9 พ.ค.62 - นางธิดา ถาวรเศรษฐ ที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อตานเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้
กกต. กับความท้าทายสังคมไทย!
ผลงานของกกต.ในเรื่องการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ประชาชนรอคอยมา 8 ปี ถือว่าสอบตกในสายตาประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเลือกตั้งนอกประเทศและในประเทศ ไม่เรียบร้อย ไม่น่าเชื่อถือ ไม่โปรงใส ตรวจสอบไม่ได้ แม้จนบัดนี้เราขอให้เอาคะแนนทุกหน่วยขึ้นเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบก็ไม่ (กล้า) ทำ หรือทำไม่ได้ เพราะจะมีผลฟ้องร้องตามมามากมาย
ประการต่อมา ผลงานการตรวจสอบ กกต.ก็ถูกร้องเรียนที่มีลักษณะเลือกปฏิบัติ, ไม่ทันเวลา และมุ่งจัดการกับพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามคสช. แต่การตรวจสอบประเด็นที่ฟ้องร้องพรรคของคสช.เรื่องกลับหายเงียบ
ประการต่อมาล่าสุด คือการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำลังโด่งดังขณะนี้ กกต.ยังยืนยันให้พรรคเล็ก ๆ ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง ๆ ที่ได้คะแนนไม่ถึง 7 หมื่นคะแนน ซึ่งตามหลักการใหญ่สามารถได้ส.ส.ที่พึงมี 1 คน (ตามการคำนวณที่ตรงกันทุกฝ่ายตามมาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 128 (2)) โดยดันทุรังคำนวณไปเรื่อย ๆ จนได้ส.ส.จากพรรค 26 พรรค ทั้งที่พรรคเล็ก ๆ ไม่มีสิทธิได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเมื่อยึดหลักรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และแม้แต่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 128
ดิฉันวิเคราะห์แล้ว สาเหตุที่กกต.กล้าตัดสินใจแบบนี้ ทั้งที่มีคนทักท้วงกันทั่วประเทศคือ นักวิชาการ, นักกฎหมาย, ประชาชนทั่วไป ล้วนค้านการละเมิดรัฐธรรมนูญของกกต.ทั้งสิ้น และไม่มีใครเขาคิดแบบที่กกต.คิด
ประการแรก กกต. เชื่อกรธ. เชื่อสนง.กกต.จริง ๆ ในการคำนวณว่านี่เป็นสูตรเดียวเท่านั้นที่ถูกต้องตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 128 และศาลรัฐธรรมนูญก็ยืนยันว่าไม่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 91
ประการที่สอง กกต. เลือกผลการคำนวณที่ให้คุณและให้โทษแก่ฝักฝ่ายในการตั้งรัฐบาล เพราะคสช.ก็ถึงทางตันเมื่อผลการเลือกตั้งถ้าใช้สูตรคำนวณบัญชีรายชื่อแบบอื่นเท่ากับว่าพรรคที่หนุนคสช.ไม่อาจตั้งรัฐบาลได้ จึงต้องใช้สูตรที่มีตัวช่วยจากพรรคเล็ก
ประการที่สาม ความกล้าท้าทายสังคมไทยและโลกของนักกฎหมายและเนติบริกรประเทศไทย ที่คิดว่าสามารถใช้อภินิหารทางกฎหมายโดยการตีความและบังคับใช้ได้ตามใจชอบอย่างได้ผลมาแล้วในหลายกรณี จึงย่ามใจ คิดใช้อภินิหารสูตรคณิตศาสตร์คำนวณจำนวนส.ส.โดยไม่ยึดหลักการ ทั้งกฎหมาย รัฐธรรมนูญ และหลักการคณิตศาสตร์ที่ถูกต้อง
คุณจะเอาพรรคสอบตกแล้วกลับมาปัดเศษให้สอบผ่านได้อย่างไร?
สิ่งที่ กกต. กำลังท้าทาย คือ
1) ท้าทายประชาชนไทย ในการทิ้งคะแนนเสียงประชาชนที่เลือกพรรคใหญ่ที่สอบผ่านแล้วกว่าล้านคะแนน ไปให้อำนาจคะแนนเสียงพรรคเล็กที่สอบไม่ผ่าน 71,000 คะแนนไปแล้ว โดยอ้างปัดเศษทศนิยม ประชาชนจะคิดอย่างไร? ยอมได้ไหม? เป็นการโกงอำนาจประชาชนดื้อ ๆ
2) ท้าทายพรรคการเมืองที่เสียจำนวนส.ส.ไปเพราะวิธีคิดที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ และท้าทายพรรคการเมืองที่เห็นว่าไม่เป็นธรรม เมื่อ 3 หมื่นกว่าเสียงได้ส.ส. 1 คน นี่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการได้ส.ส. 1 คนเสียแล้ว พรรคอื่นก็ต้องฟ้องร้องประเด็นนี้เหมือนในต่างประเทศ ที่ศาลรัฐธรรมนูญให้เพิ่มจำนวนส.ส.ตามมาตรฐานขั้นต่ำใหม่ ดังนั้นส.ส.บัญชีรายชื่อก็ต้องบวมไปกว่า 300 คน ไม่ใช่ 150 คน
กกต. และ กรธ. จะรับผิดชอบไหวไหม?
...
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |