หัวอกกองหนุน


เพิ่มเพื่อน    

      ช่วงระยะนี้....ผู้ที่น่าจะเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า มิใช่น้อย หรืออาจถึงขั้น เหนื่อยฉิบหาย...คงหนีไม่พ้นไปจากบรรดาผู้ที่ยังคงยืนหยัด ยืนยัน อยู่ในฐานะ กองหนุน ของท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ทั้งหลายนั่นแล เผลอๆ...อาจเหนื่อยซะยิ่งกว่านายกฯ บิ๊กตู่ เองซะด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่า บิ๊กตู่ จะแบกอะไรต่อมิอะไรเอาไว้ก็แล้วแต่ แต่ผู้ที่แบก บิ๊กตู่ ย่อมต้องแบกทั้งตัว บิ๊กตู่ ไปจนถึงสิ่งที่ บิ๊กตู่ คิดจะแบกควบคู่ไปด้วยในตัว...ประมาณ ทวิน แอคชั่น อะไรทำนองนั้น...

                                                      -------------------------------------------------------------   

      แถมการแบก การหนุน บิ๊กตู่ นั้น...จะไปเกณฑ์เอาแต่เฉพาะประเภทมีเรี่ยว มีแรง เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องเอาสมองติดมาด้วย มันคงไม่ได้ช่วยเบาแรง ทุ่นแรง ลงไปแต่อย่างใด เผลอๆ อาจกลายเป็นการ เพิ่มน้ำหนัก อีกต่างหาก เพราะคงต้องยอมรับว่า...บรรดา กองหนุน ชุดแรกๆ รุ่นแรกๆ ของ บิ๊กตู่ นั้น มีจำนวนไม่น้อยที่ออกไปทางพวกคิดลึก คิดไกล คิดประมาณ 8 ชั้น 9 ชั้นเป็นอย่างน้อย ถึงได้สามารถปรับสภาพให้พอยอมรับกับบางสิ่ง บางอย่าง ที่มันอาจไม่ถึงกับตรงตามสเปก ตรงตามหลักตามเกณฑ์ ไปซะทั้งหมด หรือไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตยแบบทั้งแท่ง ทั้งด้าม เอาแค่กำไว้ในมือคนไทยได้แบบเต็มไม้ เต็มมือ แบบเขย่าได้ เก็บได้ โดยไม่ถึงกับเกะกะอะไรมากมายนัก ก็...พอแล้ว!!! อะไรประมาณนั้น...

                                                  ---------------------------------------------------------

      นอกจากอาศัยสมอง อาศัยความคิด ความอ่าน อันยึดมั่นอยู่ในผลประโยชน์ส่วนรวม ชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง เป็นตัวรองรับความชอบธรรมของเผด็จการ ไม่ให้เป็นอะไรที่น่าเกลียด น่ากลัว อำมหิตโหดร้ายจนเกินไป ยังต้องถือเป็นพวกที่มี ใจ ระดับใจใหญ่ ใจกว้าง เป็นแม่น้ำอีกซะด้วย ไม่งั้น...คงไม่อาจช่วยยืดเวลา ยืดโอกาส ให้กับการเงื้อๆ ง่าๆ เงื้อแล้ว เงื้ออีก ของรัฐบาลที่มีมาตราฉี่ฉิบฉี่อยู่ในมือ ในหลายต่อหลายเรื่อง พูดง่ายๆ ว่า...ต้องอาศัย ขันติธรรม หรือ อุเบกขาธรรม มิใช่น้อย ถึงพอ ทำใจ ได้ในระดับกระทั่ง บางเรื่องเป็นอันต้องสรุปไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้วว่า คงต้องประมาณ ชาติหน้า ตอนบ่ายสามโมงแก่ๆ ถึงจะได้เห็นผล แต่ยังอุตส่าห์อดกลั้น อดทน ฟังเพลงซ้ำๆ ไม่ว่าเพลงเก่า เพลงใหม่ ไม่ว่าเมื่อยหู เมื่อยหำ ถึงปานไหน...

                                                   ---------------------------------------------------------

      แต่ในเมื่อ บิ๊กตู่ ตัดสินใจกระเตง บิ๊กป้อม ขึ้นหลัง ขึ้นไหล่ ด้วยความรักและดูดดื่มเป็นอย่างยิ่ง อันนี้นี่แหละ...ต้องเรียกว่า เล่นเอาหลัง เอาไหล่ ของบรรดา กองหนุน ทั้งหลาย แอ่นระแน้...ชนิดยิ่งกว่ากรรมกรแบกข้าวสารเป็นกระสอบๆ แต่ละรายตาเหลือก ตาถลน ไปด้วยกันทั้งสิ้น แม้บางรายตัดสินใจแบกต่อ อุ้มต่อ หนุนต่อ ในแบบ หากจะรัก...ต้องลืมคำว่าเสียใจ แต่รายไหน ก็รายนั้น หนีไม่พ้นต้องอ้วกแตน อ้วกแตน ต้องหาทางประคับประคองตัวเอง ไม่ให้ต้องเสียคน เสียสุนัข หรือเสียรังวัด มากมายเกินไปกว่านี้...

                                                     ------------------------------------------------------

      อันนี้นี่แหละ...ถึงต้องสรุปว่า บรรดา กองหนุน เท่าที่เหลืออยู่ของ บิ๊กตู่ ทั้งหลาย น่าจะตกอยู่ในสภาพเหนื่อยฉิบหาย เหนื่อยตายโหง กันไปมิใช่น้อย ยิ่งถ้าหากต้องแบก ต้องหาม ไปจนถึงจังหวะเลือกตั้ง หรือหลังเลือกตั้งผ่านไป ที่อาจต้องสร้าง พรรค เอาไว้แบกกันอีกเป็นพรรคๆ หรือไม่ก็ต้องหันไปทะเลาะกับพรรคนั้น พรรคนี้ ต้องเฉือนเลือด เฉือนเนื้อ ที่เคยเป็นเลือด เป็นเนื้อของตัวเอง หรือของพี่ๆ น้องๆ ตัวเองแท้ๆ เพื่อให้ บิ๊กตู่ สามารถแบก บิ๊กป้อม ขึ้นฝั่ง หรือข้ามฝั่ง ไปด้วยหรือไม่ อย่างไร ก็ยังมิอาจสรุปได้ อันนี้นี่เอง...ที่ทำให้ กองหนุน บางราย เริ่มคิดจะ ปลดประจำการ คิดปลีกวิเวกหันไปเป็น กองเกิน กันเป็นจำนวนไม่น้อย...

                                                        -----------------------------------------------------

      อย่างไรก็ตาม...แม้ว่าบรรดา กองหนุน จะมีจำนวนลดลงๆ เพราะถูกใช้ไปเยอะแล้ว หรือถูกใช้ไปหมดแล้ว แต่คงต้องยอมรับว่า ด้วยสถานะและบทบาทของบรรดาผู้ที่เคยเป็นกองหนุน และผู้ที่ยังคงสมัครใจเป็นกองหนุนต่อไปจนบัดนี้ ถือว่ามีส่วนเอามากๆ ในการช่วยให้ความเป็นไปในบ้านเมือง เกิดอาการ สงบ-เรียบ-นิ่ง มาโดยตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าบรรดากองหนุนเหล่านี้จะคิดถูก-คิดผิด แต่ด้วยเหตุเพราะการ ยึดเอาชาติบ้านเมือง  หรือ ยึดเอาส่วนรวม เป็นที่ตั้ง ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้อะไรต่อมิอะไรสามารถ เดินหน้าประเทศไทย ไปได้มิใช่น้อย ไม่ว่าจะเดินตัวตรง หรือเป๋ไป-เป๋มาก็ตามที...

                                                       ----------------------------------------------------

      แต่ก็นั่นแหละ...การยึดเอาชาติบ้านเมือง หรือยึดส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ย่อมต่างไปจากการ ยึดเอาบิ๊กตู่ หรือบุคคลใด บุคคลหนึ่ง เป็นที่ตั้งอยู่แล้วแน่ๆ ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะหนุนต่อ-ไม่หนุนต่อ จะปลดประจำการ เปลี่ยนสถานะไปเป็นกองเกิน กองหลอน หรือกองแล ก็แล้วแต่ การหาทางขีดเส้นแบ่ง แยกแยะให้ชัดเจน ว่าอะไรคือผลประโยชน์ส่วนรวม ผลประโยชน์ชาติ บ้านเมือง หรือผลประโยชน์ของตัวบุคคลกันแน่!!! อันนี้นี่แหละ...ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเหนื่อย ให้เบาๆ ลงไปมั่ง ยังอาจช่วยเพิ่มกำลังขวัญ กำลังใจ เพิ่มเรี่ยวแรง กำลังวังชา ให้บรรดากองหนุนหรืออดีตกองหนุนทั้งหลาย มีโอกาสกลับมาคึกๆ คักๆ ปานประดุจได้รับประทานเอ็ม 100 เอาเลยก็เป็นได้...

                                                         ------------------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Sansakrit saying... สัมปโท มหตาเมวะ มหตาเมวะ จาปทะ วรุธเต กษียะเต จันโทรนะ ตุ ตาราคณะ กะวะจิต-ความเจริญและความเสื่อมเป็นเรื่องของคนใหญ่-คนโต อุปมาดั่งพระจันทร์ซึ่งมีขึ้น-มีแรม ส่วนดวงดาวทั้งหลาย หาได้ผันแปรไม่...

                                                           -------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"