ยาโด๊ป-ค่านิยมแบบผิด เตือนสว.เสี่ยงหัวใจวาย


เพิ่มเพื่อน    

(ยาโด๊ปสูตรจากเมนูพิสดาร หากรับประทานติดต่อกันจะทำให้ร่างกายเกิดความร้อนที่เสี่ยงต่อการช็อกและหัวใจวายได้)

จากข่าวซีอีโอหมื่นล้านเข้าป่าล่าสัตว์ในเขตห้ามล่าฯ เพื่อนำไปทำเป็นยาโด๊ป ทำเอาหนุ่มใหญ่หลัก 5 หลัก 6 ออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ สำหรับการสรรหาของรับประทานพิลึกพิลั่นบำรุงกำลังดังกล่าว เพราะนอกจากความผิดด้านกฎหมายแล้ว คนที่ชอบเปิบเมนูเสริมกำลังทางเพศแบบดิบๆ ยิ่งส่งผลต่อสุขภาพ เพราะวัยที่มากขึ้น นั่นจึงเท่ากับเป็นการเร่งอัตราการทำงานของร่างกายมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้หากไม่ระมัดระวัง 

(นพ.ประพันธ์ พงศ์คณิตานนท์)

นพ.ประพันธ์ พงศ์คณิตานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ มีคำเตือนเกี่ยวกับผู้สูงวัยที่นิยมรับประทานเมนูเพิ่มพลังว่า “ผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นปีขึ้นไป ที่นิยมรับประทานเมนูโด๊ปร่างกายต่างๆ ถือได้ว่าเป็นการเร่งการทำงานของร่างกายมากเกินไป ซึ่งตรงนี้จะไปสวนทางกับสมรรถภาพร่างกายที่เสื่อมถอย ก็เหมือนกับการที่เราออกกำลังอย่างหักโหม และเมื่อร่างกายรับไม่ได้ก็จะเกิดผลเสียตามมา ที่สำคัญเมนูโด๊ปแปลกๆ หากได้รับมากเกินไปก็จะไปกระตุ้นสารเมตาบอลิซึม ซึ่งเป็นตัวเร่งให้ร่างกายเกิดความร้อน เช่น ความเชื่อในการบริโภคโสมเกาหลีเพื่อบำรุงสุขภาพ หากกินมากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการร้อนใน อีกทั้งจะไปกระตุ้นหัวใจจนทำให้หัวใจวายได้ 

(“งูดอง” เมนูบำรุงกำลังที่เสี่ยงต่อการได้รับพยาธิเข้าสู่ร่างกาย)

ในส่วนของการบริโภคซุปยาบำรุงกำลังทางเพศที่ปรุงจากเนื้อสัตว์นั้น หากมีการต้มสุกก็ไม่ทำให้เกิดเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ยกเว้นว่ารับประทานดิบ อาจจะมีเชื้อพยาธิหรือเชื้อแบคทีเรียปรสิตบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย เช่น การกินงูดองกับเหล้าขาว ก็ถือว่าไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยง จึงกล่าวได้ว่าการบริโภคเมนูอุ้งตีนหมี หรือซุปหางเสือดำ กระทั่งซุปอวัยวะเพศสัตว์ ฯลฯ เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อร่างกายในแง่ของการบำรุงกำลังแต่อย่างใด ที่สำคัญหากบริโภคมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะช็อกและหัวใจวายจากภาวะร่างกายเกิดความร้อนสะสมเป็นเวลานานๆ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น หรือแม้แต่การบริโภคสมุนไพรบำรุงกำลังเพศที่รับประทานสดๆ โดยไม่ผ่านความร้อน ก็อาจทำให้ได้รับเชื้อราเข้าสู่ร่างกายเช่นเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาอีก 

(บริโภคสุมนไพรเป็นยาบำรุงกำลัง ต้องรับประทานตามตำรับและปรุงจากแพทย์แผนไทยที่เชื่อถือได้)

ดังนั้นหากผู้สูงอายุจะเลือกบำรุงกำลังจากการบริโภคสมุนไพรไทย ก็ต้องมั่นใจว่าตำรับยาดังกล่าวเป็นองค์กรหรือหน่วยงานที่เชื่อถือได้หรือไม่ และต้องกินอย่างพอดีตามตำรับที่กำหนดไว้ เนื่องจากร่างกายของมนุษย์ทุกคนจะเสื่อมไปตามวัย ดังนั้นหากไปบำรุงหรือกระตุ้นมากๆ ก็เท่ากับเป็นการบั่นทอนสุขภาพไปโดยปริยาย

สำหรับหลักของการชะลอวัยที่ดี หมอแนะนำให้ 1.อย่าหักโหมเรื่องการทำงานมาก แต่ให้รู้จักประมาณตน หรือดูกำลังของตัวเอง เช่น ตอนนี้คุณอายุ 60 ปี แน่นอนว่าประสิทธิภาพในการทำงานอาจจะแข็งแรงไม่เท่ากับคนอายุ 20 ต้นๆ ดังนั้นต้องทำกิจกรรมต่างๆ ตามวัย เช่น การหลีกเลี่ยงการปืนต้นไม้เพื่อตัดกิ่งไม้ เป็นต้น 2.หมั่นบำรุงร่างกายด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นการบริโภคผัก-ผลไม้เป็นหลัก ที่สำคัญให้กินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 3.ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี 4.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะนั่นจะเป็นวิธีการที่ทำให้ปอดและหัวใจของผู้สูงวัยแข็งแรง โดยเฉพาะการเดินหรือปั่นจักรยาน เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยลดการกระแทก ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการวิ่ง เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้ผู้สูงวัยที่มีปัญหาเรื่องสะโพกและกระดูกสันหลัง เกิดอาการปวดเมื่อย หรือเจ็บป่วยหนักขึ้นไปอีก เนื่องจากการออกกำลังของผู้สูงวัยนั้นจะไม่ได้เน้นเรื่องการทำให้มีกล้ามเนื้อ แต่เป็นการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อในการใช้งานโดยปราศจากอาการปวดเมื่อย หรือเป็นเทคนิคเพิ่มพลังที่ไม่ต้องพึ่งยาโด๊ปขนานใดๆ ครับ”.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"