(ผู้สูงอายุควรกินผลไม้กับโยเกิร์ต หรือกินเป็นกับข้าวที่ทำจากผลไม้ เช่น สับปะรด เพราะการบริโภคผลไม้แบบเดี่ยวๆ จะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลฟรักโทสมากเกินไป ทำให้ตับทำงานหนัก)

      ประชาชนวัยเกษียณคนไหนไม่อยากป่วยช่วงเข้าสู่ฤดูฝนมาทางนี้

      อย่างที่ทราบกันดีว่าคนวัยนี้ใช้ชีวิตและผ่านโลกมายาวนาน บางครั้งการบริโภคอาหารในแต่ละวันอาจสะสมสารพิษโดยที่เราไม่รู้ตัว และนั่นอาจกระทบระบบการย่อย กระทั่งส่งผลไปยังระบบภูมิคุ้มกัน และทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายในช่วงหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นโรคหวัด หรืออาการท้องอืด แน่นท้อง กระทั่งทำให้ตับที่ทำหน้าที่ขับสารพิษทำงานหนักได้โดยไม่รู้ตัว งานนี้หลายคนคงเกิดคำถาม และช่วงฤดูฝนพรำอย่างนี้ คุณตาคุณยายควรรับประทานอาหารชนิดใด ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพและเสริมสร้างภูมคุ้มกัน เพื่อต้านโรคต่างๆ ที่จะมาพร้อมสายฝนพรำ พี่ปู-เอื้อมพร แสงสุวรรณ นักบำบัดโรคด้วยอาหาร NTP (Nutritional Therapy Practitioner) มาให้ข้อมูลไว้น่าสนใจ

(เอื้อมพร แสงสุวรรณ)

        เอื้อมพร นักบำบัดโรคด้วยอาหาร ให้ข้อมูลว่า “เมื่อเข้าสู่หน้าฝน หรือหน้าร้อนสู่หน้าฝน เบื้องต้นต้องบอกก่อนว่า ระบบย่อยและระบบเผาผลาญของคนสูงวัยจะไม่แข็งแรงเท่าวัยอื่นๆ ดังนั้นการไปบริโภคอาหารที่ย่อยยาก หรือเป็นภาระของระบบย่อย เช่น “อาหารแปรรูป” หรือ “อาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี” ที่เราไม่รู้ ก็ควรต้องเลี่ยง นั่นเท่ากับว่าเราต้องเลี่ยงอาหารแปรรูป หรือเลี่ยงสิ่งที่ปนเปื้อนสารเคมี เลี่ยงท็อกซิน (สารพิษ) ดังนั้นอาหารที่ไม่ได้อยู่ในภาชนะพลาสติกก็จะดี เพราะจะทำให้เป็นภาระของระบบย่อย ที่สำคัญตับต้องขับสารพิษค่อนข้างเยอะ ปัจจัยเบื้องต้นเหล่านี้ให้เลี่ยงเลย

(ช่วงหน้าฝน กลุ่มอาหารที่เหมาะกับผู้สูงอายุ คืออาหารกลุ่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง หรือ “อาหารกลุ่มโปรตีนจากธรรมชาติ” เช่น ถั่ว ลูกเดือยและธัญพืชต่างๆ แต่มีข้อจำ�กัดคือต้องแช่น้ำ 1 คืนก่อนนำไปปรุงเป็นเมนูที่ชอบ เพื่อป้องกันโปรตีนแปลกปลอมอย่างกลูเตน ที่จะไปรบกวนระบบย่อย และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย)

      ส่วนอาหารที่ดีต่อระบบย่อยนั้นควรเป็น “อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ “พืชผักที่มีสารแอนติออกซิแดนต์” และเป็นกลุ่มหนึ่งที่สำคัญเพราะช่วยเรื่อง “การขับพิษ” ออกไปด้วย เนื่องจากผู้สูงอายุใช้ชีวิตมานาน นั่นจึงทำให้มีสารพิษสะสมในร่างกาย ดังนั้นก็จะใช้วิธีกินอาหารจากพืช หรือ “กลุ่มโปรตีนจากพืช” หรือ “โปรตีนจากธรรมชาติ” เช่น ถั่ว และธัญพืช (ลูกเดือย, ข้าวโพด, ข้าวสาลี, ข้าวบาร์เลย์) แต่อาหารกลุ่มนี้มีข้อควรระวังคือ ไม่สามารถนำไปต้มรับประทานได้ทันที เราจะต้องเอาไปแช่น้ำก่อนประมาณ 1 คืน เนื่องจากถั่วหรือธัญพืชนั้นจะมีอยู่หลายตัวที่มี “กูลเตน” (Gluten) ซึ่งเป็นโปรตีนแปลกปลอม จะทำให้เป็นภาระของระบบย่อยอาหาร ทำให้ย่อยยาก เนื่องจากโปรตีนดังกล่าวไปก่อกวนระบบย่อย และก่อกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เราจำเป็นต้องป้องกันระบบภูมิคุ้มกัน สิ่งใดก็ตามที่จะไปก่อกวนระบบภูมิคุ้มกัน เราจำเป็นต้องเอาออกก่อน เช่น “อาหารแปรรูป” และ “อาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี” ที่กล่าวข้างต้น

      “อาหารส่วนที่ต้องกินในช่วงหน้าฝนคือ อาหารที่ไม่ได้เป็นพิษ หรือเป็นภาระต่อร่างกายผู้สูงอายุมาก เช่น “โปรตีนธรรมชาติ” และเป็น “อาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนต์” ซึ่งโปรตีนธรรมชาติ คือ อาหารจำพวกธัญพืช ถั่ว ข้าวบาร์เลย์ หรือลูกเดือย ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เนื่องจากมีกูลเตนสูงมาก และก่อกวนระบบย่อยอาหาร กระทั่งส่งผลต่อระบบภูมิกันในร่างกาย จึงต้องนำไปแช่น้ำก่อน 1 คืน จากนั้นล้างน้ำแช่ทิ้ง และนำไปปรุงอาหาร บางครั้งเวลาที่ไปเราไปซื้อลูกเดือยต้มมารับประทาน เราไม่รู้ว่าเขาแช่น้ำหรือเปล่า เราต้องแช่น้ำก่อนจะดีที่สุด เพราะจะทำให้นิ่มและต้มง่าย หรือแม้แต่ข้าวบางชนิดเอง ก็ควรแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนนำไปปรุงเช่น เพราะในข้าวมี “กรดไฟติก” ไปสกัดกั้นการดูดซึมอาหาร และจะมีผลทำให้สมองและความจำลดลง ใช้วิธีง่ายๆ เลยคือ ธัญพืชชนิดใดก็ตามแต่ต้องแช่น้ำ ก่อนนำไปปรุงเป็นเมนูง่ายๆ ที่ผู้สูงอายุชอบได้หมดเลย”

      อีกอันหนึ่งที่ควรบริโภคให้น้อยลง อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้สูงอายุมักจะชอบรับประทาน “ผลไม้” แต่ไม่ควรกินเป็นอาหารเดี่ยวๆ เนื่องจากผลไม้มีน้ำตาลฟรักโทส ซึ่งจะไปสะสมที่ตับทำให้เป็นภาระที่อวัยวะดังกล่าว เพราะเรากำลังพูดถึงเรื่องของระบบย่อย จึงจำเป็นต้องรับประทานผลไม้ร่วมกับอาหาร เช่น กินกับโยเกิร์ต หรือกินเป็นกับข้าว เช่น กินข้าวกับแกงสับปะรด หรือต้มหมูสับปะรด เป็นต้น เราต้องกินเป็นกับข้าว และกินผลไม้เป็นเครื่องเคียง เช่น กินสัปปะรดกับขนมจีนซาวน้ำ ดังนั้นจึงควรกินผลไม้ในรูปแบบดังกล่าว เพราะในผักและผลไม้มีสารแอนติออกซิแดนต์ หรือสารต้านอนุอิสระสูง

(อาหารแปรรูปและอาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี จากการเลือกภาชนะพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน คนสูงวัยที่มักเจ็บป่วยได้ง่ายควรหลีกเลี่ยง และไม่นำเข้าร่างกายโดยเด็ดขาด)

      ส่วนการดูแลสุขภาพทั่วไปช่วงหน้าฝน ถ้าเรารู้ว่าการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด คือกินอาหารให้เป็นเวลา และเมื่อเย็นก็เป็นมื้อที่ควรหลีกเลี่ยง ทั้งนี้เพื่อให้ระบบย่อยได้พัก ที่สำคัญก็ควรออกกำลังกายบ้าง เช่น ถ้าชอบรำไท้เก๊กก็ทำ หรือถนัดที่จะเดินก็ได้ หรือแม้แต่การอยู่บ้านเลี้ยงหลาน เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายก็จะลดไขมันที่ไม่ดี หรือ “แอลดีแอล” (LDL) พอลดไขมันไม่ดีได้ เรื่องของระบบภูมิคุ้มจะกันดีขึ้นค่ะ”.