10 พ.ค.62 -เวลา 08.00 น. ที่ด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้ทยอยเดินทางมายังที่หน้าเรือนจำตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อรอรับแกนนำ 5 ราย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำ
ต่อมาเวลา 09.50 น. แกนนำพธม.ทั้ง 4 คประกอบด้วยนายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา ได้เดินออกจากประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯพร้อมผู้ต่อขังรายอื่นๆ จากนั้นมากราบพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วให้สัมภาษณ์ที่ป้ายหน้าเรือนจำ
โดยนายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนในฐานะพสกนิกรของพระองค์ท่านถือง่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง เป็นเรื่องน่ายินดี ทั้งนี้ตนได้ศึกษาพระราชกฤษฏีกา พบว่าในพระราชกฤษฎีกาครั้งนี้มีความพิเศษคือ 1.ก่อนจะปล่อยนักโทษออกจากเรือนจำนั้น ทางกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงกลาโหม มีการจัดอบรมหลักสูตร 5วันเตรียมการนักโทษก่อนปล่อยตัว เมื่อนักโทษรู้ว่าจะได้ปล่อยตัว ก็ถึงกับส่งเสียงดังเลยทีเดียว 2.ในมาตรา17ของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มี7หน่วย ประกอบด้วย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือประชาชนไม่ให้นักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวไปกระทำผิดซ้ำอีก ถือว่าเป็นพระราชปณิธานของพระองค์ที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ให้คนเป็นคนดี
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนถือว่าได้ทำหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทยในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ เมื่อศาลมีคำตัดสิน พวกตนก็เคารพ ไม่ได้หลบหนี เมื่อออกจากเรือนจำแล้ว ก็จะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติต่อไป โดยจะตรวจสอบเรื่องการทุจริตและความเหลื่อมล้ำในสังคม ส่วยนายสนธิ ลิ้มทองกุลนั้น พวกตนไม่ได้พบที่เรือนจำ แต่เจอกันที่ใต้ถุนของศาล พบว่าสบายดีแต่ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ
ขณะที่นายสุริยะใส กล่าวว่า จากนี้ไปถือเป็นบทเรียนชีวิต การติดคุกไป 87 วัน ก็ได้คิดทบทวน ยืนยันว่าไม่เปลี่ยนแนวทางพร้อมพิสูจน์ความสุจริตในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าคำตัดสินศาลจะเป็นอย่างไร การหนีคดี การวิจารณ์ศาลไม่ทำให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น จากนี้ก็จะสู้คดีต่อไป ตนขอขอบคุณทางเรือนจำ ตนไม่อยากให้มองนักโทษว่าเป็นขยะ เป็นคนเลว ต้องปรับทัศนคติตรงนี้ ขอเรียกร้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยให้เกิดความสงบสุข
"ในเรือนจำตนได้พบคนเสื้อแดง ก็ได้นั่งคุยกันทั้งเรื่องการเมือง ชีวิต เห็นอกเห็นใจกัน ก็ได้สรุปบทเรียนของใครของมัน แกนนำก็วิจารณ์ความผิดพลาดของตัวเอง ได้วิจารณ์ตัวเอง จากนี้แต่ละคนก็คงจะเขียนหนังสือบอกเล่าเรื่องราวในเรือนจำตามความถนัดของใครของมันส่วนการเคลื่อนไหวของพวกผมนั้น ขอเรียนว่าแกนนำได้ยุติบทบาทไปแล้ว ที่ผ่านมาก็ติดคุกไม่ได้อ่านข่าว ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ต้องมาพูดคุยกันอีกที"นายสุริยะใส กล่าว
ส่วน นายพิภพ กล่าวว่า อยากให้มีการทบทวนกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ส่งคนเข้าคุกอย่างเดียว ต้องมีระบบใหม่ ตนอยากให้คณะนิติศาสตร์ทั่วประเทศไม่ให้สอนกฎหมายแบบท่องจำ แต่ต้องวิจัยหาวิธีการให้คนเข้าคุกน้อยสุด รวมถึงมหาวิทยาลัยทั่วประเทศควรมีวิชาคุกศึกษาเพื่อให้รู้ว่าคุกนั้นจริงๆเป็นอย่างไร
ต่อมาเวลา 10.50 น.ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังรายอื่นๆ รวมทั้งพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ด้วยโดยพล.ต.ต.จำลอง กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัวที่พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขัง.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |