คิดไม่ออก-บอกไม่ถูก!!!


เพิ่มเพื่อน    

      คงต้องยอมรับว่า...การเมืองช่วงนี้ หรือนับจากนี้ ออกจะเป็นอะไรที่คิดไม่ออก-บอกไม่ถูก อยู่พอสมควร แม้ว่าค่อนข้างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ว่ายังไงๆ...ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านคงต้องกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีแบบชนิด แบเบอร์ อยู่แล้วแน่ๆ แต่หลังจากเป็นแล้ว จะออกไปทาง แบ หรือ แบน หรือ บาน กันในระดับไหน อันนี้นี่แหละ...ที่เล่นเอา มึนซ์ซ์ซ์ตึ้บบ์บ์บ์ กันไปมิใช่น้อย...

                                                                ---------------------------------------------------

      คือยังมองไม่ออกว่า...อดีตนายทหาร ผู้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ค่อนข้างสูง ขณะที่จุดเดือดทางอารมณ์อาจต่ำไปหน่อย ผู้มีนามกรว่า บิ๊กตู่ หรือ ลุงตู่ ของเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย จะมีศักยภาพและขีดความสามารถในการฝ่าเขี้ยว ฝ่างา ฝ่าพงหนามและหุบเหว โดดปีนหน้าผาระดับสูงชันโด่เด่ไม่น้อยไปกว่าเทือกเขาหิมาลัย ที่ระเกะระกะกีดขวางอยู่ในเส้นทางเบื้องหน้า ไปได้ในแบบไหน อย่างไร เพราะโอกาสที่จะต้องแบแล้วแบอีก แบนแล้วแบนอีก หรือบานแล้วบานอีก น่าจะมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

                                                                 ---------------------------------------------------

      แค่เฉพาะการรวบรวมพรรคการเมืองต่างๆ...ซึ่งเอาไป-เอามาแล้ว น่าจะไม่ต่ำไปกว่าเกือบ 30 พรรค ให้เข้ามาเป็นอันหนึ่ง-อันเดียวกัน เพื่อให้จำนวนเสียงภายใน สภาฯล่าง มันเลยระดับปริ่มน้ำขึ้นมาหน่อย อันนี้...ก็คงหนีไม่พ้นต้อง แบแล้ว-แบอีก นั่นแหละท่าน ต้องคอยเสียบ คอยล้าง คอยแก้เข็มขัด แก้กางเกง เป็นรายตัวกันไปโดยตลอด เผลอเมื่อไหร่...บรรดาสิ่งที่ได้รับการอภินันทนาการมาจาก สูตรคำนวณ ของ กกต. ใช่ว่ามันจะมีสถานะเป็นแค่ตัวเลข เป็นเศษส่วน เป็นทศนิยม ที่สามารถปัดไปในทางไหนก็ย่อมได้ เพราะแต่ละตัว แต่ละทศนิยม มันล้วนแต่ ดิ้นได้   หรือสามารถปัดตัวมันเอง ไปในทางที่เป็นบวก หรือลบ กับรัฐบาลได้เสมอๆ...

                                                                   ----------------------------------------------------

      ดังนั้น...แม้จะเป็นรัฐบาลไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว แต่หนีไม่พ้นต้องคอย ปัดเศษ เวลาคิดจะผ่านกฎหมาย ผ่านมติ ผ่านกระทู้ ต่างๆ ไปโดยตลอด เพราะไม่เช่นนั้น...บรรดาเศษเล็ก เศษน้อย เหล่านี้นี่แหละ มันอาจทำให้สถานะความเป็นรัฐบาลหกคะเมน ตีลังกา ล้มคว่ำคะมำหงาย ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ โดยเฉพาะถ้ายังคิดจะหนีบแข้ง หนีบขา ไม่ยอม แบ ให้มันในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี แล้วประเภทที่ออกไปทางจุดเดือดทางอารมณ์ต่ำอย่าง บิ๊กตู่ ด้วยแล้ว การแบแล้ว-แบอีก คงแทบไม่ต่างอะไรไปจากการถูก ข่มขืน ชนิดวันละ 3 เวลา หลังอาหาร อะไรประมาณนั้น...

                                                                  ----------------------------------------------------

      และก็ไม่ใช่แค่บรรดาพวกเศษเล็ก เศษน้อย เหล่านี้เท่านั้น...กระทั่งพวกที่ไม่ได้ออกไปทางเศษๆ แต่สามารถรวมกลุ่ม รวมก้อน รวมพลัง สถาปนาตัวเองเป็น พระเจ้าแปร หรือเป็น ตัวแปร ซ่องสุมผู้คนอยู่ในพรรคต่างๆ แทบทุกพรรค แม้แต่พรรคพลังประชารัฐของ บิ๊กตู่ เองนั่นแหละ อันนี้...ไม่ใช่แค่ แบ เท่านั้น เผลอๆ อาจถึงขั้นต้อง แบน หรือ บาน เอาง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าหากยังเอาแต่กำหนดโควตาไว้แบบเป็นแท่งๆ ด้ามๆ ไม่คิดหาทาง จัดสรรปันส่วนผสม ให้ลงตัวซะแต่เนิ่นๆ โอกาสที่จะ แบน  หรือ บาน น่าจะพอเห็นๆ อยู่อีกไม่ใกล้-ไม่ไกล เพราะขนาดยังไม่ทันรู้ว่าใครเป็นประธานรัฐสภา ใครเป็นนายกรัฐมนตรีกันแน่ ข่าวคราวเรื่องพระเจ้าแปรเตรียมขอโควตากรุงอังวะ พ่วงกรุงเมาะตะมะ ไม่ยอมเอาเมืองทวาย ไม่อยากได้เมืองมะละแหม่ง ฯลฯ ก็เล็ดลอดออกมาเป็นข่าวลือ ข่าวปล่อย ชนิดน่าปวดเศียร เวียนเกล้า ซะเหลือเกิน...

                                                                   ----------------------------------------------------

      ยิ่งถ้าหากเจ้าเมืองตองอู...คิดยึดโควตากลาโหม มหาดไทย กระทรวงเศรษฐกิจ ฯลฯ เอาไว้ชนิดไม่ยอมปล่อย ยอมคาย อย่างที่ลือๆ กันไว้แล้ว อันนี้...โอกาสที่จะ แบน หรือ บาน น่าจะมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ หรือแม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะสำเร็จเสร็จสิ้นลงไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถนั่งได้ นอนได้ แบบสบายๆ โอกาสที่จะต้องยืนขาแข็ง โด่เด่ ไปโดยตลอด ด้วยเหตุเพราะ ลมมันเย็น หรือเพราะริดสีดวงทวารกำเริบ ตูดบาน ก้นบาน จนสุดท้าย...อาจหนีไม่พ้นต้องหันไปใช้บริการของ หมอปิยะ แห่งโรงพยาบาลเวชธานี คือต้องลงมือ ผ่าตัด กันอีกครั้ง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย...

                                                                    -----------------------------------------------------

      ภายใต้สภาพบรรยากาศเช่นนี้นี่เอง...เลยคงต้องสารภาพว่า คิดไม่ออก-บอกไม่ถูกว่านับจากนี้ มันจะเป็นไปในรูปไหน อย่างไร จะสามารถอาศัยสมุนไพรเพชรสังฆาต ของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร ประคับประคองอาการไม่ให้หัวริดสีดวงแต่ละหัว มันขยายตัว บานทะโรคจนเกินไป ได้อีกซักกี่เดือน กี่ปี หรือจะต้องหันไปหา หมอปิยะ ให้ช่วยล้วงๆ ควักๆ หรือให้ ผ่าตัด ให้หมดเรื่อง หมดราว กันไปซะที แถมยังอาจต้องคิดไปอีกว่าจะ ผ่าเล็ก หรือ ผ่าใหญ่ จะต้อง วางยาสลบ กันเลยหรือไม่ หรือแค่สะกิดหัวฝีไม่กี่เม็ด อันนี้...มันก็เลยกลายเป็น โจทย์ ที่ยากซ์ซ์ซ์จะหาคำตอบกันได้ง่ายๆ ชนิดอาจต้องถือเป็นเวร เป็นกรรม ของชาติบ้านเมืองเอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                                    --------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Frank Dickson (อีกครั้ง)... By the time a person gets to greener pastures, he can’t climb the fence.- พอมีโอกาสได้พบทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม แต่ปรากฏว่าเขาผู้นั้นกลับไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะข้ามรั้วเข้าไปในทุ่งหญ้าได้เสียแล้ว...

                                                                  ------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"