สื่อเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันอาทิตย์ ยืนยัน "คิม จองอึน" คุมการ "ฝึกโจมตี" ด้วยการยิงทดสอบมิสไซล์จากเครื่องยิงจรวดพิสัยไกลและอาวุธนำวิถีตกในทะเลญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ ขณะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังโลกสวย เชื่อคิมไม่ผิดคำสัญญา แต่นักวิเคราะห์ชี้เกาหลีเหนือต้องการส่งสัญญาณไม่จำนนต่อแรงกดดัน
ภาพจากเคซีเอ็นเอ ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 คิม จองอึน ดูการฝึกโจมตี / AFP PHOTO / KCNA VIA KNS
รายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2562 กล่าวว่า คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ มีคำสั่งให้ทำการ "ฝึกโจมตี" เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยิงจรวดพิสัยไกลแบบหลายลำกล้องขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในข่ายต้องห้ามตามข้อมติขององค์การสหประชาชาติ และอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีที่รายงานไม่ได้ระบุชนิด
หนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของทางการเปียงยางฉบับวันอาทิตย์ ได้เผยแพร่ภาพการทดสอบอาวุธครั้งนี้บนหน้าหนึ่ง 16 รูป ซึ่งรวมถึงรูปของคิมทำหน้าเคร่งขรึม มือถือกล้องส่องทางไกล ดูผลงานการยิงทดสอบและรูปจรวดหลายลูกกำลังพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
คำแถลงของคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้ยืนยันในวันเดียวกันว่า เกาหลีเหนือได้ยิงมิสไซล์พิสัยใกล้จำนวนหนึ่งจากคาบสมุทรโฮโดใกล้เมืองวอนซันที่อยู่ชายฝั่งตะวันออก ไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเวลา 09.06-09.27 น.ของวันเสาร์ มิสไซล์เหล่านี้พุ่งไกลระหว่าง 70-200 กิโลเมตร ก่อนจะตกสู่ทะเลญี่ปุ่น
กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้กล่าวว่า การวิเคราะห์บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือทำการทดสอบ "เครื่องยิงจรวดแบบหลายลำกล้อง ขนาด 240 มม. และ 300 มม. และอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีชนิดใหม่ที่มีพิสัยประมาณ 70-240 กม."
รายงานของเคซีเอ็นเอกล่าวว่า คิมได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ "ป้องกันอำนาจอธิปไตยทางการเมืองและการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ" ของเกาหลีเหนือที่เผชิญภัยคุกคามและการรุกราน เป้าหมายของการฝึกครั้งนี้ก็เพื่อตรวจสอบขีดความสามารถเชิงยุทธการและความแม่นยำของการโจมตี
คิมยังย้ำเตือนให้ทหารตระหนักถึงความจริงที่ว่า มีแต่อำนาจที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะรับประกันความมั่นคงและสันติภาพที่แท้จริง
มิสไซล์พุ่งออกจากเครื่องยิงจรวดแบบหลายลำกล้อง / AFP PHOTO / KCNA VIA KNS
การฝึกเมื่อวันเสาร์ถือเป็นการทดสอบอาวุธที่มีความจริงจังมากที่สุดนับแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 ที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป เชื่อกันว่าด้วยการทดสอบล่าสุดนี้ เกาหลีเหนือมีเจตนาเพิ่มแรงกดดันต่อสหรัฐเพื่อให้ปรับเปลี่ยนท่าทีในการเจรจานิวเคลียร์
เดือนที่แล้วเกาหลีเหนือก็เพิ่งทำการทดสอบ "อาวุธนำวิถีทางยุทธวิธี" ชนิดใหม่ ซึ่งเป็นการทดสอบอาวุธครั้งแรกนับแต่การประชุมสุดยอดระหว่างคิมกับทรัมป์ที่กรุงฮานอยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ล้มเหลว โดยไม่สามารถบรรลุความตกลงหรือแม้แต่มีแถลงการณ์ร่วม เนื่องจากสองฝ่ายเห็นแย้งกันเรื่องการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร
ไล่เลี่ยกับการทดสอบอาวุธเมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเปียงยางยังเรียกร้องให้สหรัฐถอดไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศออกจากการเจรจาด้วย
สกอต ซีแมน นักวิเคราะห์จากยูเรเชียกรุ๊ป กล่าวว่า คิมต้องการให้โลกรู้ว่าเกาหลีเหนือไม่สบอารมณ์กับจุดยืนแข็งกร้าวของสหรัฐที่ต้องการให้ตนปลดอาวุธนิวเคลียร์ และเกาหลีเหนือจะไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันจากภายนอก
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงเชื่อมั่นว่าเขาและคิมจะสามารถบรรลุความตกลงกันได้ "คิม จองอึน ตระหนักอย่างเต็มที่ถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ และจะไม่ทำสิ่งใดที่รบกวนหรือยุติมัน" ทรัมป์ทวีต "เขายังรู้ด้วยว่าผมเห็นด้วยกับเขา และเขาไม่ต้องการผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับผม ข้อตกลงจะเกิดขึ้นแน่".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |