ชายวัย 66 ปีบุกหน้าทำเนียบฯ ใช้คัตเตอร์จี้คอตัวเองร้องขอความเป็นธรรมจากนายกฯ ระบุทหารในจังหวัดร้อยเอ็ดลอบเป็นชู้กับเมีย ร้องต้นสังกัดแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ที่บริเวณประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ฝั่งตรงข้ามสำนักงาน ก.พ. นายวรพล อายุ 66 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ ก่อเหตุถอดเสื้อนั่งพิงป้ายจราจรกลางถนน โดยใช้ดคัตเตอร์ที่พกติดตัวมาจี้คอตัวเอง เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่านายทหารที่ประจำการ กองพลทหารราบที่ 6 ต.โพธิสัย อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด แอบเป็นมือที่สาม คบหากับภรรยาของตน พร้อมจดทะเบียนสมรส รวมถึงทางภรรยาได้หลอกให้นายวรพลโอนเงินให้จำนวน 280,000 บาท เรื่องนี้ได้ร้องเรียนไปยังต้นสังกัดของทหารคนดังกล่าว แต่ไม่มีความคืบหน้า
    ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาล ได้พยายามเข้ามาพูดคุยและเกลี้ยกล่อมนายวรพล ที่ยังเอามีดจี้คอตัวเอง และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ โดยตำรวจได้พยายามชวนนายวรพลเข้าไปนั่งในที่ร่ม พร้อมทำทีขอดูเอกสาร เพื่อให้นายวรพลเอามีดออกจากคอตัวเอง ก่อนเข้าชาร์ตจับตัวไว้ได้ จากนั้นได้นำนายวรพลไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ฝั่งสำนักงาน ก.พ. โดยนายสาธิต สุทธิเสริม หัวหน้าฝ่ายประสานมวลชน เข้าพูดคุยต่อไป

    พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีชายใช้มีดจี้คอตัวเอง ร้องเรียนนายกฯ เหตุเมียเป็นชู้กับทหารนั้น ศูนย์ประชาสัมพันธ์ได้ตรวจสอบข้อมูลขั้นต้นกับกองพลทหารราบที่ 6 สรุปได้ดังนี้ นายวรพล ผู้ร้องเรียน เคยมีภรรยาชื่อนางปิยวรรณ ปัจจุบันได้เลิกรากันไป โดยการจดทะเบียนหย่าถูกต้องตามกฎหมายเมื่อปี 2558 
    หลังจากนางปิยวรรณเลิกรากับสามีเก่าแล้ว ได้มาพบกับร้อยเอกสมคิด แทงวิเศษ สังกัด ร้อย ลว.ไกล 6 กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสมัยมัธยม และได้ตกลงปลงใจแต่งงานกัน จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเมื่อปี พ.ศ.2559 ซึ่งนายวรพล ผู้ร้องเรียน เคยไปร้องเรียนที่กองพลทหารราบที่ 6 หน่วยได้สอบสวน ปรากฏว่าการอยู่กินกับนางปิยวรรณเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากนางปิยวรรณได้เลิกรากับสามีเก่าอย่างถูกต้อง จดทะเบียนหย่าตามคำสั่งศาล การที่นายวรพลมาร้องเรียนเช่นนี้ ทำให้ร้อยเอกสมคิดได้รับความเสียหาย ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายวรพล โดยจะขึ้นศาลในวันที่ 3 กรกฎาคม 2562.