ปล่อยผีปลดล็อกมิ.ย. 'วิษณุ'ชี้รอเลือกตั้งท้องถิ่น บิ๊กตู่ปลุกไทยนิยมนครปฐม


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กตู่" คิกออฟ "ไทยนิยม ยั่งยืน" พื้นที่นครปฐมคุยกับชาวบ้านจนคอแห้งหมดแรงข้าวต้ม พลิ้วอีกผมไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นทหารที่เข้าใจ ปชช. ปลุกชาวบ้านไปเลือกตั้งเมื่อถึงเวลา ให้เลือกรัฐบาลของปวงชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เดี๋ยวจะตีกันอีก รมว.เกษตรฯ ผิดคิว! โยนกล้าข้าวนาโยนหล่นใส่หัวนายกฯ  “วิษณุ” เผยปลดล็อกคำสั่ง คสช. มิ.ย.เปิดประตูสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นได้ในปีนี้ "สมชัย” กางปฏิทิน ส.ค.เลือกตั้งท้องถิ่นชุดแรก ขณะที่ "ณัฐวุฒิ" ท้า "สุเทพ" ลงเลือกตั้งเองจะเป็นนักเลงกว่าอยู่ข้างหลัง
    เมื่อวันพุธ เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศูนย์การเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.แหลมบัว) หมู่ที่ 8 ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่ทำกิจกรรมโครงการไทยนิยม ยั่งยืน เป็นครั้งแรก  
    ทันทีที่มาถึง พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทักทายกลุ่มชาวบ้าน โดยมีอาสาสมัครหมู่บ้าน (อส.) คนหนึ่งมอบพระเครื่องสมเด็จวัดระฆัง (จำลอง) เป็นที่ระลึกให้ ขณะที่นายกฯ ได้กล่าวย้ำว่า ขอให้ชาวบ้านได้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อถึงเวลา และที่มาวันนี้ก็เพื่อมารับฟังปัญหาและรัฐบาลพร้อมที่จะแก้ไขให้ทุกอย่าง ขอเพียงอย่างเดียวอย่าว่า ต้องช่วยกันทำ เพราะรัฐบาลไม่มีเงินอุดหนุนเหมือนในอดีต วันนี้รัฐบาลสู้กับความยากจนและสิ่งไม่ดี ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งขอให้เลือกให้ดี
    จากนั้นนายกฯ ได้กล่าวกับเกษตรกรและประชาชนที่มาต้อนรับว่า  "วันนี้เห็นแววตาทุกคน สิ่งที่ทุกคนมารักผม มันกดดันผม ไม่ใช่หวังผลการเมืองว่าดีใจมีคนมารับ ปรบไม้ปรบมือ แต่สะท้อนให้เห็นว่าเรายังต้องการความหวังในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน จากวันนี้เป็นต้นไปคณะทำงานไทยนิยม ยั่งยืน จะลงพื้นที่ทุกหมู่บ้านกว่า 7,000 ชุด เพื่อสอบถามความต้องการและแก้ปัญหาประชาชนให้ตรงจุด ต้องเข้าใจสถานการณ์บ้านเรา เรื่องการเลือกตั้งเดี๋ยวก็ว่ากันไปตามกฎหมายตามขั้นตอน สิ่งสำคัญวันนี้จะได้รัฐบาลที่เป็นของปวงชนชาวไทย ถ้าเลือกรัฐบาลที่เป็นของใครของมัน จะเป็นปัญหาแบบเดิม ก็ตีกันอีก ต้องเลือกรัฐบาลที่ดูแลคนทั้งประเทศ"
    นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้พืชการเกษตรเป็นพืชการเมืองทั้งหมด รัฐบาลจะร้องแก้ไขตรงนี้ ตนไม่อยากให้นำเรื่องการเกษตรมาเกี่ยวข้องกับการเมือง และอยากให้ทุกคนสนใจเรื่องข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง อย่าสนใจแค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง มาวันนี้เพื่อรับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ได้มาให้ท่านรัก แต่จะแก้ไขปัญหาได้มากน้อยเพียงใดก็ต้องใช้เวลาดำเนินการ ตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยจะดูแลเกษตรกรทุกกลุ่ม แต่ขอให้เห็นใจกันบ้าง เพราะประเทศไทยมีกว่า 74,000 หมู่บ้าน ซึ่งมีความเดือดร้อนเหมือนกันหมด รัฐบาลที่ผ่านมาได้แก้ไขปัญหาอะไรหรือไม่ ซึ่งไม่เคยมีใครแก้ไขอะไรเลย เพราะการแก้ปัญหาเหล่านี้ทำยาก แต่จะต้องทำ หากไม่ทำปัญหาจะพอกพูน ทำให้ประเทศล้ม เพราะที่ผ่านมาไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นทาง
    "วันนี้เราจะรับทุกเรื่อง ต้องดูแล 74,000 หมู่บ้านไทยนิยมคือคนไทยทุกคนนิยมในการทำความดี เพื่อส่วนรวมและเพื่อคนอื่น ผมก็ใช้หลักการของผมคือไทยนิยม ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมเป็นทหาร เป็นนักการทหารเก่า แต่เข้าใจหัวอกของพี่น้องประชาชน เพราะอยู่กับท่านมาตั้งแต่เด็ก" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "สัญญาได้หรือไม่ว่าจากนี้จะช่วยกัน ถ้าสัญญาก็ขอให้ยกมือขึ้น" โดยประชาชนได้ยกมือขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวตอบว่า "ไอเลิฟยู"     
    จากนั้นเวลา 10.00 น. นายกฯ ได้เดินชมศูนย์การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่ประสบความสำเร็จจากการน้อมนำแนวพระราชดำริศาสตร์พระราชา เพื่อลดต้นทุนการผลิต ได้ดูการเลี้ยงสุกร และได้เข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษจากศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านหัวอ่าว อ.สามพราน และระหว่างที่นายกฯ เยี่ยมชมบูธต่างๆ ปรากฏว่ามีชายวัยกลางคนได้ส่งเสียงตะโกนเชียร์ให้นายกฯ อยู่ต่ออีก 20 ปี โดยนายกฯ ได้กล่าวทันทีว่า "เอาไว้เชียร์เป็นการส่วนตัว เดี๋ยวคนด่าอีก" 
กล้านาโยนหล่นใส่หัวนายกฯ 
    จากนั้นนายกฯ ได้ไปทำการโยนต้นกล้าข้าวนาโยน เป็นที่ระลึกในการตรวจเยี่ยม ปรากฏว่าช่วงหนึ่งนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ได้ทดลองโยนกล้าข้าว แต่เนื่องจากโยนไม่เป็นและลมพัดแรง ทำให้กล้าข้าวปลิวกลับมาหล่นใส่นายกฯ และตนเอง สร้างรอยยิ้มจากคนที่เห็นเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม ช่างภาพและสื่อมวลชนได้ขอให้นายกฯ โยนกล้าข้าวอีกครั้ง ซึ่งนายกฯ ก็ได้โยนให้ถ่ายภาพ พร้อมบ่นว่า "เออ ถ่ายรูปดีๆ อย่างนี้บ้าง ไม่ใช่ไปตะแคงถ่ายธูปอยู่นั่นแหละ" พร้อมกับทำท่าประกอบ
    จากนั้นนายกฯ ได้ปลูกต้นจัน ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดนครปฐม พร้อมกล่าวว่า ถ้าเห็นต้นจันนี้ก็ขอให้คิดถึงตนด้วย และถ้านึกถึงนายกฯ ก็ขอให้นึกต้นจันต้นนี้ เพราะตรงกับนามสกุลจันทร์โอชาพอดี 
    ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่บ้านศาลาดิน ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล นายกฯ เยี่ยมชมแปลงนาบัวลุงแจ่ม  สวัสดิ์โต บ้านศาลาดิน หมู่ที่ 3 ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทาน และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย ซึ่งนายกฯ ได้ลงเรือพร้อมพายเรือด้วยตัวเอง 
    หลังจากนั้นนายกฯ ได้พบปะกับประชาชนที่เวทีประชาคม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล พร้อมกล่าวกับชาวบ้านตอนหนึ่งว่า สำหรับโครงการไทยนิยม ยั่งยืน  หมายถึงคนไทยนิยมการสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ซึ่งโครงการไทยนิยมนี้ จะไม่ยอมให้เกิดการทุจริต ทุกบาททุกสตางค์จะต้องไม่รั่วไหล หากพบมีการทุจริต ขอให้แจ้งนายกฯ จะดำเนินการให้ อย่าให้เขามาบิดเบือนว่าจะให้ราคาข้าวเท่านั้นเท่านี้ เพราะจะยิ่งจะทำให้ราคาข้าวตกกว่าเดิม ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้แก้ปัญหาไปแล้ว 
    ส่วนที่สหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด อ.กำแพงแสน พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานสักขีพยานในโอกาสผู้ว่าฯ จ.นครปฐม มอบโรงเรือนถอนประกอบได้ เครื่องจักรกลการเกษตร (รถไถ) และเครื่องสีข้าวให้แก่ผู้แทนเกษตรกร โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น และนักเรียนในพื้นที่ นายกฯ ได้เดินทักทายพูดคุยสอบถามเด็กๆ ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ส่วนใหญ่บอกอยากเป็นครู หมอ นักวิทยาศาสตร์ และบอกอยากเป็นทหาร ซึ่งนายกฯ บอกว่า "ถ้าเป็นทหารเหนื่อยนะ ไม่ร่ำรวย ต้องเข้มแข็ง ต้องเสียสละทำเพื่อชาติ" และได้พูดกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า กำนันผู้ใหญ่บ้านถือเป็นกลไกสำคัญในการเป็นประชาธิปไตยทั้งนั้น 
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้มาทำงานเรื่องการเมือง แต่มาเรื่องการบ้าน เพราะทำงานมา 4 ปีแล้ว และตราบใดที่โลกยังไม่หยุดหมุนทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราต้องทำให้เกิดความเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมายหรือโอกาส 
    ทั้งนี้ ระหว่างการพูดพบปะประชาชน พล.อ.ประยุทธ์เกิดอาการคอแห้ง แล้วหยุดดื่มน้ำ ก่อนจะกล่าวว่า "วันนี้พูดทุกที่ พูดจนเสียงแห้ง แต่ไม่เป็นไร เพราะพวกท่านรักผม และผมก็รักพวกท่าน ผมก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง คนไทยต้องรักกัน อย่าให้ใครมาหลอกลวงหรือบิดเบือนได้อีก" และกล่าวอีกว่า "รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งนะ รอรัฐบาลหน้าดีกว่าไหม" ทำให้ประชาชนชูป้ายเรารักลุงตู่ พร้อมพูดให้กำลังว่า "อยากให้นายกฯ อยู่ต่อ" ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอบว่า "ขอให้เก็บไว้ในใจดีกว่า"
     ภายหลังลงจากเวที พล.อ.ประยุทธ์ลงมาทักทายประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขอให้เตือนลูกหลานว่าอย่าไปเดิน We walk ถ้าเกิดมีคดีขึ้นมาเยอะแยะมากมาย คงช่วยเหลือไม่ไหว 
    ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้เราจะตีกันอีกไม่ได้แล้ว เพราะลูกหลานจะอยู่ไม่ได้ ท้องถิ่นจะต้องพัฒนาตัวเอง ตนไม่ได้ต้องการจะรังแกใครทั้งสิ้น เพียงแต่ทุกอย่างต้องเดินหน้า ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องแก้ไข ถ้าทำดีมันก็จบแค่นั้นเอง ขอให้เชื่อมั่น จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวว่า “บ๊ายบาย ไอเลิฟยู” พร้อมกับชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ผมรักคุณ พร้อมบอกว่า “วันนี้หมดแรงข้าวต้มแล้ว”
ปลดล็อก-เลือกตั้งท้องถิ่น
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นัดไว้ปลายเดือน ก.พ. ทุกอย่างยังเป็นไปตามที่พูดไว้ ส่วนคณะกรรมการกฤษฎีกาเขาได้เตรียมของเขาไป และเริ่มรู้แล้วว่าจะแก้ไขอะไรก็ศึกษาไปด้วย คงใช้เวลาไม่นาน ด้านประธาน สนช.ก็สอบถามมาว่าเตรียมจะเอากฎหมายท้องถิ่นเข้าเมื่อไหร่ จะได้จัดคิวได้ถูก เพราะจะมีกฎหมายเข้าสภาอีกมาก กฎหมายตามรัฐธรรมนูญต่างๆ จวนจะถึงกำหนด
     ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ประเมินว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นน่าจะเกิดขึ้นได้ราวเดือน ส.ค.นี้ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่มีประสบการณ์ ตอบไม่ถูก ยังไม่ได้เข้าสภา ไม่รู้จะนับหนึ่งอย่างไร คงจะเข้าสภานาน 2 เดือน จากนั้นใช้เวลาทูลเกล้าฯ ถวายอีก โดยรวมประมาณ 3 เดือน ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายประกาศใช้ กระทรวงมหาดไทยจะยืนยันว่าเขาสามารถจัดเลือกตั้งได้ ขอเวลาเขา 45 วันเท่านั้น วันที่ 46 ก็เลือกตั้งได้ ซึ่งอยู่ที่นโยบายจะให้เลือกตั้งในท้องถิ่นประเภทใดก่อน เพราะมีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 76 แห่ง มีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล อีกหลายพันแห่งเมื่อนโยบายชัดจึงจะจัดเลือกตั้งได้ น่าเป็นไปได้ว่าในปีนี้จะมีเลือกตั้งท้องถิ่น
     เมื่อถามว่า แสดงว่าต้องมีการปลดล็อกคำสั่ง คสช.ทั้งสองฉบับก่อนจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า แน่นอน ประมาณเดือน มิ.ย.น่าจะปลดล็อกได้แล้ว ส่วนความพร้อมการจัดเลือกตั้งกระทรวงมหาดไทยจะดูว่าความยากง่าย โดยหารือกับ กกต.เพื่อดูเรื่องการแบ่งเขต การเลือกสมาชิก กฎหมายเสร็จแล้วปล่อยให้สามารถหาเสียงได้ คือมี 4 ปัจจัย คือ 1.ต้องออกกฎหมายก่อน 2.กกต.ต้องพร้อมจัดการเลือกตั้ง เช่น ไม่ใกล้ไม่ไกลกับการเลือกตั้งระดับชาติจนเกินไป 3.การแบ่งเขตเลือกตั้ง 4.ต้องมีการปลดล็อกเพื่อหาเสียง
    นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ทางสำนักงาน กกต.ได้นำเสนอร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อเสนอขอความเห็นชอบต่อ กกต. ก่อนนำส่ง ครม.เพื่อนำเสนอต่อ สนช.ให้เห็นชอบเป็นกฎหมายเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งท้องถิ่นโดยเร็วตามนโยบายของรัฐบาล โดยคาดว่าจะสามารถนำส่ง ครม.ได้ภายในวันที่ 28 ก.พ. ซึ่ง ครม.คงใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในการตรวจสอบความถูกต้อง และน่าจะเสนอเข้า สนช.ได้ประมาณปลายเดือนมีนาคม ซึ่งเร็วที่สุดที่กฎหมายประกาศใช้ได้คือปลายมิถุนายนปีนี้  หลังจากนั้นหากรัฐบาลเห็นชอบว่าพื้นที่ใดควรมีการเลือกตั้ง กกต.จะใช้เวลาประมาณ 45 วันในการดำเนินการ ซึ่งเป็นไปได้ว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นชุดแรก จะเกิดขึ้นประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2561 เป็นการทดสอบฝีมือ กกต.ชุดใหม่ที่จะเข้ามารับงานดังกล่าวเป็นงานแรก
    “ความน่ากังวลใจคือเลือกท้องถิ่นแล้วไม่จบโดยง่าย อาจมีกรณีร้องเรียนและคดีความต่างๆ และเข้าไปใกล้กับการเลือกตั้งจริง เมื่อนั้น 7 กกต.จะถึงเวลาแปลงกายเป็นเทพ มี 8 กร เพื่อรับกับงานหลายอย่างไปพร้อมๆ กัน” นายสมชัยกล่าว
    ที่รัฐสภา นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วม  3 ฝ่าย เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมพูดคุยใน 3 ประเด็นเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่ม ส.ว., วิธีการเลือก ส.ว. และการแบ่งประเภทการสมัคร ส.ว. แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะแต่ละฝ่าย ทั้ง สนช.และ กรธ. ต่างยืนยันในแนวคิดของตนเอง อย่างไรก็ตาม มี กมธ. 2-3 คนเสนอว่าแนวคิดของ สนช.ที่กำหนดการแบ่งกลุ่ม ส.ว.เหลือ 10 กลุ่ม และให้เลือกกันเอง รวมทั้งการแบ่งประเภทผู้สมัครได้ 2 แบบนั้น ให้นำไปเขียนในบทเฉพาะกาล ส่วนแนวคิดของ กรธ. ตามร่าง พ.ร.ป.เดิม ที่กำหนดกลุ่ม 20 กลุ่ม, ใช้วิธีการเลือกไขว้ และให้ผู้มีคุณสมบัติสามารถเข้าสมัครได้โดยไม่ต้องผ่านองค์กรใด ให้นำไปเขียนบทหลักของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.  ทั้งนี้ จะมีการลงมติในเรื่องดังกล่าววันอังคารที่ 27 ก.พ. เวลา 15.00 น.  
ท้า"สุเทพ"ลงเลือกตั้ง
     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันจะไม่คว่ำร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. แน่นอนว่าถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความมั่นใจ และอยากให้นายกฯ ทำให้ได้ตามที่รับปากไว้ แม้อนาคตอาจจะมีเงื่อนไขที่ต้องนำมาเป็นข้ออ้างในการเลื่อนการเลือกตั้งก็ตาม โดยที่ขอให้นายกฯ ควบคุมปัจจัยที่อาจจะก่อให้เกิดการคว่ำร่างกฎหมายได้ เช่น สถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง รวมถึงปัจจัยที่อาจทำให้เกิดปัญหาในกระบวนการประชาธิปไตย 
     เมื่อถามถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิกปปส. จะตั้งพรรคการเมือง เพื่อสนับสนุนรัฐบาลทหาร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในเดือน มี.ค.ที่จะมีการเปิดให้พรรคการเมืองจดทะเบียนพรรคจะมีความชัดเจนในการก่อตั้งพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำได้อยู่แล้ว และไม่กังวลที่อาจถูกแย่งคะแนนเสียง เพราะการมีพรรคการเมืองที่หลากหลาย เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน และเป็นเรื่องธรรมดาในการแข่งขัน           
    ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ข่าวการตั้งพรรคการเมืองของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ  เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้ง เป็นที่รับรู้กันภายในมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะเจ้าตัวพูดยืนยันกับคนในแวดวงการเมืองมาก่อนหน้านี้ ส่วนจะเป็นการผิดคำพูดที่เคยประกาศจะยุติบทบาททางการเมืองหรือไม่นั้น ส่วนตัวแล้วตนไม่ได้สนใจ เพราะไม่เคยเชื่อที่นายสุเทพพูด ส่วนคนที่เคยเชื่อจะยังคงเชื่อและเดินตามลุงกำนันต่อไปหรือไม่ ก็แล้วแต่วิจารณญาณ เพราะมาถึงจุดนี้เท่ากับยืนยันแนวทาง กปปส.ว่าสนับสนุนการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจ ทั้งนี้ คงไม่ส่งผลสะเทือนต่อสถานการณ์ทางการเมือง เพราะนายสุเทพประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ มานานแล้ว แต่จะส่งผลต่อสภาพภายในพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า จะมีอดีต ส.ส.ออกไปอยู่พรรคใหม่หรือไม่ คนใกล้ชิด อาทิ นายเชน และนายธานี เทือกสุบรรณ หรือนายเอกนัฏฐ์ พร้อมพันธุ์ จะตัดสินใจอย่างไร เป็นเรื่องที่จะเห็นในอีกไม่นาน
    "ถ้านายสุเทพลงสมัครรับเลือกตั้งไปเลยจะดูนักเลงกว่า เพราะการตั้งพรรคแต่ตัวเองไปแอบอยู่ข้างหลังดูเหมือนให้เกียรติกลุ่มผู้สนับสนุนน้อยเกินไป อยากให้ลุงกำนันกอดลุงตู่ให้แน่นๆ อย่าทิ้งกันกลางทาง ประชาชนเห็นชัดจะได้ตัดสินใจง่าย แต่คงต้องเผื่อใจไว้บ้างว่าการออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ของนายสุเทพวันนี้ จะกลับมารวมกันอีกทีตอนยกมือให้นายกฯ คนนอกหรือไม่" นายณัฐวุฒิกล่าว
     ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และนายวีระ สมความคิด เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากถูกพนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหาตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 ที่ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ เกินกว่า 5 คน ซึ่งเห็นว่าคำสั่งห้ามชุมนุมดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญที่คุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"