ผ่านไปแล้วสำหรับเทศกาลวันพระใหญ่ "วิสาขบูชา" และเชื่อว่ามีมากมายแทบทุกห้องไลน์ต้องได้ส่งสติกเกอร์ หรือพิมพ์คำว่า "สาธุค่ะ" เพื่อร่วมอนุโมทนากับเพื่อนพ้องพี่น้องในการปฏิบัติตามจริยวัตรหรือประเพณีของพุทธศาสนิกชน
แต่จะมีสักกี่มากน้อยคะที่เข้าใจ หรือรู้ว่า ทำไมต้องกล่าวคำว่า.. สาธุ สาธุ สาธุ
..นับเป็นความโชคดีอย่างมหาศาลของเราชาวพุทธอย่างแท้จริง...คำว่า "สาธุ" นี้ หามีในศาสนาอื่นไม่..และคำคำนี้มีประวัติความเป็นมาค่ะ
มีเรื่องเล่าว่าในสมัยพุทธกาล มีชายคนหนึ่ง อยู่ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ได้ฟังพระแสดงธรรมเทศนาแล้ว เห็นโทษในการครองเรือน มีความปรารถนาจะขอบวช เพื่อแสวงหาความสงบในสมณธรรม จึงลาจากภรรยาไปบวช ได้ตั้งใจพากเพียรในสมณธรรมตามที่ปรารถนาไว้ตลอดมา
ต่อมาพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงพบหญิงผู้เป็นภรรยาของชายคนนั้น และเมื่อทรงได้ทราบเหตุความเป็นมาทั้งหมดจึงเกิดสมเพชในนางผู้เป็นภรรยา รับสั่งให้นำหญิงนั้นมาเลี้ยงไว้ในพระราชวัง ตั้งเป็นท้าวนางกำนัล
อยู่มาวันหนึ่ง ราชบุรุษนำดอกนิลุบลบัวเขียวมาถวายพระเจ้าปเสนทิโกศลกำมือหนึ่ง พระองค์จึงประทานแก่ท้าวนางคนละดอก ฝ่ายสตรีที่เป็นภรรยาของชายที่ไปบวชนั้น เมื่อไปรับพระราชทาน ก็ยิ้มแสดงความยินดี ดุจนางอื่นๆ แต่พอดมกลิ่นนิลุบลแล้ว นางกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จึงร้องไห้
พระเจ้าปเสนทิโกศลสงสัยพระทัย จึงตรัสถามว่า เหตุใดนางจึงยิ้ม แล้วร้องไห้ นางจึงกราบทูลว่า ที่นางยิ้มเพราะดีใจที่ทรงพระกรุณาประทานดอกบัวให้ แต่พอดมดอกบัวแล้วหอมเหมือนกลิ่นปากของสามีที่ไปบวช นางคิดถึงความหลัง จึงร้องไห้
พระเจ้าปเสนทิโกศลต้องการพิสูจน์วาจาของนาง จึงโปรดให้ประดับวังด้วยของหอมทั้งปวง เว้นแต่บัวนิลุบล แล้วอาราธนาสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า และเหล่าภิกษุสงฆ์ให้มาฉันภัตตาหารในพระราชวัง แล้วมีพระราชดำรัสถามหญิงนั้นว่า พระมหาเถระองค์ไหนที่นางอ้างว่าเป็นอดีตสามี หญิงนั้นก็ชี้ไปที่พระมหาเถระ
เมื่อเสร็จภัตตกิจแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลอาราธนาให้พระพุทธเจ้า และภิกษุองค์อื่นๆ กลับวัดไปก่อน เว้นพระมหาเถระขอให้อยู่ เพื่อกล่าวอนุโมทนากถา
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จกลับไปแล้ว พระมหาเถระจึงกล่าวสัมโมทนียกถา อนุโมทนาด้วยน้ำเสียงอันไพเราะ และมีกลิ่นดอกบัวหอมฟุ้งออกจากปากพระเถระรูปนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ กลบเสียซึ่งกลิ่นดอกไม้ของหอมทั้งปวง
ครั้นพอรุ่งเช้า พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงเสด็จไปสู่พระวิหาร ถวายนมัสการพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วกราบทูลถามว่า "เหตุใดปากของพระมหาเถระจึงหอมดังดอกอุบลเช่นนั้น ท่านได้สร้างกุศลใดมาพระพุทธเจ้าข้า"
สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า "เพราะบุพชาติปางก่อน ภิกษุรูปนี้ได้ไปฟังพระสัทธรรมไพเราะจับใจ เต็มตื้นด้วยปีติยินดี จึงได้เปล่งวาจา ว่า "สาธุ สาธุ สาธุ" เท่านั้น
อานิสงส์แห่งการฟังพระสัทธรรมได้ส่งผลให้ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และด้วยอานิสงส์แห่งการเปล่งวาจาสาธุการ ว่า สาธุ สาธุ สาธุ เพียงเท่านี้ จึงได้ส่งผลให้ท่านมีกลิ่นปากหอมดังดอกอุบล เป็นดังนี้มานับภพนับชาติไม่ถ้วนทีเดียว"
น่าอัศจรรย์จริงหนอ.. เห็นไหมละ มิธรรมดาเลย การเปล่ง สาธุการ สาธุ สาธุ สาธุ เท่านั้นแหละ ด้วยจิตเลื่อมใส ด้วยจิตอนุโมทนาในกุศลผลบุญทั้งหลาย ย่อมมีอานิสงส์มิใช่น้อยเลย...และผลดีอีกประการหนึ่งของการกล่าวสาธุการนี้ ย่อมทำให้ปิดกั้นกระแสบาปเสียได้ คืออกุศลจิตที่คิดริษยาในการทำความดีของผู้อื่นย่อมไม่ปรากฏ ไม่เกิดขึ้นแก่ผู้ที่กล่าวสาธุการอยู่เป็นนิจ จิตของเขาย่อมผ่องใส เป็นทางมาแห่งบุญกุศล และย่อมเข้าถึงกระแสแห่งธรรมได้โดยง่าย บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่ายทีเดียว
ดังนั้นขอเรียนเชิญสหายธรรมที่รักทุกคน ได้มาตั้งจิตอนุโมทนาบุญซึ่งกันและกันดีกว่า
สาธุ...สาธุ...สาธุ...อนุโมทามิฯ.
. "ป้าเอง"
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |