9 พ.ค.62 - ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวานนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตรแสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ร่วมกันแถลงภายหลัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รับรองรายชื่อ สส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า 1.การคำนวนจำนวนที่นั่ง สส. บัญชีรายชื่อ ตามที่ตนได้ไปยื่นเรื่องไปยัง กกต. ว่า การคำนวนที่นั่ง ต้องยึดหลักตาม ม91 ไม่ว่จะใช้สูตรใดก็ตามแต่ แต่เพดานอยู่ ที่มาตรา 91 ที่ประมาณ 71,000 คะแนน ต่อ สส. 1 คน แต่เมื่อ กกต ได้แถลงแล้ว พร้อมระบุว่า เราได้สส.รวมทั้งหมด 80 คน แสดงว่า กกต. เลือกใช้สูตร 27 พรรคในการคำนวณ ในความเห็นของเรา การใช้วิธีการที่ กกต.ใช้ น่าจะขัด กับ รัฐธรรมนูญมาตรา 91
สำหรับ คะแนนของพรรคอนาคตใหม่ที่ทิ้งน้ำ คิดเป็นคะแนนดิบ ประมาณ 600,000 คะแนน เราพูดเสมอว่า กระบบการเลือกตั้งนี้ อยากให้ทุกคะแนนมีความสำคัญ ไม่อยากให้มีคะแนนทิ้งน้ำ แต่เมื่อคำนวณออกมา ปรากฎว่า คะแนนเราหายไป 600,000 คะแนน เมื่อรวมพรรคอื่นได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีรวมไทย จะมีประมาณ ประมาณ 1.5 ล้าน คะแนน ในขณะเดียวกันเมื่อนำคะแนน อีก 11 พรรคมารวมกันทั้งประเทศ รวมได้เพียง 550,000 คะแนน เท่านั้น หมายความว่า กกต.เลือกที่จะทิ้งคะแนนเสียงกว่า 1.5 ล้านเสียง หากเป็นแบบนี้สิ่งที่เราพูดมาตลอดว่าทุกคะแนนมีความหมาย แต่พอนำมาใช้ กลับผิดไปจากสิ่งที่ควรจะเป็น
“ลองเปรียบเทียบว่า คุณเอกการ ซื่อทรงธรรม ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ เขต 1 จ.แพร่ ได้คะแนนรายเขตสูงที่สุดในประเทศไทย 72000 คะแนน ได้ สส.1คน แต่พรรคอื่นได้ระหว่าง 30,000-60,000 ซึ่งน้อยกว่าพรรคอนาคตใหม่พรรคเดียว แต่เรากลับได้ 1 คนเท่ากัน พรรคสุดท้ายที่ได้ 33000 คะแนนจากทั่วประเทศ เมื่อหาร 77 จังหวัด ขอเพียง จังหวัดละ 417 คะแนน 350 เขตทั่วประเทศ ขอเพียงเขตละ 100 คะแนน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงความผิดเพี้ยน ปล่อยให้พรรคการเมืองที่ได้ 30,000 กว่าคะแนน ได้ สส. 1 คน นี่คือการคำนวณที่ทำให้เกิดปัญหา”
ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้เสียหายโดยตรง 600,000 คะแนนถูกทิ้งน้ำไปหมด และยังมีคนที่เราคาดหวังว่าจะเป็น สส. หายไป 7 คน พรรคเราในฐาน ที่เป็นตัวแทนของประชาชน เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาช่องทางในการดำเนินการต่อไป ได้แก่ 1. ยื่นคำร้องไปยัง กกต. เสนอให้ กกต. เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยอำนาจตาม มาตรา 210(2) เพื่อให้ศาลวินิจฉัยว่า กรณีนี้มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ขององค์กรตามรัฐธรรมนูญ 2.ใช้อำนาจตามมาตรา 213 ที่ระบุว่า บุคคลใดที่ถูกละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญนั้น มีสิทธิยื่นเรื่องฟ้องตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ โดยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เขียนประกอบไว้ว่า หากจะฟ้องตรง ต้องเริ่มจากการใช้ผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่หากผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ส่งเรื่องต่อ คนที่เริ่มร้องสามารถส่งเรื่องด้วยตนเอง ซึ่งเรายืนยันว่าจะทำ ทั้ง 2 วิธี เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าการใช้สูตรคำนวณแบบ 27 พรรค นั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เคยวินิจฉัยประเด็นนี้
นายธนาธรกล่าวว่า วันนี้เรามีความชัดเจนเรื่องจำนวนส.ส.แล้ว ถึงวันนี้จะยังไม่ได้ 500 คน แต่สิ่งที่กกต.ประกาศรวมกันคือ 498 คน ขาดไป 2 คน เนื่องจากงดว่าที่ส.ส.เขต 8 จ.เชียงใหม่ที่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม 498 คนก็เพียงพอทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมือง ตนอยากชักชวนทุกคนให้คิดถึงก้าวต่อไปของประเทศไทย ว่าหลังจากนี้จะเดินไปทางไหน
พรรคอนาคตใหม่ขอเสนอให้นำข้อเสนอที่เราพูดไว้ก่อนการเลือกตั้ง คือการปิดสวิตช์ส.ว. กลับมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แล้วช่วยกันกดดันทำให้เกิดขึ้นจริง กล่าวคือ เราสามารถเลือกนายกฯได้ที่สภาผู้แทนราษฎร โดยปิดสวิตช์ไม่ให้ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง ไม่ได้มาจากประชาชน สามารถทำงานได้ ซึ่ง 3 พรรคการเมืองที่ประกาศชัดเจนว่าจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯต่อ คือ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) 115 ที่นั่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) 5 ที่นั่ง พรรคประชาชนปฏิรูป 1 ที่นั่ง รวม 3 พรรคได้ 122 ที่นั่ง ข้อเสนอปิดสวิตช์ส.ว. มีข้อแม้ 1 ข้อคือ พรรคสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ต้องได้น้อยกว่า 126 ที่นั่ง ดังนั้นการปิดสวิตช์ส.ว.จึงเป็นไปได้
"ผมขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตย ที่ต้องการยืนหยัด กลับไปทวงถามคำสัญญาที่พรรคการเมืองต่างๆให้ไว้เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล มาร่วมกันปิดสวิตช์ส.ว. เพราะตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า พรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ได้ไม่ถึง 126 เสียง ทำให้การปิดสวิตช์ส.ว.เป็นไปได้ ถ้าต้องการยับยั้งกลไกที่ไม่ได้มาจากประชาชน ถ้าต้องการยับยั้งวัฒนธรรมไม่ฟังเสียงประชาชน ถ้าเราเชื่อว่านายกฯต้องมาจากประชาชน พรรคทุกพรรคที่ไม่ใช่ 3 พรรคนี้ สามารถมีส่วนทำให้ประเทศไทยไปข้างหน้า การเมืองไม่ไปสู่ทางตันได้ สามารถยกมือรับรองนายกฯที่ถูกเสนอชื่อโดยพรรคการเมืองที่รวมเสียงข้างมากได้ เพราะพรรคการเมืองนอกจาก 3 พรรค จะมีเสียงรวมกัน 378 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร มากกว่าจำนวนเสียงของทั้ง 3 พรรค บวกกับ 250 ส.ว.แต่งตั้ง นั่นจะทำให้การเมืองเดินหน้าไปได้ ผมเรียนขอให้พรรคการเมืองทุกพรรคมาร่วมกันปิดสวิตช์ส.ว. ทำให้เรื่องการเลือกนายกฯเป็นของสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากประชาชน ทำให้การเลือกนายกฯ ไม่มาจากกลไกการสืบทอดอำนาจ ไม่มาจากส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของคสช." นายธนาธรกล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า นี่จะเป็นบันไดก้าวแรกให้ประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตยได้ อนาคตใหม่ยินดีไปพบพูดคุยกับพรรคที่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อร่วมปิดสวิตช์ส.ว. ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล พวกเราทุกคน นักการเมืองที่มาจากประชาชนสามารถทำให้ประเทศกลับมาสู่ความปกติ หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. และเปิดประตูบานใหม่ให้สังคม เดินฝ่าความขัดแย้ง นำประชาธิปไตยกลับคืนมา ผมพร้อมเดินทางไปพูดคุยกับพรรคการเมืองทุกพรรคเพื่อให้การปิดสวิตช์ส.ว.เป็นจริงให้ได้ นี่คือสิ่งที่เราจะเรียกร้องและรณรงค์ต่อไป
นายธนาธรกล่าวอีกว่า ตนขอขอบคุณชาวอนาคตใหม่ที่ร่วมกันรณรงค์และเดินเคียงข้างตนในยามที่กำลังใจเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ในช่วงเวลาหลังเลือกตั้งที่ตนโดนมรสุมคดีการเมืองต่างๆเข้าเล่นงาน จนทำให้เรามาถึงวันนี้ได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |