ผลงาน‘สปน.’ยุค‘บิ๊กตู่’เพื่อความผาสุกปชช.


เพิ่มเพื่อน    

        อีกหนึ่งหน่วยงานสำคัญที่เป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนการทำงานของทุกๆ รัฐบาล อย่าง “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” หรือ สปน. ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานต้นแบบด้านการบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนงานของรัฐบาล ในด้านนโยบายและการบริหารราชการ โดยมีภารกิจในการสนองงานทั่วไปของนายกรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการ การปฏิบัติภารกิจพิเศษ และงานราชการของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

                ในส่วนการทำงานของ สปน. ห้วงเวลาเกือบ 5 ปี ในรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 4 คน ที่ได้ร่วมงานในยุคนี้ ได้แก่ “หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล” ถัดมา “พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์” จากนั้น “นายจิรชัย มูลทองโร่ย” และปัจจุบัน นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์

                สำหรับผลการดำเนินงานของ สปน. ที่สนองนโยบายรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” จนประจักษ์อยู่หลายผลงาน มีการสรุปและรวบรวมโดยกลุ่มประชาสัมพันธ์กองกลาง สปน. อาทิ ด้าน “การเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์” จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา สปน.จะเป็นหน่วยงานของรัฐบาลในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน โดยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ และกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญ เผยแพร่พระราชกรณียกิจให้เด็กเยาวชน ทราบ และตระหนักรู้ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีผ่านกิจกรรมต่างๆ

                ด้าน “งานตรวจราชการ” สปน.จัดผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และรายงานผลการตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติราชการ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการปฏิบัติ หรือเพื่อแก้ไขปัญหาของส่วนราชการ ให้เกิดการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนาตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ประสิทธิผล รวมถึงคุณภาพในการให้บริการประชาชน

                ขณะที่การปฏิบัติงานด้านการตรวจราชการ ปลัด สปน.คนปัจจุบัน ได้มีนโยบายในการปรับกระบวนการ วิธีการตรวจราชการของผู้ตรวจฯ ให้ครอบคลุมทุกมิติ และสอดรับกับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยยึดประโยชน์และความพึงพอใจของประชาชนเป็นหลัก และใช้กลไกการบูรณาการในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน เรื่องร้องทุกข์ของประชาชน และมุ่งเน้นตรวจราชการ เพื่อแก้ไขปัญหาและหาแนวทางพัฒนา ด้วยการประยุกต์ใช้กระบวนการ Government Innovation Lab โดยการลงพื้นที่เก็บข้อมูลเชิงลึก คิดวิเคราะห์ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

                นอกจากนี้ ในห้วงที่ผ่านมา “บิ๊กตู่” ยังได้มอบหมายภารกิจสำคัญและเร่งด่วนให้แก่ผู้ตรวจราชการฯ อาทิ การตรวจติดตามโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงการเน็ตประชารัฐ ซึ่งผลการตรวจติดตามพบว่าเป็นโครงการที่ประชาชนมีความพึงพอใจสูง และมีความต้องการให้รัฐบาลขยายฐานการให้บริการครอบคลุมเพิ่มขึ้น การแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และบ้านพักข้าราชการ ตุลาการ ซึ่งผู้ตรวจราชการฯ ได้สนับสนุนการปฏิบัติงานให้แก่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนสามารถเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่อนายกฯ ซึ่งสามารถบรรเทาความขัดแย้งของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานของรัฐ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้

                ด้าน “งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล” ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ สปน.ในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันได้เน้นการนำเทคโนโลยีแบบ 4.0 ที่มีความทันสมัย สะดวก เข้ามาใช้ด้วย สปน.จึงได้บูรณาการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลเรื่องการร้องทุกข์ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้มากที่สุด และจากผลการดำเนินงานเรื่องราวร้องทุกข์ในปีงบประมาณ 2561 มีประชาชนยื่นเรื่องผ่านช่องทางร้องทุกข์ 1111 รวมทั้งสิ้น 148,244 ครั้ง รวม 84,270 เรื่อง สามารถดำเนินการจนได้ข้อยุติ 75,368 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 89.91

                พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ ที่มีความซับซ้อนในรูปแบบคณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการแก้ไขปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จากกรณีที่ประชาชนเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่ป่า และถูกหน่วยงานรัฐตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย ทำให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งเรื่องนี้มีการร้องเรียนมานาน ในที่สุดคณะกรรมการฯ ก็สามารถแก้ไขปัญหา ด้วยการจัดที่ดินทำกินให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยได้ เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา

                ขณะที่ในเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ยังได้พัฒนาเพิ่มช่องทางให้บริการประชาชน ร้องเรียนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยบูรณาการการทำงานและการใช้ทรัพยากรร่วมกัน กับศูนย์บริการประชาชน โดยนำระบบรับเรื่องราวร้องทุกข์ 1111 ของรัฐบาล มาให้บริการรับเรื่องร้องเรียน หรือเรื่องอุทธรณ์อีกด้วย

                ด้าน “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย” สำนักนายกรัฐมนตรี ในรอบปีที่ผ่านมาเกิดสาธารณภัยในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ที่จังหวัดน่าน ทำให้บ้านเรือนเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต หรือเหตุมรสุมพัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส ประชาชนได้รับผลกระทบบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย ในส่วนของรัฐบาลได้มีกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมเงินบริจาคของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ และนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ได้รับความเดือดร้อน จากเหตุสาธารณภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดได้ให้การช่วยเหลือจากเหตุวาตภัย “พายุโซนร้อนปาบึก” เป็นต้น

                ด้าน “งานข้อมูลข่าวสารของราชการ” เพื่อเปลี่ยนแปลงสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล และการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ ควบคู่กับการบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ผ่านเครือข่ายระบบสารสนเทศที่ทันสมัย สปน.โดยสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ได้บูรณาการกับหน่วยงานหลายภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อน เช่น ลงนามบันทึกข้อตกลงในการเสริมสร้างเครือข่าย เพื่อสร้างธรรมาภิบาลในหน่วยงานภาครัฐ

                โดยร่วมกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กร เพื่อกำหนดแนวทางการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการดำเนินงานต่างๆ ของหน่วยงานของรัฐได้

                นอกจากนี้ ได้มีการรณรงค์ให้หน่วยงานของรัฐ มีการดำเนินงานที่มีธรรมาภิบาล ตลอดจนการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายข้อมูลของหน่วยงานของรัฐ ในการรายงานผลการดำเนินการตามพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ให้ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว และยังเชื่อมโยงข้อมูลจุดบริการประชาชน ของศูนย์ข้อมูลข่าวสารทั่วประเทศ ผ่านระบบ Application Citizen Info ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานรัฐได้ง่ายขึ้น

                อย่างไรก็ตาม ในการทำงานสนองนโยบายของรัฐบาล ถือเป็นพันธกิจที่สำคัญของ สปน. ถึงแม้จะผ่านพ้นรัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์” ไปสู่รัฐบาลใหม่ แต่ “สปน.” ก็จะยังคงขับเคลื่อนการทำงานต่อไปกับทุกๆรัฐบาล ในฐานะหน่วยงานของภาครัฐนั่นเอง!.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"