8 พ.ค.62 - แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยหลังข่าวการนิรโทษกรรมและการปล่อยตัววาโลนและจอโซอู สองนักข่าวรอยเตอร์ ถือเป็นชัยชนะที่สำคัญของเสรีภาพสื่อมวลชนในเมียนมา แต่จากการเก็บบันทึกข้อมูลพบว่า ยังคงมีการจับกุมผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐและกองทัพอยู่ต่อไป จึงเรียกร้องทางการเมียนมาให้ปล่อยตัวนักข่าวและนักโทษทางความคิดคนอื่นๆ ซึ่งถูกควบคุมตัวด้วยข้อหาที่ถูกสร้างขึ้น และยกเลิกกฎหมายใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อเสรีภาพในการแสดงออก
นิโคลัส เบเคลัง ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า ถือว่าเป็นชัยชนะสำคัญของเสรีภาพสื่อมวลชนในเมียนมา การดำเนินคดีต่อวาโลนและจอโซอูถือเป็นความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นจนจบ จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ควรต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำเลยแม้แต่วันเดียว
"แม้ว่าผู้ร่วมรณรงค์ให้ปล่อยตัวพวกเขาต่างยินดีกับการตัดสินใจของรัฐบาลในครั้งนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมียนมายังถูกปกครองด้วยกฎหมายเผด็จการอีกมากมายที่ถูกใช้เพื่อควบคุมตัวนักข่าว นักกิจกรรม และบุคคลที่ทางการมองว่าเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐ พวกเขายังคงอยู่กับหวาดกลัวที่จะถูกจับกุมและควบคุมตัวต่อไป จนกว่าจะมีการยกเลิกกฎหมายเหล่านี้เสีย
“ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลการจับกุมที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการวิพากษ์วิจารณ์กองทัพ รัฐบาลเมียนมาต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องอีกครั้ง โดยหลังจากปล่อยตัววาโลนและจอโซอูแล้ว จะต้องปล่อยตัวนักข่าวและนักโทษทางความคิดคนอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งถูกควบคุมตัวด้วยข้อหาที่ถูกสร้างขึ้น และยกเลิกกฎหมายใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อเสรีภาพในการแสดงออก” นิโคลัสกล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |