“ธ.ก.ส.” เตรียม 1.5 หมื่นล.ปล่อยกู้เกษตรกรซื้อโดรน!


เพิ่มเพื่อน    

 

11 พ.ค. 2562 นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปี 2562 ธนาคารได้เตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับการซื้ออากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และเครื่องจักรอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกร 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีเกษตรกรซื้อโดรนสำหรับใช้ทำการเกษตรไม่ต่ำกว่า 100 ลำ ๆ ละ 5 แสนบาท เพื่อมาใช้ทดแทนแรงงานในการพ่นยาฆ่าแมลง หว่านเมล็ดพันธุ์ ลดต้นทุนการผลิต

“การปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อโดรน จะให้กับกลุ่มสหกรณ์และเกษตรกรรายย่อยที่มีศักยภาพ โดยคิดดอกเบี้ย 3% สำหรับกลุ่มสหกรณ์และ 5% สำหรับเกษตรกรรายย่อย ซึ่งธนาคารจะเน้นให้เกษตรกรรวมกลุ่มกัน เพื่อใช้โดรนร่วมกัน เพราะต้นทุนค่าเครื่องค่อนข้างสูง โดยปีก่อนมีกลุ่มสหกรณ์ขอสินเชื่อเพื่อซื้อโดรนไปแล้ว ทั้งหมด 60 ลำ วงเงิน 30 ล้านบาท โดยแต่ละราย ยืนยันว่าต้นทุนการผลิตลงจริง เพราะการใช้โดรนสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยและลดเวลาในการหว่านเมล็ดพืชได้ แม้ค่าจ้างใช้แรงงานคนตกไร่ 500บาท แต่โดรนใช้ 600 บาท แต่โดยรวมแล้วคุ้มกว่า” นายอภิรมย์ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในรอบปีบัญชี 2562 (1 เม.ย. 2562-31 มี.ค.2563) ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ 7.7 แสนล้านบาท คิดเป็นยอดคงค้างที่เพิ่มขึ้น 9.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้เป็นเงินหมุนเวียนในการนำไปช่วยเหลือเกษตรกร ใน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มรายย่อยซึ่งมีปัญหาด้านเงินทุน เช่น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท กลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมถึงทายาทเกษตรกรรุ่นใหม่วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท และกลุ่มผู้ประกอบการด้านการเกษตร กลุ่มสหกรณ์การเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่เป็นหัวขบวนในการเพิ่มมูลค่าผลผลิต วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท

ด้านเงินฝากมีเป้าหมายเพิ่มขึ้น 6หมื่นล้านบาท จากการออกสลากออมทรัพย์ เงินฝากแบบมีกรมธรรม์และสวัสดิการ กองทุนทวีสุข เป็นต้น และคาดมีกำไร 8.71พันล้านบาทลดลงจากปีก่อน 1 พันล้านบาท เนื่องจากมีมาตรการพักชำระเงินต้นช่วยเหลือเกษตรกร 2.9 ล้านราย

นายอภิรมย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนแผนการทำงานที่เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่ จะมีแผนการช่วยเหลือเกษตรกรภายหลังจากมีมาตรการชำระหนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและรายได้ให้สูงขึ้น โดยจะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกในสินค้าเกษตรสำคัญ ทั้ง ข้าว อ้อย มันสำปะหลังและข้าวโพด ซึ่งจะต้องมีมาตรการดูแลอย่างเป็นระบบ เพราะจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะทำให้ ผลผลิตที่ออกมามีประสิทธิภาพขณะที่เกษตรกรจะมีรายได้สูงขึ้น

“ปีบัญชี 2562 จะขับเคลื่อนภายใต้แผนการปฏิรูปภาคเกษตร ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติ โดยมุ่งเน้นการปรับการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การใช้โดรนเพื่อการเกษตร การปลูกพืชโดยระบบน้ำหยด การผสมปุ๋ยใช้เอง    เป็นต้น การเปลี่ยนการผลิตให้สอดคล้องกับพื้นที่และความต้องการของตลาด เช่น เกษตรแปลงใหญ่ เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น การพัฒนาสหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการ และการเชื่อมโยงด้านการตลาด รวมถึง ธ.ก.ส.ยังมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนภายใต้หลัก โกกรีน โดยมีเป้าหมายสนับสนุนชุมชน 400 ชุมชน พื้นที่กว่า 4หมื่นไร่” นายอภิรมย์ กล่าว

อย่างไรก็ดี ในส่วนของผลการดำเนินงานในรอบปีบัญชี 2561 หรือตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2561- 31 มี.ค.2562 นั้น ธนาคารมีรายได้ดำเนินงานรวม 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.74%, กำไร 9.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.24% ขณะที่หนี้เสียอยู่ที่ 3.87% ส่วนสินเชื่อรวม ปล่อยไปได้ 1. 44 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.86% ส่วนเงินรับฝากรวม อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.75% ด้านสินทรัพย์​รวมอยู่ที่ 1 ล้าน 8.73 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.47%


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"