พลังชุมชนไทย


เพิ่มเพื่อน    

 

          ไม่มีใครปฏิเสธว่า "พลังชุมชน" เป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนสังคมให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน แต่การรู้จักใช้ "พลังชุมชน" เพื่อสร้างความแข็งแกร่งหรือพลังขับเคลื่อนที่ดีนั้น ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้อีกเช่นกัน มิเช่นนั้น พลังที่ดีก็อาจจะกลายเป็นบิดเบี้ยวผิดทิศผิดทางได้

          ความพยายามในการใช้พลังชุมชนเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวมนั้น หากว่ากันตามจริงแล้ว ภาคเอกชนหลายแห่งแสดงศักยภาพได้ไม่น้อยหน้ากว่าหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่หลักอยู่แล้ว ที่เห็นชัดๆ ก้าวไกลไปถึงเมืองนอกเมืองนา ก็ต้องยกนิ้วให้กับ โครงการ “King Power Thai Power พลังคนไทย”

          เพราะการใช้กีฬาซอกเกอร์นำร่องในประเทศอังกฤษ ให้ภาคพื้นยุโรปรู้จักพลังคนไทย และต่อยอดด้วยการนำสินค้าไทยให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ นับเป็นสุดยอดกลยุทธ์ เพราะไม่ดูเป็นการโฆษณาชวนเชื่อหรืออวดอ้างเกินจริง แต่สามารถจับต้องและพิสูจน์ทราบได้จริง

          "ผมว่าคำว่า THAI POWER มันชัดเจน ถ้าเราเอาพลังของคนไทยมารวมกันแล้วก็ทำในสิ่งที่ดีให้กับสังคม ช่วยกันพัฒนาประเทศ ผมว่าสิ่งดีๆ และสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย" คุณต๊อบ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ ที่เดินตามรอยบิดาในความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสินค้าไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก ถือเป็นคำตอบที่ชัดเจน

          ดังนั้นโอกาสที่คิงเพาเวอร์จะนำสินค้าจากภูมิปัญญาของคนไทยโดยชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย มารวมอยู่ที่เดียวกันในรูปแบบงานแฟร์ยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่องาน ‘พลังคนไทย พลังชุมชนไทย’ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก จากความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ คิงเพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย โดยกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2562 ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนนี้ เวลา 10.30-20.30 น. ณ มหานคร สแควร์ คิงเพาเวอร์ มหานคร..จึงเป็นงานที่ไม่ควรจะพลาด!!!

          อ่านจากการประชาสัมพันธ์มีการระบุว่า งานนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงพลังและศักยภาพของชุมชนไทย ผู้ผลิตไทย และนักออกแบบไทย ผ่านงานแสดงสินค้าชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่น ภายใต้แนวคิด ‘เชื่อในพลังคนไทย’ และเป็นเวทีเพื่อสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนา และประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ และนำไปสู่การกระจายรายได้คืนกลับสู่ชุมชนในที่สุด โดยแบ่งเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่

          1.โซนสินค้าชุมชน รวมรวมสินค้าไฮไลต์ของดีของเด็ดจากผู้ผลิตตรงจากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทยกว่า 30 ร้านค้า ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าบาติก-คราม ผ้าทอมือโบราณลายตีนจก ผ้าไหมมัดหมี่ งานจักสานไม้ไผ่ งานเซรามิก งานปั้นจิ๋ว เครื่องประดับเงิน เครื่องทอง สินค้าโอท็อป 5 ดาว อาหารแปรรูป และอีกมากมาย

          2.โซนอาหาร รวมเจ้าเด็ดเจ้าดังต้องต่อคิวยาวกว่า 17 ร้าน อาทิ โหวเส็ก ราชาบะหมี่ฮ่องกง ต้นตำรับจากเกาะฮ่องกง, ละมัยหอยทอดเยาวราช, เจ็กเม้งข้าวมันไก่สองสี รองเมือง, กั้งบ้านเพ ระยอง, ข้าวขาหมูสามย่าน, ติดลมหมูทอดปลาร้า เกษตรนวมินทร์, การิม โรตีมะตะบะ ถนนพระอาทิตย์, ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช ฯลฯ

          นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและอาหารสตรีทฟู้ดเลิศรสแล้ว ยังมีอีกหนึ่งความพิเศษของงานนี้คือ เวทีการสาธิตการผลิตสินค้าชุมชนที่น่าสนใจจากชาวบ้านท้องถิ่น พร้อมตื่นตาตื่นใจกับการแสดงอักษราหุ่นละครเล็ก ที่ยังคงอนุรักษ์ท่วงท่าร่ายรำอันอ่อนช้อย ละเมียดละไมในแบบไทยเดิมไว้อย่างครบถ้วน

          มนุษย์ลุงมนุษย์ป้าทั้งหลาย ลุกขึ้นไปเที่ยวงานแฟร์กลางมหานครกันดีกว่านะคะ.

                                                                                                  "ป้าเอง"          


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"