เห็นข่าว ว่า............
"คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ" จะตั้งพรรค กปปส.?
ก็ตั้งไป
แต่ขอทบทวนกับคุณสุเทพเพื่อแน่ใจและเข้าใจที่ตรงกันของ "มวลมหาประชาชน" นิดหนึ่ง
ยังยึดสัญญา "ปฏิรูปต้องมาก่อน" หรือไม่?
ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นข่าวบอก พรรค กปปส.ชูประเด็น "หนุนพลเอกประยุทธ์" เป็นนายกฯ
ก็เลยไม่แน่ใจ.......
ว่าสัญญากับเจตนาตั้งพรรค เป็นเรื่องเดียวกัน หรือ "คนละเรื่องเดียวกัน"?
เพราะพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ มา ๔ ปี
เรื่องปฏิรูประบบราชการ นอกจากทางพูด ก็ไม่เห็นทางทำ ให้เป็นจริงจัง
แบบนี้ จะแน่ใจได้อย่างไร ว่าถ้าพรรค กปปส.หนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อในระบบเลือกตั้งแล้ว
พลเอกประยุทธ์จะปฏิรูป?
และสมมุติ ในรัฐบาลเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ตามเสียงสนับสนุนพรรค กปปส.จริง
ถามอีกคำ..........
ให้มีหรือไม่ให้มี "พลเอกประวิตร" เป็นเหล้าพ่วงเบียร์ใน ครม.?
ผมสนับสนุนทุกคนที่ ทั้งตัวเองและบริวารไม่โกง และพูดแล้วต้องทำ
สำเร็จ-ไม่สำเร็จ.......
นั่นไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่ปัญหา
"ไม่ทำ" ตามที่พูด นั่นตะหากคือ ปัญหาและประเด็น!
ถามเท่านี้ เพื่อไม่พะรุง-พะรังใจ ว่าจะ "เลือก-ไม่เลือก" ในวันหย่อนบัตร
กรณี "คุณวิเชียร" ทุ่งใหญ่นเรศวร
กับกรณีคุณป้าตลาดล้อมที่ประเวศ
นี่คือตัวอย่างยืนยัน ขณะนี้ สังคมประเทศ "ป่วย" ขั้นรุนแรง ขืนปล่อยต่อไป ล้มแน่
สาเหตุที่ป่วย.........
เพราะ "ระบบราชการ" เป็นที่พึ่ง-เป็นที่เชื่อถือของประชาชนไม่ได้
โดยเฉพาะด้าน "ซื่อสัตย์-ซื่อตรง" ในการใช้กฎหมาย!
นายเปรมชัย ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เข้าป่าล่าสัตว์สงวน เป็น ๒๐-๓๐ ปีมาแล้ว
นายเปรมชัยเข้าไปเองได้หรือ?
ถ้ากลไกระบบราชการทำงานด้วยสำนึกในข้าวและน้ำที่ประชาชนราดรด
ถ้าอำนาจในระบบรัฐไม่เกื้อสม กระทั่งตัวคนร่วมเข้าไปล่า ครั้งแล้ว-ครั้งเล่า, ปีแล้ว-ปีเล่า
และถ้าข้าราชการตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่าง "คุณวิเชียร ชิณวงษ์"
ไม่ยอมขบถต่อระบบราชการอสัตย์
โดยไม่สน "อำนาจเหนือ".........
จับนายเปรมชัย หยุดยั้งการล่าสัตว์ ธำรงไว้ซึ่งกฎหมาย-กฎระเบียบบ้านเมือง ดังปรากฏละก็
สังคมก็ยังคงเป็นสังคมหลับใหล.......
หลับใหลในภาวะ "ตัวใคร-ตัวมัน" มือใครยาว สาวได้-สาวเอา!
ระบบราชการ ก็ยังคงเป็น "ระบบน้ำนิ่ง" คือน้ำเน่า เคล้ากลุ่มทุนอุปถัมภ์
และกรณี คุณป้าที่ถูกอธรรมรังแก ที่เขตประเวศ
ถ้าระบบราชการทำงาน เหตุการณ์ทุบรถอย่างวานซืนจะไม่เกิด
ก็เพราะระบบราชการ "เป็นใจ" ลื่นไหลไปกับระบบไซด์ไลน์ จนใกล้ฝังรากเป็น "มรดกทางวัฒนธรรมอสัตย์"
ปล่อยให้คนมักได้-เห็นแก่ตัว เหยียบหัวกฎหมาย เหยียบหัวคณะบริหาร กทม.
ซ้ำเหยียบย่ำ-รังแกสุจริตชน คุกคาม-รุกล้ำ สิทธิส่วนบุคคลถึงในสถานที่อยู่อาศัย
ตั้งตลาดทั้งเถื่อน-กึ่งเถื่อน ล้อมบ้าน เป็นเหตุให้ผู้คนนำรถมาจอดปิดทางเข้า-ออก แม้ร้องศาล ร้องป.ป.ช. ร้องเขต
มีแต่ "อำนาจเถื่อน" มาเยือน..........
"อำนาจธรรม" เป็นสิบปี ยังคลำทางมาไม่ถึง!?
ขวานของคุณป้าคือ "ขวานฟ้า"
จามเปรี้ยงเดียว สะท้านทั้งระบบราชการและระบบสังคมเห็นแก่ตัว!
เพราะมีคนตาย จึงมีป้ายปักจารึก ฉันใด
เพราะระบบราชการไม่เดิน......
ประชาชนจึงต้องลุกขึ้น จับขวาน ตะโกน..สู้ ฉันนั้น!
ทำให้ต้องทบทวนความจริงที่เจ็บปวดว่า มนุษย์ทุกคนในสังคมโลก ล้วนปรารถนาความยุติธรรม
แต่ความยุติธรรมนั้น จะมีประโยชน์อะไร?
ถ้าระบบใช้เวลา ๕ ปี ๑๐ ปี กว่าจะผลิต "ความยุติธรรม" ออกมาให้สักเม็ด
ซึ่งนั่น ประชาชนผู้ถูกอยุติธรรมรังแก ตายเพราะตรอมไปก่อนแล้ว!
โบราณท่านให้คำเปรียบเทียบ ฟังดูตื้น แต่ถ้าใคร่ครวญดั่งมหาสมุทรสุดลึก
"กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้"
กระบวนการทางกฎหมายบ้านเมืองไทย เป็นเช่นนี้ เป็นกระบวนการตอบโจทย์ "ระบบสารบรรณ"
ไม่ตอบโจทย์ "วิถีชีวิตจริง" ประชาชน ที่ต้องหมุนวนไปตลอดเวลา
แล้ว ๕ ปี ๑๐ ปี บางที ๒๐ ปี ถึงจะมีคำตอบออกมา
คำตอบนั้น ก็เหมือน "งาที่ไหม้"............
ถามว่า จะได้ใช้ประโยชน์อันใดกัน?
นั่นคือ การปฏิรูประบบราชการ นับเป็น "เรื่องด่วน" ของสังคมไทย ที่คนวันนี้ ต้องรื้อจิตสำนึก
ปรับมาตรฐานระบบสู่อนาคตใหม่ เพื่อลูกหลานของเราในศตวรรษใหม่ที่จะมาถึง
ทุกวันนี้ เราแค่เอา "คำศีล-คำธรรม" หุ้มไส้ "เถื่อนแท้" ในการกระทำกันแทบทั้งนั้น
ไม่ว่าระบบรัฐ-ระบบราษฎร์ กระทั่งคนหัวโล้น-ห่มเหลืองพวกหนึ่ง ก็เป็นเช่นนี้
จึงต้องเน้น-ย้ำ ว่าต้องปฏิรูป รื้อ-ร้าง ระบบราชการ ที่อ่อนล้า-หย่อนยาน "เอายศ-เอาตำแหน่ง-เอาเงิน"
แต่ "ไม่เอาหน้าที่"!
ไม่เอาหน้าที่ ก็พอทน ประเภท "ไม่เอา-ไม่มีจิตสำนึก" ในความเป็นคนราชการนี่ซี
อันตรายต่อการก้าวหน้าและการคงอยู่ของชาติบ้านเมือง!
เพราะอย่างนี้.........
เราจึงควรช่วยกันเพาะ ช่วยกันเสริมสร้าง และช่วยกันให้กำลังใจ "คนกบฏสังคมอธรรม"
อย่าง "คุณวิเชียร" ทุ่งใหญ่นเรศวร
อย่างคุณป้า "ขวานประกาศิต" ที่ประเวศ
สังคมทุกวันนี้ ระบบราชการไม่รังแก ก็เหมือนรังแก ฉะนั้น อย่าหวังพึ่งคนในระบบมากกว่า "พึ่งตัวเอง"
ต้อง "เสี่ยงสู้" เท่านั้น จึงจะอยู่ในสังคมระบบไซด์ไลน์ได้
อย่างคุณป้า สมมุติขวานที่จามเปรี้ยงลงไปนั้น "ด้าน"
คือกระแสสังคม "ไม่รับ"............
คุณป้า "ตายยกบ้าน" แน่ๆ
เพราะตลาดที่รายล้อม แม่ค้า-แม่ขาย มอเตอร์ไซค์ ตำรวจ เขต กทม. ลูกค้าขาจร-ขาประจำ
ต้องรุมยำว่า "ป้าทุบรถ" เป็นมนุษย์มหาภัย เข้าข่ายอาชญากรร้าย ป่านนี้ ไม่รู้ข้อหาอะไร-มิต่ออะไร โปะใส่กันเต็มไปแล้ว
ได้ยินเจ้าของรถที่ถูกทุบแล้วมิใช่หรือ แทนจะสำนึก ที่จอดรถปิดทางบ้านเขา แถมล็อกเกียร์ไม่ให้เข็น
ยกแรก ล็อกไซด์ไลน์เชียร์ ได้ใจ ถึงออกปาก "จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด"
แสดงให้เห็นว่า สังคมคนวันนี้ สำนึกและแยกแยะ "ผิด-ถูก-ชั่ว-ดี" ไม่ออก ยึดประโยชน์ตนเป็นที่ตั้ง ทำแล้วถูกสถานเดียว
ตำรวจ ยึดบรรทัดกฎหมายก็ไม่ว่าอะไร..........
แต่มีมั้ย ที่จะแสดงสำนึกทาง "เห็นใจ-เข้าใจ" ต่อผู้กระทำ คือคุณป้า ที่ถูกกระทำก่อน
แต่ระบบเมินเฉย จนเขาต้องลงมือพิทักษ์สิทธิตัวเขาเอง?
สิ่งมีชีวิตทั้งมวล "สำคัญสูงสุด" ต้องมีหัวใจ
ก็เช่นกัน.........
สิ่งมีชีวิตที่เรียกมนุษย์ "สำคัญสูงสุด" ต้องมีจิตสำนึก!
ผมจึงเห็นความจำเป็นและสำคัญที่ต้องปฏิรูปคนในระบบราชการให้มี "จิตสำนึก" ในการทำหน้าที่
เมื่อ "จิตสำนึก" มา สังคมเป็นธรรมก็จะมา ด้วยกาลเวลาชีวิตในโลก ไม่ใช่ซากในโลง
อย่ารอให้เสียงปืนดังขึ้นก่อน ค่อยคิด
อย่ารอให้ขวานฟ้าจามก่อน ระบบราชการจึงเดิน
และอย่ารอให้ประชาชนต้องลุกขึ้น แล้วตะโกน
ที่สัญญา....
"ชาตินี้ หรือ ชาติหน้า"?
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |
