22 พ.ค.62 - จากกรณีนายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พร้อมด้วย นายปรีชา เจนณรงค์ ปลัดเทศบาลตำบลราไวย์ และ นายวรพงศ์ โยธาสุทธิ์ กับตันเรือใบซีแอทต้า ได้ลงพื้นที่ดำน้ำสำรวจในทะเลบริเวณใกล้เกาะราชาน้อย ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต โดยพบวัตถุมีลักษณะคล้ายปืนใหญ่โบราณขนาดความยาวประมาณ 1เมตร และหีบขนาดใหญ่อีก 1 ใบอยู่ที่พื้นทราย จึงบันทึกภาพก่อนแจ้งรายงานไปยังจังหวัดเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ

ล่าสุด นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายธวัชชัย ชั้นไพศาลศิลป์ หัวหน้ากลุ่มโบราณคดีและอนุรักษ์โบราณสถาน สาขาภูเก็ต นายโกมาต แป้นเกิด วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต นายธีรพงศ์ เถาว์แดง รองนายกเทศบาลตำบลราไวย์ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ และแผนกสรรพาวุธ ทัพเรือภาค 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบวัตถุอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ทีมประดาน้ำ จากกองทัพเรือได้ดำน้ำลงไปตรวจสอบพร้อมถ่ายภาพ รายงานเบื้องต้นจากการตรวจสอบระบุว่า ส่วนที่มีลักษณะคล้ายตัวกระบอกปืนใหญ่นั้นเป็นปืนใหญ่โบราณจริง มีความยาว 1 เมตร ส่วนหัวพบเชือกมัดเป็นปม บริเวณท้ายกระบอกมีรูชนวน และทำเป็นตุ่มกลม วัดความกว้างปากกระปืนรอบนอก 20 เซนติเมตร รอบใน 15 เซนติเมตร ส่วนวัตถุอีกชิ้นที่มีลักษณะคล้ายหีบนั้นพบว่าเป็นฐานปืนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเหล็กรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ความยาว 155 ซม. ด้านหน้ากว้าง 126 ซม. ด้านที่ติดกับท้ายกระบอกปืนกว้าง 90 ซม.และบางส่วนจมอยู่ในทรายอีกไม่ต่ำกว่า 70 ซม.

นายธัญญวัฒน์ กล่าวว่า จากการที่เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ และแผนกสรรพาวุธ ทัพเรือภาค 3ดำลงไปสำรวจแล้วได้รับการยืนยันว่าน่าจะเป็นปืนใหญ่โบราณประจำเรือช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงกับปืนใหญ่ที่พบที่หลังบ้านพักผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนองเมื่อปี 2526 ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่หน้าศาลจังหวัดระนอง ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของกรมศิลปากรเข้ามาดำเนินการต่อไป 

ด้านนายโกมาต แป้นเกิด วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากนี้จะแจ้งไปยังกองโบราณคดีใต้น้ำ กรมศิลปากร เพื่อจะให้เข้ามาสำรวจพื้นที่บริเวณนี้ว่ามีวัตถุต่างๆอีกหรือไม่ ก่อนจะทำการกู้ขึ้นไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติถลาง ดำเนินการตามกระบวนการเก็บรักษาเป็นสมบัติชาติต่อไป