8พ.ค.62-นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดใจหลังยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีก่อนไปรับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ตนไม่ห่วงอะไรกับงานศธ.และ ไม่มีเรื่องใดคาใจ ซึ่งส่วนตัวตนรู้สึกดีและผูกพันกับข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทุกคน เพราะตนเข้ามาดำรงตำแหน่งที่ ศธ. โดยเริ่มจากผู้ช่วยรมว.ศธ. ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงเป็น รมว.ศธ. ในปัจจุบัน รวมทั้งหมด 54 เดือน และแม้ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง รมว.ศธ. ก็โดนโจมตีมาตลอด แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะการเป็น รมว.ศธ.จะต้องโดนตำหนิและโดนกล่าวหาอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่ตนยึดหลักการทำงานมาโดยตลอดก็คือ หลักธรรมาภิบาล ขออย่ามีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น เพราะเมื่อมีเรื่องการโกงเกิดขึ้นคุณภาพการศึกษาจะไม่ลงไปถึงเด็กอย่างแน่นอน รวมถึงฝากผู้บริหารองค์กรหลักศธ.ทุกคนช่วยกันขับเคลื่อนงานการศึกษา โดยตนได้พูดคุยกับผู้บริหารองค์กรหลักฯ แบบเปิดใจมาแล้วว่าสิ่งใดบ้างที่คิดว่าตนมีข้อบกพร่อง ซึ่งผู้บริหารก็บอกว่า ตนคิดเร็วและใจร้อน ซึ่งตนก็คิดเช่นนั้น เนื่องจากการทำงานหรือนโยบายเราต้องคิดเร็วทำเร็ว แต่เรื่องการคัดเลือกคนต้องคิดนานๆ เพื่อให้เกิดควาเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นๆ ทั้งนี้ที่ผ่านมาการทำงานของตนไม่เคยเข้าไปล้วงลูก หรือแม้กระทั่งมีคนใกล้ชิดวิ่งเต้นฝากเด็ก รวมถึงการโยกย้ายผู้บริหารตำแหน่งใดๆทั้งสิ้น
“ทั้งนี้ตนขอฝากงานของ ศธ.ให้ผู้บริหารศธ.ขับเคลื่อนต่อ คือ การยกระดับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และภาษาจีน รวมถึงโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือ อควาเรียม ทะเลสาบสงขลา วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่ตนได้เซ็นเสนอเข้าครม.ใช้งบ 500 ล้านบาทในการก่อสร้างเดินหน้าต่อ และการให้ผู้เรียนที่เรียนในหลักสูตรBusiness Technology Education Council (BTEC) ได้มีสิทธิ์กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ด้วย เพราะทราบว่า กยศ.อนุมัติให้ส่งเสริมทุนมนุษย์ระดับปริญญาตรีและอาชีวศึกษาในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมหลัก ซึ่งเมื่อเรียนจบการศึกษาจะได้รับการลดเงินต้นร้อยละ 50 และคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ต่อปี”รมว.ศธ.กล่าว