คนกรุงอ่วมรถเมล์ขึ้นราคา เผยส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายพุ่งอาทิตย์ละเกือบร้อย เรียกร้องปรับปรุงบริการ ทั้งสภาพรถและคนขับ-กระเป๋าให้สมราคา
    เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “การขึ้นค่าโดยสารรถประจำทาง (รถเมล์)” จากผู้ที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กระจายทุกระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น 1,258 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อสัปดาห์ จากการที่ ขสมก. และรถโดยสารเอกชนร่วมบริการเพิ่มค่าโดยสาร พบว่า ผู้ใช้บริการร้อยละ 87.20 ระบุว่า ไม่เกิน 100 บาท ร้อยละ 10.97 ระบุว่า 101-200 บาท ร้อยละ 1.59 ระบุว่า 201-300 บาท และร้อยละ 0.24 ระบุว่า 301 บาทขึ้นไป
    สำหรับการปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทางของผู้ใช้บริการ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 46.74 ระบุ ขึ้นรถโดยสารประจำทางเท่าที่จำเป็น รองลงมา ร้อยละ 16.69 ระบุ ไม่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเดินทาง ยังคงใช้เหมือนเดิม ร้อยละ 13.35 ระบุ เปลี่ยนไปใช้รถตู้โดยสารแทน ร้อยละ 11.29 ระบุ ยอมเสียเวลาในการรอรถโดยสารประจำทางที่มีราคาถูกกว่า ร้อยละ 10.81 ระบุ เปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า รถใต้ดินแทน ร้อยละ 8.03 ระบุ เปลี่ยนไปใช้รถส่วนตัวแทน เช่น รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ร้อยละ 3.82 ระบุ เปลี่ยนไปใช้เรือโดยสารแทน ร้อยละ 3.50 ระบุ เดินไปทำงาน ทำธุระแทนการขึ้นรถประจำทาง
    เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากให้มีการปรับปรุงบริการของรถโดยสารประจำทาง โดยแยกประเภทรถ ดังนี้ 1.รถ ขสมก. ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.87 ระบุ สภาพภายในของรถ เช่น ความสะอาด แอร์เย็น เบาะ หน้าต่าง ราวจับ รองลงมา ร้อยละ 46.02 ระบุ มารยาทของพนักงาน ทั้งการขับรถและการเก็บเงิน ร้อยละ 45.92 ระบุ ความเพียงพอของรถ เวลารอรถไม่นาน ร้อยละ 42.45 ระบุ สภาพภายนอกของรถ ปรับให้เป็นรถใหม่ ร้อยละ 27.93 ระบุ การตรงต่อเวลาของการปล่อยรถ และร้อยละ 25.75 ระบุ การจอดรับ-ส่งให้ตรงป้ายรถเมล์
    2.รถโดยสารเอกชนร่วมบริการ ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ ร้อยละ 55.76 ระบุ สภาพภายในของรถ เช่น ความสะอาด แอร์เย็น เบาะ หน้าต่าง ราวจับ รองลงมา ร้อยละ 52.33 ระบุ มารยาทของพนักงาน ทั้งการขับรถและการเก็บเงิน ร้อยละ 42.82 ระบุ สภาพภายนอกของรถ ปรับให้เป็นรถใหม่ ร้อยละ 41.67 ระบุว่า ความเพียงพอของรถ เวลารอรถไม่นาน ร้อยละ 31.11 ระบุ การจอดรับ-ส่งให้ตรงป้ายรถเมล์ และร้อยละ 27.31 ระบุว่า การตรงต่อเวลาของการปล่อยรถ.