคดียาบ้า จำนวน 5,444,200 เม็ด พบว่าเป็นเครือข่ายของแก๊งต่ำเอี่ยว มีเสี่ย อ.และเสี่ย จ. เป็นตัวการใหญ่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |