ละครเรื่อง กรงกรรม เพิ่งลาจอไป แต่ชื่อเสียงและกระแสที่เอ่ยถึง ใหม่ เจริญปุระ นั้นยังคงอยู่ ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ถึงเส้นทางการเข้าวงการบันเทิง ไปจนถึงวันที่ทำงานเหนื่อยจนรองไห้น้ำตาตกอยากลาออกจากวงการมายา
“ฟีดแบ็กละครเรื่องกรงกรรม มันก็เป็นความปลื้มปริ่ม หายเหนื่อยแล้วก็ภูมิในมากในฐานะที่เราเกิดมาจากการเป็นนักแสดง 10 ปีที่ไม่ได้เล่นละคร ทำไมถึงเลือกเล่นเรื่องนี้ ก็ต้องเป็นเพราะพี่อ๊อฟ พี่แดง พี่ปู ตอนแรกเคยมีคนติดต่อให้เล่นแบบมีลูกเล็ก เราก็ยังรู้สึกว่าไม่เอาล่ะ เดี๋ยวคนติดภาพ พี่อ๊อฟก็บอกว่าใจเย็นๆเอ็งอ่านก่อน พี่แดงบอกว่าเรื่องนี้เอาหัวเป็นประกัน เราก็โอ้โห ขนาดนี้เชียวหรือ แล้วพอเราได้อ่านบทจริงๆ มันจี๊ดหัวใจจริงๆ เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าไม่เล่นก็บ้าแล้ว ในฐานะนักแสดงนี่ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตไหม ก็ถ้า พ.ศ.นี้คงใช่
เส้นทางการเป็นนักแสดงของพี่ ถ้าย้อนกลับไปตอนเราเกิดใหม่ๆ โอ้โห เต้นกิน รำกินไม่ไหวหรอกผู้หญิงคนนี้ แต่ก่อนกลับโดนดูถูกด้วยซ้ำไป คือพี่สาวใหม่สวยๆ คุณพ่อเขาก็จะไปจัดการกับผู้กำกับว่าอย่ามายุ่งกับลูกนะ แต่พอถึงคิวใหม่เป็นลูกเป็ดขี้เหร่ก็คงไม่มีใครมอง แต่ทีนี้พ่อเองมาบอกว่าพ่อประสบความสำเร็จ เดี๋ยวไปเล่นละครพ่อกัน แต่พอพ่อพูดเสร็จพ่อหายไป เราก็รอกับแม่ และใหม่กับที่บ้านสนิทกับอาแอ๊ด-สมบัติ เมทินี เราก็ไปทานข้าวกันที่โรงแรม ขาจัดงานพอดี ทีนี้เขาก็บอกว่าเดี๋ยวหลานมันเบื่อให้ไปเล่นงานเลี้ยงข้างบนสิ แล้วพี่สาวบอกว่าดีเลย เดี๋ยวแกเข้าไปเจออาจารย์คนนี้นะ พอไปเจอเราก็แนะนำตัวบอกว่ามาสมัครเล่นหนัง อาจารย์เขาถามว่าอยู่ที่ไหน เราก็เลยบอกว่าเรียนอยู่อังกฤษ แล้วเขาก็ถามต่อว่าแล้วพ่อแม่ล่ะ เราก็ไม่ได้เตรียมมา บอกว่าพ่อแม่ค้าขาย แล้วเขาถามชื่ออะไร เราก็บอกว่า ชื่อใหม่ แล้วตอนนั้นนักข่าวกำลังรุมอาจารย์ พอเขาได้ยินชื่อใหม่ก็หันมาบอกว่าถ่ายนางเอกใหม่หน่อย เราก็อุ้ย..ทำไมเป็นนางเอกง่ายจังเลย ปรากฏว่าอาจารย์ก็ให้ที่อยู่ ถ้าอยากเป็นนางเอกไปที่นี่
นานไหมกว่าจะได้เล่นหนังเรื่องแรก ก็เป็นปีนะ ตอนนัดไปเทสหน้ากล้อง เราคิดในใจเป็นนางเอกทำไมถ่ายเยอะขนาดนี้ แล้วท่านก็พาไปได้ไปเจอกับหม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย ก็แนะนำให้รู้จักนางเอก ท่านก็บอกว่าไม่ต้องแนะนำ ผมรู้จักนี่ลูก รุจน์ รณภพ พี่ยิ่งสลดหนักเลย เพราะว่าถ้าเกิดลูกรุจน์คือฉันจบเลย เพราะพ่อค่อนข้างดุ แล้วจากนั้นไม่นานพี่สาวก็แต่งงานก็มีโอกาสไปเจอกับพ่อและอาจารย์ไพจิตรในงาน เราก็มองกับแม่ แน่นอนแล้วเขาต้องคุยกันแน่ แล้วพ่อก็ไปคุยจริงๆ แล้วอาจารย์ก็มาเล่าทีหลังว่า พ่อบอกขอร้องอย่ายุ่งกับลูกผม ผมขอเลยไม่ต้องเอาเขาไปเลย ให้เขาไปเรียนหนังสือ อย่ามายุ่ง อาจารย์บอกว่าผมทำแบบนี้กับเด็กคนนี้ไม่ได้ มันฝัน มันหวังของมันเหลือเกิน แล้วผมเซตกองถ่ายไว้หมดแล้ว เตรียมเรื่องราว ซื้อตั๋วไว้หมดแล้วจะไปถ่ายที่อังกฤษกัน พ่อก็พูดไม่ออก
ที่พ่อไม่อยากให้เล่นหนังเพราะกลัวโดนดูถูก ว่าสงสัยเด็กเส้น ซึ่งเขาไม่รู้ว่ากว่าจะมายืนตรงนี้โคตรลำบากเลย แล้วที่สำคัญมันจี๊ดหัวใจเมื่อทุกคนถามทำไมไม่เล่นหนังพ่อ เราก็ถามพ่อเรื่องจะเอาเราไปเล่นหนัง เขาก็กลายเป็นอีกแบบ เขาบอกว่าก็ลูกดังแล้ว เดี๋ยวเหมือนพ่อมาคว้าตอนลูกดัง ก็เป็นแบบนั้นไปอีก เราก็เลยคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสเล่นกับพ่อแล้วล่ะ ใหม่เคยเสียดาย แต่ใหม่ว่าใหม่ต้องผ่านความยากลำบาก ไม่งั้นเราคงไม่แกร่ง คงไม่มีความพยายามพัฒนาตนมาถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นไม่เล่นก็ไม่เป็นไร ก่อนพ่อจะจากไปพ่อพูดอะไรไว้เยอะแยะมากมายที่ทำให้เรารู้สึกว่าแบบภูมิใจยิ่งกว่าได้เล่นละครได้เล่นหนังของพ่อ พ่อก็จะบอกคนอื่นและบอกใหม่ว่าภูมิใจนะที่คุณเกิดมาเป็นลูกผม ผมดีใจจังเลย ใหม่น้ำตาแตก รู้สึกว่าถึงเราจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแค่เป็นพ่อ ลูกกัน มันก็ที่สุดแล้ว
เมื่อ 5 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นเหรอ ที่บอกว่าจะออกจากวงการใช่ไหม คือใหม่แค่รู้สึกว่ามันอิ่มตัว แบบไม่ต้องรอคนมาไล่ เราไล่ตัวเราเองนี่แหละ พี่รู้สึกว่าทำมาเยอะไม่เคยหยุดเลยอยากให้อะไรกับตัวเองจริงๆ เคยบอกว่าพี่หนูหยุดปีนึงได้ไหม ไม่ได้ 6 เดือนก็ไม่ได้ งั้นเราคงต้องหยุดตัวเองแล้ว มีร้องไห้กลางร้านฟาสต์ฟู้ดด้วย ก็นี่แหละจุดชนวน 5 ปี คือแบบว่าเหนื่อยมาก เหนื่อยเจียนตาย ตอนนั้นก็นั่งอยู่ที่พื้นแล้วโทรไปหาแม่บอกว่าแม่ไม่ไหวแล้ว แม่ขายที่ มีอะไรก็ไปขาย เราไม่ต้องทำงานแบบนี้อีกต่อไปแล้ว แม่คงช็อก เพราะเสียงที่ใหม่กรีดร้อง คือตอนนั้นเป็นคอนเสิร์ต 25 ปีใหม่ เจริญปุระ เราเดินออกไปโทรหาแม่ เพราะไม่ไหวแล้วทานข้าวไปน้ำตาตกในชามก๋วยเตี๋ยว คือแบบเหนื่อยจังเลย”
ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม maicharoenpura
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |