รัฐบาลสหรัฐหวั่นผลกระทบต่อลูกค้าของหัวเว่ย ยอมกลับลำผ่อนผันคำสั่งห้ามหัวเว่ยทำธุรกิจกับบริษัทอเมริกันเป็นเวลา 90 วัน แต่ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยเย้ย สหรัฐประเมินความแข็งแกร่งของบริษัทจีนต่ำทรามเกินไป ยันบริษัทเตรียมพร้อมรับมืออยู่แล้ว

โลโก้หัวเว่ยที่ร้านค้าในกรุงปักกิ่ง / AFP

    รายงานของเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 กล่าวว่า การผ่อนผันของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะทำให้บริษัท หัวเว่ยเทคโนโลยีส์ สามารถซื้อสินค้าที่ผลิตในสหรัฐได้ต่อไป 90 วัน หรือถึงวันที่ 19 สิงหาคม เพื่อรักษาเครือข่ายที่มีอยู่และให้เวลาสำหรับการอัพเดตซอฟท์แวร์โทรศัพท์หัวเว่ย แต่บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนแห่งนี้ยังต้องขอใบอนุญาตหากต้องการซื้อชิ้นส่วนและส่วนประกอบจากสหรัฐสำหรับผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ได้รับการอนุมัติ

    วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า การผ่อนผันครั้งนี้เพื่อให้ผู้ดำเนินการด้านโทรคมนาคมที่ใช้โทรศัพท์และเครือข่ายบรอดแบนด์ของหัวเว่ยมีเวลาจัดการ

    ด้านเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย แสดงท่าทีไม่นำพาความพยายามกีดกันของสหรัฐ เขากล่าวกับซีซีทีวีเมื่อวันอังคารว่า หัวเว่ยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์เช่นนี้อยู่แล้ว และการอนุญาตชั่วคราวอีก 90 วันก็ไม่มีผลต่อหัวเว่ยเท่าใดนัก

    "การดำเนินการของรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้เป็นการดูเบาความแข็งแกร่งของเรา" เหรินกล่าว "ระบบ 5จี ของหัวเว่ยไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน หากว่ากันถึงเทคโนโลยี 5จี แล้ว รายอื่นๆ ไม่สามารถตามหัวเว่ยทันภายใน 2-3 ปีนี้"

    เขากล่าวด้วยว่า หัวเว่ยมีปัญหากับรัฐบาลสหรัฐ ไม่ใช่บริษัทของสหรัฐ และหัวเว่ยสามารถผลิตชิพคอมพิวเตอร์ที่ซื้อจากสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหัวเว่ยจะเลิกซื้อชิพของบริษัทอเมริกัน

    กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า กระทรวงจะประเมินต่อไปว่าจะขยายการผ่อนผันเกินกว่า 90 วันหรือไม่

    รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังทำสงครามภาษีศุลกากรกับจีน อ้างเหตุผลที่ห้ามหัวเว่ยดำเนินธุรกิจกับสหรัฐว่าเป็นเพราะการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยขัดต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ

    สัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ประกาศ "ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ" เพื่อให้เขาสามารถขึ้นบัญชีดำบริษัททั้งหลายที่ถูกระบุว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของสหรัฐอย่างยอมรับไม่ได้ นักวิเคราะห์กล่าวกันว่าคำสั่งนี้ของทรัมป์พุ่งเป้าเล่นงานหัวเว่ยโดยเฉพาะ

    เวลาเดียวกันนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐก็ขึ้นบัญชีหัวเว่ยและอีก 68 องค์กรในบัญชีดำห้ามส่งออกสินค้า ซึ่งส่งผลให้บริษัทอเมริกันไม่สามารถขายหรือถ่ายโอนเทคโนโลยีของสหรัฐให้แก่หัวเว่ย.