3ข้อหา-ป้าทุบรถ ครวญแค่ป้องสิทธิ์


เพิ่มเพื่อน    

    ป้าสามพี่น้องเปิดใจทำไมต้องทุบรถจอดปิดทางเข้า-ออก เหตุถูกตลาดนัด 4 แห่งล้อมบ้านจนต้องทนทุกข์มานานเกือบสิบปีจากมลพิษทั้งด้านเสียง ควัน ซ้ำร้ายเจอรถมักง่ายจอดขวางแทบทุกวัน เผยสุดกลั้นเมื่อเจ้าของรถบอกว่าได้ยินเสียงบีบแตรแล้ว แต่ยังซื้อของไม่เสร็จ ตำรวจส่งหมายเรียกมือทุบแจ้ง 3 ข้อหา ด้าน ผอ.เขตอ้างต้องรอคำสั่งศาล
    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี, น.ส.ราณี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี และ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ ได้เปิดแถลงข่าวที่หน้าบ้านพักในซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. หลังทั้งสองปรากฏในคลิปเผยแพร่ในโลกโซเชียลขณะใช้ขวานและเสียมทุบรถกระบะสีขาวที่จอดขวางประตูบ้าน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง 
    น.ส.บุญศรีกล่าวว่า เดิมซื้อที่ดินนี้มาโดยยังไม่มีตลาด ต่อมามีตลาดเกิดขึ้นทั้งสองฝั่งติดกับบ้าน มีการตั้งเต็นท์โครงเหล็กขนาดใหญ่ เมื่อฝนตกน้ำก็เทเข้าบ้าน ต่อมามีการสั่งให้รื้อถอน แต่ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกลับออกใบอนุญาตซ้อนในพื้นที่ที่กำลังมีคำสั่งคุ้มครอง จนมีการละเลยขยายตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยด้านหน้าเป็นตลาด ด้านหลังเป็นที่จอดรถ เกิดมลพิษทั้งเสียง ควันรถ สร้างความเดือดร้อนตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะได้มีการฟ้องร้องและศาลมีคำสั่งคุ้มครองไม่ให้สร้างความเดือดร้อนรำคาญ แต่ก็ไม่เคยได้รับความคุ้มครองเลย มีการจอดรถขวางหน้าบ้านเกือบทุกวัน
    สำหรับเหตุการณ์ที่ปรากฏเป็นข่าว เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ มีรถกระบะสีขาวมาจอดขวางประตูรั้วหน้าบ้านและล็อกเกียร์ ตนเองและครอบครัวได้ใช้ความพยายามในการตามหาตัวเจ้าของรถเกือบ 30 นาที โดยบีบแตรดังตลอดเวลา และโทรศัพท์แจ้ง 191 จส.100 ตามหาเจ้าของรถให้มาเลื่อนออกแล้ว แต่ไม่เป็นผล กระทั่งถึงจุดที่ทำให้เธอตัดสินใจทุบรถ คือเมื่อเจ้าของรถมาถึง บอกว่าได้ยินเสียงแตรแล้ว แต่ยังซื้อของไม่เสร็จ จากนั้นเจ้าของรถก็ยังไม่ยอมเลื่อนรถทันที ยังประวิงเวลาทำธุระอยู่อีกนานเกือบ 30 นาที จึงตัดสินใจใช้เครื่องมือทำลายสิ่งกีดขวางทางเข้า-ออกบ้าน 
    "อยากถามว่าทำได้อย่างไร เมื่อเดินมาถึงแล้วก็ยังเอาของใส่รถ และยังยืนอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความผิดของเรา อยากขอความกรุณาอย่ามาสนับสนุนคนที่เข้ามาทำผิดกฎหมายเหล่านี้"
    ผู้แถลงกล่าวว่า กรณีที่ต้องเอาสลิงมากั้นขวางหน้าบ้าน เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีการเอารถมาขนถ่ายสินค้าหน้าประตูบ้าน เอารถมาจอดประชิดประตู ส่วนความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คุณแม่ซึ่งกำลังป่วยเป็นโรคปอด ต้องเข้า-ออกไปโรงพยาบาลเป็นประจำ แต่รถออกไม่ได้ มีปัญหาเกิดขึ้นเพราะรถมาจอดหน้าบ้านมาโดยตลอด ทำให้ต้องไปอยู่โรงพยาบาลหลายเดือน และตอนนี้ก็เสียชีวิตไปแล้ว เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านซึ่งพ่อไม่สบาย แต่ก็ออกจากบ้านไม่ได้ ส่วนเพื่อนบ้านอีกคนเกิดอุบัติเหตุในบ้านขาหัก พอรถพยาบาลมาถึงก็เข้าไม่ได้ เพื่อนบ้านบางคนไม่สบายก็ออกจากบ้านไม่ได้ เพราะมีรถมาจอดขวางเช่นเดียวกัน จนถึงขั้นต้องลงไปกราบที่ถนนเพื่อขอร้องก็เคยมาแล้ว
    "เราเดือดร้อนมาก คนที่จอดรถต้องมีจิตสำนึก ป้ายก็มีติดไว้ชัดเจน จะมากล่าวหาว่าบ้านร้าง ถูกบังคับคดีได้ยังไง ส่วนคนที่บอกว่าเราไปทุบถีบรถ ก็เป็นการกล่าวหาเราจากฝ่ายแม่ค้าพ่อค้า ซึ่งเราไม่ได้มีเรื่องกับตลาด แต่เราร้องเรียนกับทางสำนักงานเขต ทั้งนี้ อยากขอให้สื่อเรื่องนี้ไปถึง คสช.ว่าประชาชนได้ฟ้องร้องไปแล้วก็ยังไม่มีใครฟัง ไม่ได้รับความช่วยเหลือแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน"
    น.ส.บุญศรีชี้แจงด้วยว่า ที่มีข่าวในโลกโซเชียลระบุว่า อดีตเคยออกจากบ้านไม่ได้จนทำให้บิดาเสียชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง มีเพียงมารดาที่ป่วยจึงต้องนำตัวไปพักรักษาที่โรงพยาบาล เพราะกังวลว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันจะไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา 
    ด้าน พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.รชนิกร เลิศวาสนา เจ้าของรถกระบะที่ถูกทุบ เข้าแจ้งความดำเนินคดี จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุคือ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกทั้งสองคนมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น. หากไม่มาจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากไม่มาอีกจะพิจารณาขอศาลออกหมายจับ โดยส่งหมายเรียกไปยังภูมิลำเนา ซึ่งไม่ใช่บ้านหลังเกิดเหตุ แจ้งรวม 3 ข้อหา คือ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร ส่วนการดำเนินคดีกับรถที่กีดขวาง เบื้องต้นได้เปรียบเทียบปรับเจ้าของรถ ในข้อหาจอดรถตรงปากทางเข้าออกอาคารในลัษณะกีดขวางการจราจร มีโทษปรับ 500 บาท ส่วนข้อหาก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ยังไม่มีการแจ้ง เนื่องจากต้องรอให้ทางเจ้าทุกข์มาแจ้งความก่อน
    พ.ต.อ.อลงกรณ์กล่าวว่า เจ้าของบ้านทั้งหลาย หากพบการจอดรถในลักษณะกีดขวางทางเข้า-ออกบ้าน ให้แจ้งตำรวจเข้าไปดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์นี้จะเรียกประชุมสำนักงานเขตประเวศ เจ้าของตลาด 3-4 แห่ง ในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาแนวทางการป้องกัน แก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก
    ขณะที่นายธนะสิทธิ์ เมธพันธุ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ กล่าวว่า บริเวณซอยศรีนครินทร์ 55 มีตลาดทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ ตลาดสวนหลวง 1 ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ตลาดยิ่งนรา ตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง ซึ่งทั้ง 5 แห่งยังไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งตลาดจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และสำนักงานเขตประเวศได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีกับเจ้าของตลาด กระทำความผิดฐานจัดตั้งตลาดโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้อยู่ระหว่างศาลปกครองชั้นต้นทบทวนดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้อง และมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีต่อไป ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเมื่อปี 2559
    ดังนั้น เขตจึงสามารถควบคุมพื้นที่ได้เพียงเรื่องสุขลักษณะ ความสะอาดของตลาด แผงค้า และผู้ค้าเป็นประจำ รวมถึงการจอดรถ อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ได้กำชับให้ดูแลประชาชน รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เขตไปดูแลในช่วงเวลาเปิดตลาดระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ และในระยะเวลากว่า 1 ปี สำนักงานเขตไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตผังเมืองสีเหลืองประเภท ย.3 สามารถสร้างบ้านพักอาศัย ตลาด หรืออาคารสูงไม่เกิน 15 เมตรได้
    "ในวันนี้ได้หารือร่วมกับเจ้าของตลาด 4 แห่ง ในการจัดเจ้าหน้าที่ของตลาดมาอำนวยความสะดวกให้ลูกค้านำรถไปจอดบริเวณที่จัดไว้ พร้อมขอความร่วมมือให้บริการจอดรถฟรี โดยมีเพียงตลาดรุ่งวาณิชย์ที่ยังเก็บค่าจอดรถอยู่ แต่ลดจาก 50 บาท เหลือ 20 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.เป็นต้นไป พร้อมหาพื้นที่จอดรถเพิ่มเติมให้เพียงพอ ลดการใช้เสียง รวมทั้งการทำความสะอาด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของตลาดเป็นอย่างดี ขณะที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะดังกล่าวอีก" นายธนะสิทธิ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"