ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" ถึงเวลานี้ต้องยอมรับว่า "พรรคประชาธิปัตย์" พรรคการเมืองเก่าแก่ 73 ปี ภายใต้การนำของ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" หัวหน้าพรรคคนใหม่ อยู่ในขั้นวิกฤติจริงๆ โดยเฉพาะการตัดสินใจทางการเมือง จะร่วมไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้อง "โดน" อยู่วันยังค่ำ!...๐ 

            สิ่งที่ประชาธิปัตย์ต้องทำให้ดีที่สุด คือความรอบคอบ บวกลบคูณหารแล้วการตัดสินใจต้องส่งผลกระทบต่อพรรคให้น้อยที่สุด และประเทศชาติได้ประโยชน์มากที่สุด ถามว่าอย่างไรจะกระทบน้อยที่สุด ให้พิจารณาจาก 5 ข้อฝากของ "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ฝากถึงกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ก่อนตัดสินใจทางการเมืองดังนี้ 

          1.หลังเลือกตั้ง การที่ประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาลกับ พปชร. แล้วมี ส.ส.เกิน 250 เป็นประชาธิปไตยสากล แม้ไม่มีกติกาพิสดารให้ ส.ว.แต่งตั้ง มาเลือกนายกฯ ด้วยก็ตาม 2.ถ้าตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยไม่ได้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลเผด็จการ คสช.อยู่ต่อพร้อมอำนาจ ม.44 ไม่จำกัดเวลา อันนี้ไม่ควรให้เกิดขึ้น

          3.ประชาธิปัตย์ยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณมาตลอด ก็ต้องมั่นคงต่อไป 4.ถ้าจะร่วมรัฐบาลจริงก็ขอให้ประกาศเลยว่าประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อนนโยบายไหน ประเทศจะได้อะไร 5.ถ้าไม่ร่วมรัฐบาล ประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ คสช.ใช้สิทธิ์เป็นรัฐบาลเผด็จการต่อ ประเทศจะเดินไปแบบไหน มีวิธีแก้ไขอย่างไร...๐ 

            แว่วล่าสุดว่า พรรคพลังประชารัฐก็ยอมให้ประชาธิปัตย์จากเดิมตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นโควตาพรรค พปชร.นั้น มีแนวโน้มสูงที่จะยกให้พรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังมีเงื่อนไขของ พปชร. ในเรื่องตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งต้องมีความเหมาะสมด้วย โดยมีชื่อ "บัญญัติ บรรทัดฐาน" จากพรรคประชาธิปัตย์ที่หลายฝ่ายมองว่าเหมาะสม...๐

            ส่วนประธานสภาคนที่ 1 จะต้องของ "สุชาติ ตันเจริญ" ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรค พปชร. ส่วนรองประธานสภาคนที่ 2 เป็นโควตาของภูมิใจไทย ขณะที่ "วิรัช รัตนเศรษฐ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อชิงประธานสภาฯ ล่าสุดถูกจัดวางให้เป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)...๐

            ขณะที่พรรคเพื่อไทยยัง "ฝันเฟื่อง" ว่าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจะสามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ ฝันกันถึงขนาดว่าจะได้เสียงจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โหวตเลือกนายกฯ ของพรรคฝ่ายประชาธิปไตย "ภูมิธรรม เวชยชัย" ระบุว่า "หาก ส.ว.ประกาศชัดเจนว่าจะเดินตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนตัดสินใจในการเลือกตั้งทุกอย่างจะง่ายขึ้น เพราะผลการเลือกตั้งชัดเจนว่าประชาชนเลือกฝ่ายประชาธิปไตย หาก ส.ว.ยึดเอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าปัญหาที่ค้างอยู่จะได้รับการคลี่คลาย"

            ที่ผ่านมาเครือข่ายพรรคฝ่ายประชาธิปไตยต่างดาหน้ากันออกมาด่าสาดเสียเทเสียง บ้างว่า ส.ว.ลากตั้ง บ้างด่าว่าเครือข่ายเผด็จการ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พออยากได้อำนาจกลับจะไปวิงวอนขอเสียงจาก ส.ว.ลากตั้ง ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งโดยเผด็จการ ไม่เท่ากับ "ถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง" หรอกหรือ?...๐

            พูดถึง ส.ว. จะมีการประชุมวุฒิสภานัดแรกในวันที่ 24 พ.ค. ที่หอประชุมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อลงมติเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาอีก  2 คน โดย "พรเพชร วิชิตชลชัย" คงนอนมาแน่นอนในตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่น่าลุ้นคือตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 จับตาไปที่การขับเคี่ยวกันระหว่าง พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร อดีต สนช. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แข่งกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.ยุติธรรม งานนี้เช็กเสียงแล้วคู่คี่สูสีมาก...๐