กษิดิศ เล็บครุฑ พัตต์อีเกิ้ลระยะ 48 ฟุตเข้าไปเหลือระยะแท็ปอินเบอร์ดี้ไม่กี่นิ้วก่อนเฉือนชนะ เศรษฐี ประคองเวช หลังเล่นซัดเด้นเดธเพลย์ออฟกับถึง 6 หลุม กลับมาคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองในชีวิต ในรายการสิงห์-เอสเอที เพชรบุรี แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท ณ สนามสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรี่คลับ จ.เพชรบุรี

        เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน กษิดิศ เล็บครุฑ โปรวัย 27 ปีจากปราจีนบุรีที่ออกสตาร์ทรอบสุดท้ายด้วยการนำ 4 สโตรก ทว่าตีเกินไป 2 โอเวอร์พาร์ 74 รวมสี่วัน 14 อันเดอร์พาร์ 274 เท่ากับ เศรษฐี ประคองเวช นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากชลบุรีที่เก็บ 2 เบอร์ดี้ในสามหลุมสุดท้าย รวมการจากพัตต์เซฟพาร์จากนอกกรีนหลุม 18 ทั้งที่ตีตกน้ำไปแล้วก่อนจบรอบ 2 อันเดอร์พาร์ 70 ต้องหาผู้ชนะด้วยการซัดเด้นเดธ เเพลย์ออฟ

        คณะกรรมการเลือกหลุม 18 พาร์ 5 ระยะ 527 หลาเป็นหลุมตัดสิน ปรากฏว่า กษิดิศ และ เศรษฐี ผลัดกันได้เปรียบเสียเปรียบแต่ยังยันกันด้วยเบอร์ดี้ถึงห้าหลุม กระทั่งหลุมหกของการเพลย์ออฟ เศรษฐี ตีช็อตสองตกน้ำ ขณะที่ กษิดิศ ตีช็อตสองขึ้นมาออนก่อนขึ้นมาพัตต์อีเกิ้ลระยะ 48 ฟุตเฉียดลูกเฉียดหลุมไม่กี่นิ้วก่อนเข้าไปแท็ปอินเบอร์ดี้คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 240,000 บาท ไปครอง

        นับเป็นการการคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอัวร์รายการที่สองในอาชีพของ กษิดิศ แต่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะคว้าแชมป์ที่เชียงใหม่ อินทนนท์ กอล์ฟเนเชอรัล รีสอร์ท เมื่อปี 2015 ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า “ดีใจครับที่กลับมาชนะอีกครั้ง แต่ทำให้เรามีสติมากขึ้น วันสุดท้ายต้องคุมสติกับสมาธิให้มากขึ้น เพราะออกไปตื่นเต้นมาก พยายามจะไม่กดดันแต่ใจมันก็เต้นไปเรื่อย พยายามดึงสมาธิตัวเองกลับมาให้เร็วที่สุด ออกไปกว่าจะเจอแฟร์เวย์ก็ผ่าไปหกหลุมแล้ว”

        นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากปราจีนยังกล่าวต่ออีกว่า “กระทั่งมาได้เบอร์ดี้หลุม 9 ก็พูดกับตัวเองว่าถ้าได้เบอร์ดี้ก็มีโอกาสชนะอยู่ จริงๆตั้งแต่หลุม 10-15 นี่เกมเราลื่นเป็นปกติเลยครับ ตีออนไปเรื่อย จนหลุม 16 ผมตีเกือบตกน้ำแต่ก็ยังเซฟพาร์ได้ แต่เขาเบอร์ดี้ หลุม 17 เขาเกือบโฮลอินวัน เราก็ยังเซฟพาร์ลงครับ พอหลุมสุดท้ายผมคิดอยู่แล้วสี่วันนี่หลุม 18 ผมจะไม่สู้เลย ก็ตีสามออนทุกวันครับ มีวันนี้ทีไม่ออน ไม่โฟกัสด้วย เพราะคิดว่าพัตต์เข้าไปแล้วเข้าไปพัตต์อีกทีก็ชนะแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะพัตต์เดียวลงเนื่องจากเขาตกน้ำไปแล้ว

        ทางด้าน เศรษฐี ประคองเวช โปรวัย 24 ปีจากชลบุรี ที่ต้องจบการแข่งขันไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ในอันดับสองเป็นรายการที่สาม หลังจากก่อนหน้านี้ได้อันดับสองมาแล้วในการแข่งขันที่ สุวรรณภูมิ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่คลับ เมื่อปี 2017 และที่กัซซัน พานอรามา เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา รับเงินรางวัลปลอบใจไป 132,000 บาท

        อันดับสามตามเข้ามาเท่ากับ 3 คนที่สกอร์ 12 อันเดอร์พาร์ 276 ประกอบด้วย อติรุจ วินัยเจริญชัย ที่หวดเข้ามาอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66, วิสุทธิ์ อรรจนาวัฒน์ ที่ตีเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 68 และ รัชพล จันทวารา ที่หวดเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 รับเงินรางวัลไปคนละ 70,333.33 บาท

        สรุปผลรอบสุดท้าย (สนามพาร์ 72)

        274  กษิดิศ เล็บครุฑ 68-64-68-74, เศรษฐี ประคองเวช 62-73-69-70 (กษิดิศ ชนะซัดเด้นเดธ เพลย์ออฟ หลุมที่หก)

        276  อติรุจ วินัยเจริญชัย 70-70-70-66, วิสุทธิ์ อรรจนาวัฒน์ 70-69-69-68, รัชพล จันทวารา 67-69-70-70

        277  นิรันดร์ แซ่อึ้ง 66-71-71-69

        278  พิสิฐชัย ทิพย์พงษ์ 73-70-67-68, กิตติพร ชวนะพงศ์ 67-71-71-69

        279  ศรัณย์ ศิริธร 69-75-69-66, โคสุเก ฮามาโมโต้ 69-73-69-68, สัตยา ทรัพย์อัประไมย 68-67-71-73

        280  ธยาน์ ลิมปิผลไพบูลย์ 70-74-69-67, นิติธร ทิพย์พงษ์ 72-72-68-68, รณชัย จำนงค์ 71-70-70-69