'อู๊ดด้า'จัดทัพสยบรอยร้าว พีระพันธุ์ฉะผู้ใหญ่ตอกลิ่ม


เพิ่มเพื่อน    

    "จุรินทร์" จัดทัพอเวนเจอร์ แบ่งงานสอดรับทิศทางการเมือง ยันพรรคไม่ร้าว 3 แคนดิเดตหัวหน้าพร้อมช่วยงานพรรค ทาบ "กรณ์" นั่งกุนซือเศรษฐกิจแต่ยังไม่ตอบรับ "พีระพันธุ์" เล่นของสูง!  ฉะผู้ใหญ่มากบารมีตอกลิ่มความแตกแยก เสียแรงเคารพ 30 ปีดีแค่ภาพลวงตา 
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม เวลา 13.00 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่นัดแรก โดยใช้เวลาหารือเกือบ 3 ชั่วโมง จากนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีการแบ่งงานให้รองหัวหน้าและรองเลขาธิการ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นการจัดทัพอเวนเจอร์ประชาธิปัตย์ก็ได้ ซึ่งการแบ่งงานครั้งนี้จะแตกต่างจากที่ผ่านมา โดยจะไม่เน้นรายภาคเหมือนที่ผ่านมา แต่จะมุ่งเน้นให้สอดคล้องกับทิศทางการเมือง โดยใช้ 2 กลไกหลักในการขับเคลื่อน คือ 
    1.กลไกการจัดการทางการบริหารพรรค ประกอบด้วย 10 กลไกย่อย อาทิ คณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสภาที่ปรึกษา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น และ 2.กลไกบริหารจัดการด้านการเมือง อาทิ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคทำงานทางการเมือง คณะกรรมการด้านเทคโนโลยีของพรรค (Smart Democrat) คณะกรรมการประสานงานภายในพรรค (วิปพรรค) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนการทำงานทางการเมืองของพรรค เป็นต้น  นอกจากนี้คณะกรรมการด้านการกฎหมาย นำโดยนายถวิล ไพรสณฑ์ เป็นประธาน
    เมื่อถามว่าเชิญนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อมาร่วมทีมทำงานด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่าเชิญนายพีระพันธุ์แล้ว แต่ได้รับแจ้งว่าไม่ขอรับตำแหน่งและยินดีที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนนายกรณ์ได้เชิญให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเจ้าตัวขอเวลาพิจารณา ยืนยันว่าไม่มีเรื่องความขัดแย้ง ความจริงก่อนเลือกหัวหน้าพรรคได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว  อย่างนายกรณ์ได้คุยกับตนก่อนเลือกหัวหน้าพรรคแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็พร้อมที่จะมาช่วยงานพรรค ดังนั้นต้องให้เวลาในการพิจารณา
    ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์โพสต์ว่ามีผู้ใหญ่ในพรรคแทรกแซงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค จนทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่มองว่าเป็นเรื่องความขัดแย้ง แต่มองว่านายพีระพันธุ์เป็นผู้หนึ่งที่มีความปรารถนาดีต่อพรรค
    ด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มีภารกิจสำคัญในการฟื้นฟูกอบกู้พรรคเพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เริ่มจากวันนี้จะเริ่มงานฟื้นฟูทันที จึงอยากเรียนว่าเราต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากทุกด้าน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากทุกด้านเป็นขุนศึกอเวนเจอร์ที่จะร่วมปราบศัตรู ซึ่งคือปัญหาของประชาชน ความยากจนของประชาชน ใครมีความสามารถก็อยากเชิญชวนเข้ามาช่วยกัน
    "ในฐานะประธานด้านงานเครือข่ายภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และทุกภาคส่วนในสังคมจะได้เริ่มงานทันที ในการประสานงานเครือข่ายจะมีการวางแผนและประชุมเพื่อช่วยสังคมและประเทศชาติต่อไป  ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นความถนัดและดำเนินงานมาโดยตลอดเพื่อช่วยสนับสนุนพรรค ดังนั้นจึงจะเดินหน้ารับฟังความคิดเห็นภาคประชาชนเครือข่ายต่างๆ ต่อไปแล้วทำงานแบบนี้ เพื่อมีทีมเวิร์กกับคนในสังคม เป็นทีมประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ที่จะต้องระดมพลังระดมขุนพลมากขึ้น รับฟังแล้วทำหน้าที่ปรับตัวทำงานแบบมีเป้าหมายชัดเจน" คุณหญิงกัลยาระบุ
    ในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "พลังเล็กๆ จากหัวใจที่ยิ่งใหญ่" ว่า ขอใช้พื้นที่ตรงนี้กล่าวคำขอบคุณจากใจถึงเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกระดับ ทุกสถานะ รวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วไป ที่เป็นกำลังใจและแสดงออกถึงการสนับสนุนตนให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 15  พ.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาหกวันนับแต่วันที่ตนประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 พ.ค.62 ว่าจะลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น ได้รับกำลังใจและการสนับสนุนอย่างท่วมท้นอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทั้งจากสมาชิกพรรคและประชาชนทั่วไป ทั้งจากการติดต่อพูดคุยกันโดยตรงและจากข้อความทางโทรศัพท์และทางโซเชียลมีเดีย 
    มีผู้ใหญ่หลายท่านกรุณาโพสต์ข้อความสนับสนุนตน เช่น ท่านชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาที่รู้จักตนมากว่า 30 ปี นายชัย ราชวัตร ที่ตนไม่เคยรู้จักพูดคุยเป็นการส่วนตัวมาก่อน  เพียงแค่ชื่นชมในผลงานและจุดยืนของท่านผ่านสื่อเท่านั้น หลังสุดคือท่านใหม่ ม.จ.จุลเจิม ยุคล ที่ไม่เคยรู้จักกับท่านมาก่อน แต่คงเป็นเพราะท่านเห็นด้วยกับแนวทางที่ตนเสนอว่าประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน และต้องธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ คงเชื่อมั่นว่าตนจะนำพาพรรคประชาธิปัตย์ไปในทิศทางที่ตอบสนองความมุ่งหวังของประชาชนได้จริง ไม่ใช่เพราะสนับสนุนตนเป็นการส่วนตัว ตนต้องขอกราบขอบพระคุณท่านและท่านอื่นๆ จากใจจริงๆ   
     "หกวันของการหาคะแนนเสียงนั้น ผมได้เห็นได้เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรเพิ่มขึ้นมากมายหลายอย่าง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของคนหลายๆ คน ผมเพิ่งจะประจักษ์ด้วยตัวผมเองว่า ผู้ใหญ่บางคนที่ผมเคยเคารพนับถือมาเกือบ 30 ปี ที่ผมเคยเชื่อว่าดี แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงภาพลวงตา  ใครไม่ยอมอยู่ในอาณัติหรืออยู่ฝ่ายตรงข้ามกันเมื่อใดก็กลายเป็นคนที่ต้องถูกพิฆาต แผ่บารมีต่อต้านวาดภาพให้เป็นคนไม่ดี เป็นคนของคนนั้นคนนี้เพื่อให้ดูไม่ดีในสายตาเพื่อน บารมีมากล้นที่ควรจะวางตัวเป็นกลางเพื่อสร้างเอกภาพกลายเป็นตัวตอกลิ่มให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น แต่ก็น่าชื่นใจที่ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายคนที่ผมไม่เคยสนิทสนมด้วย กลับกลายเป็นนักสู้ใจเด็ดที่ไม่ยอมสยบให้กับอำนาจบารมีที่มากล้นอย่างที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมและทีมงานซึ่งเป็นเพียงสมาชิกพรรคตัวเล็กๆ ฮึดสู้ สู้ทั้งที่รู้ว่ากำลังเผชิญกับอะไรและจะเผชิญกับอะไรต่อไปในอนาคต" นายพีระพันธุ์ระบุ
    อย่างไรก็ตาม เมื่อผลการเลือกหัวหน้าพรรคออกมา ตนได้รับกำลังใจอย่างมากมาย บ่นเสียดายบ้าง ขออย่าท้อถอยบ้าง และพยายามปลอบว่าไม่ต้องเสียใจ ขอกราบเรียนตรงๆ ณ ที่นี้ว่าตนไม่มีความรู้สึกเสียใจใดๆ เลย ตรงกันข้ามได้ติดต่อให้กำลังใจเพื่อนๆ ทุกวันว่าอย่าหมดกำลังใจ อย่าท้อถอย และอย่าเสียใจ เพราะเราทำได้ดีที่สุดแล้วในระยะเวลาเพียงแค่หกวัน พลังเล็กๆ ที่มาจากหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราและเพื่อนๆ ในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ในวันข้างหน้า ตนบอกเพื่อนๆ ว่าเราควรดีใจและภูมิใจอย่างยิ่งที่สมาชิกพรรคตัวเล็กๆ อย่างพวกเราและเพื่อนๆ  ที่ร่วมทำงานกันมาเพียงแค่ 6 วันกลับได้รับเสียงสนับสนุนจากเพื่อน ส.ส.ถึง 20 เสียง น้อยกว่าทีมผู้ชนะเพียง 5 เสียงเท่านั้น พวกเขาต่างหากที่ควรจะต้องเสียใจและหมดกำลังใจ เพราะแสดงให้เห็นว่าพลังแห่งอำนาจบารมีที่สั่งสมร่วมกันมาหลายสิบปีนั้น บัดนี้เริ่มเสื่อมถอยลงแล้ว สามารถสนับสนุนเอาชนะพลังเล็กๆ ของพวกเราที่ทำงานกันมาเพียงแค่หกวันได้เพียงแค่ 5 คะแนน ในส่วนของ ส.ส. 52 คน  และเพียงแค่ 50 คะแนน ในส่วนขององค์ประชุมอื่นประมาณ 250 คน
    "บารมีอันมากล้นชนะพวกเราได้เพียงเท่านั้นเองจริงๆ การที่อิทธิพลบารมีที่แอบแฝงเป็นเงาอยู่สามารถชนะพวกเราได้เพียงเท่านี้ ทั้งๆ ที่พวกเราทำงานกันเพียงแค่หกวัน มันคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและบ่งชี้ถึงความเสื่อมถอยของพวกเขาใช่หรือไม่ และไม่แน่กลุ่มบารมีมากล้นนี้อาจแตกคอกันในเรื่องการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลก็อาจเป็นได้ ซึ่งก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของอีกปัญหาหนึ่งต่อไป" อดีตผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
     ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจนายกรณ์ จาติกวณิช และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และขอแสดงความยินดีกับนายจุรินทร์ ผู้ที่ตนให้ความเคารพรักเหมือนพี่ชายตลอดมา ขอให้ท่านนำพาพรรคประชาธิปัตย์กลับมาอยู่ในใจของประชาชนอีกครั้งหนึ่งให้ได้ ตอนนี้ยังไม่หายเหนื่อย ตลอดหกวันของหาคะแนนเสียงนั้นแทบไม่ได้พักผ่อนเลย เดี๋ยวต้องไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งใหม่ที่เชียงใหม่อีกด้วย ขอเวลาให้หายเหนื่อยก่อน ตนจะเล่าเรื่องการเลือกหัวหน้าของพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเบื้องหลังการทำงานของตนและเพื่อนๆ ตั้งแต่ต้นจนถึงวันเลือกหัวหน้าเมื่อวันที่ 15 พ.ค.62 ว่าพวกเราทำงานอย่างไร ต้องเผชิญอุปสรรคและต้องต่อสู้กับอะไรอย่างไร แล้วจะเล่าให้ฟัง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"