การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันพฤหัสบดีที่ 22 ก.พ.กลายเป็นที่สนใจของแวดวงการเมือง เพราะจะมีการประชุมเพื่อลงมติเห็นชอบผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ ตามชื่อที่คณะกรรมการสรรหา กกต.ส่งมาให้ สนช.โหวต 5 ชื่อ และอีก 2 ชื่อจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาส่งมา
5 รายชื่อจากกรรมการสรรหา ประกอบด้วย ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช., เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ, อิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, ชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ หัวหน้าสำนักงานกฎหมายสุธีรชาติ, ประชา เตรัตน์ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอีก 2 ชื่อที่ศาลฎีกาส่งมา คือ ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี และปกรณ์ มหรรณพ สองผู้พิพากษาศาลฎีกา
การประชุมในระเบียบวาระดังกล่าวจะเริ่มที่ "พลเอกอู้ด เบื้องบน" ปธ.กมธ.ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงผลการพิจารณาตรวจสอบประวัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คนต่อที่ประชุมว่าการทำงานได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดย กมธ.ขอข้อมูลของทั้ง 7 คนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง 25 หน่วยงาน เช่น ศาลยุติธรรม, สำนักงาน กกต. พินิจข้อมูลประวัติของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด เช่น เคยต้องโทษหรือมีประวัติทางคดีอาญาอะไรหรือไม่ เคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดมาก่อนหรือไม่ เป็นต้น
จากนั้นก็จะเข้าสู่การประชุม "ลับ" ทันที เพื่อนำเสนอข้อมูลรายงานการตรวจสอบประวัติและจริยธรรมในทาง "ลึก-ลับ" ทั้งหมด รวมถึงข้อร้องเรียนที่บุคคลภายนอกส่งมาให้ กมธ. จากนั้น สนช.อาจจะขออภิปรายและซักถามประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติม หากติดใจสงสัยที่มาที่ไปของ "7 ว่าที่ กกต." บางคนว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ มีความเป็นกลางทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งข่าวว่ามี สนช.บางคนติดใจสงสัยที่มาที่ไปของบางรายชื่อ และเตรียมคำถามไว้ซัก กมธ.สอบประวัติแล้ว
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดก็จะให้ สนช.ลงคะแนน "ลับ" เพื่อโหวต "เห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ" รายชื่อ 7 ว่าที่ กกต.ทั้งหมดว่าจะให้ใครผ่าน ไม่ผ่าน หรือจะผ่านทั้งหมด 7 คน โดยหากชื่อไหนได้เสียงโหวตเห็นชอบไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สนช.ที่มีอยู่ คือ 124 เสียงจาก สนช.ที่มีตอนนี้ 248 คน ก็เท่ากับ "ไม่ได้ไปต่อ อดเป็น กกต." ส่วนใครได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งก็รอเป็น กกต.ชุดใหม่ต่อไป
แน่นอนว่าหลายคนสนใจกันมากว่า รายชื่อว่าที่ กกต.ซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาส่งมาคือ “ฉัตรไชย-ปกรณ์" ซึ่งก่อนหน้านี้ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า "มีปัญหาเรื่องที่มาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไม่ได้เลือกโดยเปิดเผย" จึงต้องรอดูว่าที่ประชุม สนช.จะลงมติเห็นชอบ "ฉัตรไชย-ปกรณ์" หรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า สนช.อาจไม่อยากมีปัญหากับศาลฎีกา เลยเลือกที่จะโหวตเห็นชอบ ส่วนใครที่ติดใจสงสัยก็ส่งเรื่องไปให้ศาล รธน.ชี้ขาด
แต่มีกระแสข่าวอีกระลอกว่าที่ สนช.ติดใจสงสัยอาจเป็นชื่อที่ส่งมาจากกรรมการสรรหา ไม่ใช่ชื่อที่มาจากศาลฎีกา จึงอาจต้องซักถามกันให้สิ้นสงสัยในที่ประชุมลับก่อนลงมติจะให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน
กระนั้นหากวิเคราะห์กันอีกมุม ว่าไปแล้ว 5 รายชื่อจากกรรมการสรรหา มีบางคนถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับฝ่ายกุมอำนาจในเวลานี้ จึงคงไม่ยอมให้ สนช.มาสกัดได้ อย่างมากที่สุดชื่อไหนที่ สนช.ติดใจสงสัยก็อาจได้คะแนนต่ำกว่าคนอื่น แต่คงไม่ถึงกับโหวตสกัดดาวรุ่ง
โหวต 7 เสือ กกต. 22 ก.พ.นี้ก็คอยดูกันว่า ทั้ง 7 รายชื่อจะผ่านเข้าไปเป็น กกต.ชุดใหม่พร้อมกันหมด หรือมีบางคนต้องฝันค้าง
ที่แน่ๆ ข่าวว่ามีบางคนมองข้ามช็อตไปแล้วถึงเก้าอี้ประธาน กกต.คนใหม่ ไม่ใช่แค่ กกต.เท่านั้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |