14 พ.ค.62- มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แกนนำพรรคเพื่อไทยบางส่วนได้เดินทางไปหารือกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อประเมินสถานการณ์การเมือง และแนวทางในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล โดยมีการหารือถึงประเด็นความเป็นไปได้ในการนำเสียง 7 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่ร่วมลงสัตยาบัน จำนวน 245 เสียง สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯของพรรคประชาธิปัตย์ หรือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯของพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯเพื่อขัดขวางการสืบอำนาจผ่านการตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ 

นอกจากนี้ยังพูดคุยถึงความพยายามในการดึงเสียงส.ส.บางส่วนหรืองูเห่า ของพรรคพลังประชารัฐออกมาด้วย โดยประเมินว่าขณะนี้ภายในพรรคพลังประชารัฐ มีความขัดแย้งกันในกรณีการเสนอชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่าง นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ กับนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งยังมีแกนนำคนอื่นที่สนใจตำแหน่งดังกล่าวแต่ยังไม่เปิดตัวด้วย

โดยพรรคเพื่อไทยได้ประสานไปยังผู้เสนอตัวเป็นประธานสภาฯของพรรคพลังประชารัฐรายหนึ่ง พร้อมกับแจ้งไปว่า ถ้าไม่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐจริง พรรคเพื่อไทยและพันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตย ก็จะไม่เสนอชื่อบุคคลเข้าแข่งขัน แต่พร้อมให้การสนับสนุนลงมติให้ในการเลือกประธานสภาฯให้ผู้เสนอตัวรายดังกล่าว

อย่างไรก็ดีผู้เสนอตัวเป็นประธานสภาฯรายนั้นจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐอีกจำนวนหนึ่งราว 10-20 เสียง มาบวกกับ 245 เสียง เพื่อให้ได้เสียงเกินกึ่งของสภาฯ ในการลงมติเลือกประธานสภาฯ โดยการเลือกประธานสภาฯเป็นเอกสิทธิ์ส.ส.ที่ไม่จำเป็นต้องโหวตตามมติพรรคด้วย

มีรายงานอีกว่า ขณะนี้ยังมีความพยายามโน้มน้าวพรรคการเมืองต่างๆที่ยังไม่ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในการร่วมกับฝ่ายใด อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนา เป็นต้น ให้ตัดสินใจร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจ และปิดสวิตซ์ ส.ว. ตามที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเสนอให้ทุกพรรคการเมืองรวมเสียงให้ได้มากกว่า 376 เสียงในการเลือกนายกฯที่มาจากตัวแทนของพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ หรือนายอนุทิน เพื่อแข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อ โดยหวังว่าจะได้เสียงส่วนหนึ่งในกลุ่มของประธานสภาฯของพรรคพลังประชารัฐ ที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุน หันมาลงมติให้นายกฯที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทยหรือพรรคพันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตย แทนการลงมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะประเมินว่าท้ายที่สุดหากพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจมาร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยจริง ก็อาจได้ไม่ครบทั้ง 52 เสียง เนื่องจากมี ส.ส.บางส่วนที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยอย่างเด็ดขาด จึงต้องได้เสียงส.ส.พรรคพลังประชารัฐมาทดแทนในส่วนนี้.