"ลุงตู่" ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ อีกสมัยหากได้รับความไว้วางใจ ลั่นสิ่งแรกที่จะทำ ให้สภาเกิดความสงบ ยันจะทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม  คาดกระบวนการตั้งรัฐบาลทุกอย่างจบภายใน มิ.ย. แกนนำ พปชร.รอท่าที กก.บห.ปชป.ชุดใหม่ "ไพบูลย์" ฟันธง "บิ๊กตู่" นอนมา หยามขั้วที่ 3 หรือ 7 พรรคไม่มีทางเป็นไปได้ "เหลิม" ย้อน "ภท.-ปชป." เคยบอกไม่เอา "ประยุทธ์" แต่วันนี้กินยาผิดซอง "เสรีพิศุทธ์" ลั่นไม่รับตำแหน่งพร้อมเท 10 เสียงให้ ปชป.ได้โควตาเก้าอี้รมต.เพิ่มหากเข้าร่วมฝ่าย ปชต.

    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงตรวจเยี่ยมการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และสภาพแวดล้อมของผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัดล็อก 1-2-3 และชุนชนหัวโค้ง เขตคลองเตย กทม. โดยมีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม., นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาต้อนรับ
    จากนั้น นายกฯ เดินทักทายและตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ประชาชนในชุมชน พร้อมกล่าวว่า เป็นห่วงในเรื่องของอัคคีภัย เนื่องจากมีเยาวชนและผู้สูงอายุอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา ต้องเตรียมแผนสำรองเอาไว้ให้รอบคอบ 
    "ลุงเป็นห่วงพวกเราทุกคน และถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เท่าเทียม และขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย เพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน ไม่เช่นนั้นอนาคตเราจะเดินต่อไปไม่ได้ เราต้องทำให้เกิดความมั่นคงขึ้น ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร แม้จะเป็นทหารก็ตาม ผมจะทำให้ดีที่สุดถ้าได้ทำหน้าที่ต่อ ผมไม่ได้มาหลอกใคร สิ่งที่นายกฯพูดและสิ่งที่พวกท่านเห็น คือตัวตนของผมทั้งนั้น ไม่ได้หวังอะไรทั้งสิ้น แค่อยากให้ทุกคนมีความสุข" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ไม่ว่ารัฐบาลหน้าจะเป็นใครท่านก็มี ส.ส.ในพื้นที่ดูแลท่านอยู่แล้ว ประเทศไทยต้องรักกัน อะไรที่ทำได้ก็ทำ แต่เราต้องร่วมมือกัน นายกฯ ยังถามเด็กๆ ที่มาต้อนรับว่า อยากเป็นนายกฯกันไหม ถ้าอยากเป็นก็ต้องเรียนหนังสือ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ประเทศชาติจะเดินไปข้างหน้าได้ด้วยประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดเราทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว ต้องมีความรักความสามัคคี เพื่อลูกหลานของเรา มาวันนี้ไม่ต้องมามอบอะไรให้ตน แค่เรามีหัวใจดวงเดียวกันก็พอแล้ว พร้อมกันนี้นายกฯ ยังได้พูดกระเซ้าว่า "เสียดายไม่ได้ลงเลือกตั้งในเขตนี้ ถ้าลงไม่รู้จะสู้เขาได้หรือเปล่า" 
    จากนั้นนายกฯ เยี่ยมชมกิจกรรมนันทนาการและกีฬาของเยาวชนและประชาชนในชุมชนคลองเตย โดยได้ชมการแสดงดนตรี การแสดงลีลาศ พร้อมร่วมร้องเพลงสุขกันเถอะเรา และเพลงพรหมลิขิต 
พร้อมเป็นนายกฯ
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงความหวังที่จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งว่า "ก็ไม่ได้หวังอะไร อย่ามาถามความหวังของผม มันอยู่ที่ประชาชน" เมื่อถามว่ากระแสพรรค พปชร.มีเสียงสนับสนุนจากหลายพรรคทำให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เสียงสนับสนุนก็ไม่น้อย แต่จะได้กลับมาเป็นนายกฯ หรือไม่นั้นยังไม่รู้ อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ก่อน ซึ่งจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปิดสภาก่อนตามขั้นตอน เมื่อเปิดสภาเสร็จ ก็จะเลือกประธานสภาฯ และเลือกนายกฯ เมื่อได้นายกฯ มาก็จะมีการจัดตั้งรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี ทุกอย่างน่าจะจบภายในเดือนมิถุนายน
    เมื่อถามว่า นิยามการเป็นนายกฯ คืออะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนจะทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม Better and Better ทุกอย่างมันต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่สร้างแรงศรัทธาไว้ในใจว่าจะต้องดีขึ้น ตนคงลากลับบ้านไปนานแล้ว เราตั้งมั่นว่ามันต้องดีขึ้น อย่างน้อยมันก็ดีขึ้น เห็นได้จากหลายๆ อย่าง ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟ ทางด่วน ทุกอย่างก็ดีขึ้นแล้ว ทำไมไม่มองตรงนี้ เศรษฐกิจ ดิจิทัลออนไลน์ ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟ ทางด่วนทุกอย่างก็ดีขึ้นแล้ว เศรษฐกิจ ดิจิตอลออนไลน์ ทุกอย่างดีขึ้นหมด ช่องทางการค้าขายต่างๆ ก็ดีขึ้น กฎหมายออกมาถึงกว่า 500 ฉบับ ออกมาจากคนพวกนี้ และขึ้นมาเป็น ส.ว.คนเหล่านี้ทำงานมาโดยตลอด ทำความดีมามากพอสมควร ขอร้องอย่าไปตีกันมากนักเลย อย่างไรก็หนีกันไม่พ้น พวกคุณก็ดูสิ นักการเมืองหน้าใหม่ๆ เข้ามากันกี่คน
    "เต้นเรื่องอะไร ผมเต้นจนเลิกเต้นมานานแล้ว 5 ปีเต้นแล้วเต้นอีก เต้นจนจะหลุดออกจากนอกเบ้ามาหลายรอบแล้ว แต่ก็กลับมาที่เก่าแล้ว เพราะอะไรจะเกิดก็เกิดไป มันเป็นเรื่องชะตาชีวิตของพวกเราทุกคน ของประเทศไทยด้วย" นายกฯ กล่าวเมื่อถามว่ารู้สึกใจเต้นหรือไม่
    เมื่อถามอีกว่า พร้อมที่จะเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า "แล้วจะอย่างไร ถ้าเขาบอกว่าให้ผมเป็น แล้วผมจะต้องป่วยทันทีหรืออย่างไร มันก็ไม่ใช่ วันนี้ยังไม่รู้ ถ้าเขาไว้ใจผมก็พร้อม"
     ถามว่า ถ้าได้เป็นนายกฯ คนต่อไปสิ่งแรกที่จะทำคืออะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมั่นใจว่า "ทำให้สงบ ทำให้สภาสงบ แล้วทำไมไม่ไปบอกให้เขาทำให้สงบบ้าง ทุกคนต้องเคารพกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตั้งใจที่จะทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง หลายคนก็เป็นนักการเมืองเก่า ตนเชื่อว่าทุกคนมีจิตปรารถนาที่ดี ทั้งหมดอยู่ที่หัวหน้ารัฐบาล จะทำอย่างไรให้ทุกคนร่วมมือกัน รักกันได้ เพื่อประชาชนและพวกเราทุกคน ไม่ใช่เพื่อนผลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง วันข้างหน้าก็มีการตรวจสอบกันมากมาย ฉันคงไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงอะไรมากมาย มันก็มีกฎหมายและกติกาทุกตัว"
    "หายใจเข้าไว้ ทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงนิยามในการทำงาน 
     ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณี นายกฯ ได้ทาบทามให้มาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหมอีกสมัย แต่ก็ร้องอุทานว่า "เฮ้ย ...เลิกถามได้ละ ไม่มีๆ"
    เมื่อถามว่า หมายความว่าโหวตนายกฯ แล้วค่อยทาบทามใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่รู้ๆๆ ถามอยู่นั่นแหละ ไม่ต้องถามหรอก" พร้อมเดินขึ้นลิฟต์จากไปทันที
รอกก.บห.ปชป.ชุดใหม่
    นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร.กล่าวถึงท่าทีของพรรคหลังได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คนใหม่ว่า ยังไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่ ให้รอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ให้เกียรติพรรค ปชป.ได้ประชุมหารือกันก่อน เรายังไม่รู้ท่าทีของนายจุรินทร์เลยว่าจะเอาอย่างไร ส่วนพรรค ปชป.กับภูมิใจไทย ใครคุยยากกว่ากัน ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ทั้งคู่
    นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีงูเห่าในพรรค พปชร.ว่า  มั่นใจว่าพรรค พปชร.จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ และมั่นใจว่าการทำงานของพวกเรามีความมั่นคงในการรวมกลุ่มกันของพรรค พปชร. เราเข้าใจดีว่าสิ่งที่ควรทำเพื่อประเทศคืออะไร จึงไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย สำหรับการรวมเสียงตั้งรัฐบาลได้โดยการรวบรวมพรรคเล็กเข้ามา แต่เสียงยังก้ำกึ่งนั้น ยืนยันว่าถึงจะเป็นรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ แต่เรื่องระเบียบวินัยของ ส.ส.ของพรรคร่วมที่เราได้คุยกันไว้ คงทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่าเราสามารถนำพาประเทศไปได้แน่นอน และขอให้มีการประกาศรวมตัวกันอย่างเป็นทางการก่อน
    เมื่อถามถึงการเจรจาตกลงในเรื่องเก้าอี้ต่างๆ ลงตัวแล้วหรือไม่ นายณัฏฐพลกล่าวว่า เรื่องแรกคือการเลือกประธานรัฐสภา เรื่องที่สองคือการโหวตเลือกนายกฯ และเรื่องที่สามคือเก้าอี้รัฐมนตรีต่างๆ ซึ่งต้องพูดคุยหลังจากนั้น โดยให้นายกฯ ตัดสินใจว่าใครเหมาะสมในการทำหน้าที่หรือตำแหน่งใดในการรับใช้ประชาชน คงไม่เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาในการต่อรองมากมาย 
    ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ย่านเกียกกาย นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เข้ารายงานตัว ส.ส.ใหม่ และให้สัมภาษณ์ว่า พรรคประชาชนปฏิรูปได้มีการประชุมสมาชิกพรรคและมีมติในที่ประชุมใหญ่ของพรรคว่า เมื่อมี ส.ส.เข้ามา ในการเลือกนายกฯ นั้นก็จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เรายังยืนยันในจุดยืนนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จะเป็นขั้วไหนก็ตาม ก็อยู่ที่บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ จะมีความสามารถหรือมีโอกาสที่จะรวบรวมเสียงได้ถึง 376 เสียงหรือไม่ เท่าที่ดูในขั้วที่ 3 นั้นยังไม่มีบุคคลใดที่มีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ ยังถือว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นไปได้มากที่สุด และตนเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้แน่นอนที่จะเป็นนายกฯ ส่วนขั้วอื่นก็คงได้เสียงไม่พอ ทางขั้ว 7 พรรคที่ประกาศสนับสนุนพรรคเพื่อไทยนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ 
    นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย (รป.) และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงว่า พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยจะเข้าร่วมกับพรรคพปชร. เพื่อเดินหน้าทำงานเรื่องป่าและสิ่งแวดล้อมตามที่ถูกเชิญชวน เพราะคิดว่าขณะนี้พรรค พปชร.น่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมยอมรับว่า ฝั่งพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เชิญชวนให้เข้าร่วมเช่นกัน แต่ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการทำงานที่ชัดเจน อีกทั้งยังไม่ทราบว่าใครจะได้เป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ซึ่งหากเข้าร่วมแล้วเป็นฝ่ายค้าน ก็จะไม่สามารถทำงานตามเจตนารมณ์ของพรรคได้
    เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ทางการเมืองพลิกขั้วพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล นายดำรงค์ กล่าวว่า ต้องดูว่าจะมีการเชิญหรือไม่ ถ้ามีการเชิญมาตนก็พร้อมเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย ก็ต้องดูก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งตนเข้าได้กับทุกฝั่งไม่มีเจตนาจะแบ่งแยกอะไร เพราะต้องการเข้าไปทำงานเรื่องสิ่งแวดล้อ ม เราสามารถทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้ ซึ่ง 2 เสียงของพรรคคงไม่สามารถไปต่อรองอะไรได้
เหน็บภท.-ปชป.กินยาผิดซอง
     ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคนำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย เรียกประชุม ส.ส.ใหม่ ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ครั้งแรก เพื่ออบรมหลักสูตรเตรียมความพร้อมในการทำหน้าที่ ส.ส. โดยมี ส.ส.ใหม่ 34 รายเข้าร่วม 
    โดยนายภูมิธรรมกล่าวถึงการดู ส.ส.ใหม่ที่อาจจะยังไม่มีความผูกพันกับพรรคให้ไม่กลายเป็นงูเห่าว่า เราไม่เคยกังวล ส.ส.ใหม่ที่เข้ามาไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักพรรคมาก่อน แต่เป็นคนที่มีความนิยมและศรัทธาในพรรคการเมืองพรรค ได้พิสูจน์ตัวเองมา มั่นใจว่าฐานสำคัญที่ประชาชนโอบอุ้มเราจะเป็นกำลังใจให้พวกเขาทำงาน เชื่อว่า ส.ส.ใหม่จะเป็นเลือดใหม่ที่เข้ามาทำงานเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคเพื่อไทยมากขึ้น
    ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค พท. กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่เลวที่สุดยิ่งกว่าปี 2500 แต่ยังเอาชนะเพื่อไทยไม่ได้ นับมาได้อย่างไรส.ส. 80 คน ชนะ ส.ส. 136 คน นับเข้าข้างตัวเอง แต่ละพรรคก็บอกชัดเจนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้วว่า ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอาสืบทอดอำนาจ แล้ววันนี้กินยาผิดซองมาหรือ ถึงได้อึกอัก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกให้รอวันที่ 20 พ.ค. ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ บอกให้รอผลประชุมวันที่ 15 พ.ค.ทั้งที่ก่อนเลือกตั้งก็พูดชัดเจน
    "ตัวเต็งในรัฐบาลชุดนี้อารมณ์ไม่ดีหรอกถ้าโดนส.ส.ในสภาด่า แม้ผมจะไม่เข้าสภา แต่จะทำหน้าที่อภิปรายนอกสภา อาจจะจัดแถลงข่าวที่พรรคสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เสียดายที่ไม่ได้เข้าสภา แต่ไม่เป็นไร ผมทำหน้าที่นอกสภาได้ แล้วผมไม่เป็นกรรมาธิการหรืออะไรต่างๆ เพราะพญาหงส์ไม่ลงหนองน้ำเล็ก” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
    เมื่อถามว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค ปชป.คนใหม่ จะส่งผลต่อการเข้าร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คิดว่าการที่นายจุรินทร์เป็นหัวหน้าพรรคจะเข้าร่วมกับพรรคพปชร.ได้ยากกว่าการมีหัวหน้าเป็นอีก 3 แคนดิเดต เพราะนายจุรินทร์เป็นคนมีหลักการ และเป็นคนที่อยู่กับ ปชป.มาตลอด นอกนั้นเป็นพวกท้องมดลูก แต่จะมีโอกาสร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ไม่ทราบเพราะไม่ใช่คนดำเนินการพูดคุย ก็มีโอกาสสูงที่ ปชป.จะแตกออกเป็น 2 ฝ่ายในการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ และมองว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีความไม่มั่นคงสูง ซึ่งเชื่อว่าจะอยู่ได้นานที่สุดเพียง 1 ปี อย่างมากไม่เกิน 2 ปี
    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า ขอให้ฝ่ายประชาธิปไตย อย่าไปอยู่กับฝ่ายสืบทอดอำนาจหรือฝ่ายเผด็จการ เพราะจะทำให้บ้านเมืองเข้าสู่นรก พี่น้องประชาชนจะอดอยากข้นแค้น ช่วงนี้ประชาชนก็ลำบากเต็มทีแล้ว เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ควรร่วมมือกันเข้ามาทำงานกับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน คะแนนผม ส.ส.ทั้งหมด 10 เสียง ผมยกให้ประชาธิปัตย์ทั้งหมด โดยผมจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์นำโควตาไปรวมกับคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด จะได้มีจำนวนรัฐมนตรีเพิ่มมากขึ้น พรรคสืบทอดอำนาจพยายามอัดเงินเข้ามาผู้ที่ชิงตำแหน่งของพรรคประชาธิปัตย์ในสายกรุงเทพฯ เพื่อที่จะเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้ได้ ก็จะได้เข้ามาอยู่กับฝ่ายสืบทอดอำนาจ 
    "แผนการต่างๆ ทุเรศ สกปรก แม้แต่ผมเอง พรรคเสรีรวมไทย ยังมีการส่งนายทหารทาบทามผมเพื่อให้ไปอยู่กับฝ่ายเผด็จการ หลังจากที่ผมไม่ไปก็ยังมีความพยายามที่จะซื้อผมทั้งพรรค พร้อมมอบตำแหน่งรัฐมนตรีให้ด้วย ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ยึดมั่นในพรรคที่เป็นฝ่ายประชาธิปไตยอันยืนยาว ขอให้ท่าน ปฏิบัติเป็นแบบอย่างของพรรคการเมืองทั้งหมด" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว.