ซาอุดีอาระเบียเชิญประเทศอาหรับประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาคอ่าวฯ โดยยืนยันว่าซาอุฯ ไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน แต่ซาอุฯ ก็พร้อมจะปกป้องตนเองหากอิหร่านเลือกจะทำสงคราม

แฟ้มภาพ ถ่ายเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เรือบรรทุกน้ำมันดิบ 1 ใน 2 ลำของซาอุดีอาระเบีย ที่โดนโจมตีอย่างลึกลับนอกชายฝั่งเมืองฟูไจราห์ของยูเออี / AFP

    สำนักข่าวเอสพีเอของทางการซาอุดีอาระเบียรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียทรงเชิญผู้นำกลุ่มประเทศสันนิบาตอาหรับและประเทศในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียมาร่วมการประชุมฉุกเฉิน 2 เวทีที่นครเมกกะ วันที่ 30 พฤษภาคม เพื่อหารือเกี่ยวกับ "การรุกรานและผลที่เกิดตามมา"

    ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เกิดเหตุการโจมตีก่อวินาศกรรมอย่างลึกลับต่อเรือบรรทุกน้ำมันหลายลำในน่านน้ำของอ่าวเปอร์เซีย และเหตุการณ์กบฏเยเมนที่มีอิหร่านหนุนหลัง ส่งโดรนโจมตีท่อส่งน้ำมันดิบในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรัฐบาลซาอุฯ กล่าวโทษว่าเป็นคำสั่งตรงจากอิหร่าน

    สหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินทิ้งระเบิดมาวางกำลังที่ภูมิภาคนี้แล้วเช่นกัน โดยสหรัฐอ้างว่าเพื่อรับมือภัยคุกคามจากอิหร่าน

    อาเดล อัลจูเบอีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ประเทศของเขาไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน แต่หากอีกฝ่ายเลือกทำสงคราม ซาอุดีอาระเบียก็พร้อมจะปกป้องตนเองและผลประโยชน์ของตนอย่างแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยว

    ชาติพันธมิตรของซาอุฯ หลายชาติได้ตอบรับคำเชิญนี้แล้ว กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่า สภาพการณ์วิกฤติในขณะนี้เรียกร้องให้ชาติอาหรับและประเทศในภูมิภาคอ่าวต้องมีจุดยืนที่เป็นเอกภาพ การประชุมนี้จะเป็นโอกาสที่มีนัยสำคัญสำหรับประเทศทั้งหลายในภูมิภาคนี้เพื่อบรรลุความปรารถนาในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ

    จูเบอีร์กล่าวถึงการก่อวินาศกรรมเรือสินค้า 4 ลำ ซึ่ง 2 ลำเป็นเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุฯ ที่นอกชายฝั่งเมืองฟูไจราห์ของยูเออีที่อยู่ใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ ว่ายูเออีเป็นแกนนำการสอบสวนที่กำลังทำร่วมกับซาอุฯ,  สหรัฐ, ฝรั่งเศส และนอร์เวย์ โดยการสอบสวนพบส่งบ่งชี้บางประกาศแล้ว และคาดว่าจะประกาศผลได้เมื่อสอบสวนเสร็จสิ้น.