3 พ.ค.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ควบคุมตัวนายอำนาจ อินสุวรรณโณ หรือบอลใต้ อายุ 36 ปี, นายนพดล ทิพย์มณเฑียร หรือบอย อายุ 38 ปี และนายทนงศักดิ์ เกตุมัน หรือหิน อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาในคดียิงนายอัษฎา ทัพน้อย หรือดา สะพานใหม่ เสียชีวิตที่หน้าสนามมวยลุมพินี รามอินทรา มาขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.-14 พ.ค. นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก รอผลตรวจพิมพ์มือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และรอผลการตรวจค้นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจากกองพิสูจน์หลักฐานท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกงว่าจะหลบหนีการพิจารณาคดี

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2562 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าสนามมวยลุมพินี แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จึงนำกำลังไปตรวจสอบบริเวณบันใดด้านข้างทางออกสนามมวยลุมพินี พบร่างนายอัษฎา ทัพน้อย มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณลำคอ แขน และหน้าอกด้านซ้าย นอนเสียชีวิตอยู่ ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก และหัวกระสุนจำนวน 3 ปลอก จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้ตายได้เข้าไปชมกีฬาชกมวยภายในสนามมวยลุมพินี แล้วมีปากเสียงกับนายอำนาจ หลังจากที่มวยเลิก จึงได้พากันออกมาบริเวณภายนอกสนามมวย ก่อนมีปากเสียงกับนายอำนาจ พร้อมพวก 

จากนั้นนายทนงศักดิ์ ได้นำอาวุธปืนแบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. มาส่งให้นายอำนาจ และยืนคุมเชิงอยู่บริเวณรอบๆ ก่อนที่นายอำนาจและนายนพดลจะวิ่งเข้าไปหานายอัษฎา ซึ่งเสียหลักล้มลงบริเวณพื้นถนนด้านล่างสนามมวย นายนพดล จึงได้เข้ามาหยิบอาวุธปืนชนิดออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซิกเซาเออร์ ของนายอัษฎา ผู้ตาย ไปโดยทุจริต แล้วนำไปซุกไว้ที่ชายเสื้อก่อนวิ่งหลบหนีไป ต่อมานายอำนาจ จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่นายอัษฎา จำนวน 4 นัด ถูกที่ลำคอ แขน และหน้าอก จนถึงแก่ความตาย หลังก่อเหตุทั้งหมดได้พากันหลบหนีไป กระทั่งเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อต่อสู้คดี 

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหานายอำนาจฐานฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

แจ้งข้อหานายทนงศักดิ์ และนายนพดล ฐานเป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นในการกระทำความผิดในฐานฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และแจ้งข้อหานายนพดล เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา คือลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 

ในชั้นสอบสวนนายอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพ ส่วนนายนพดลและนายทนงศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 2-3 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ในช่วงบ่าย ครอบครัวของนายอำนาจยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 ล้านบาท ส่วนนายทนงศักดิ์และนายนพดล ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาลาดพร้าววังหิน คนละ 5 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราวต่อไป

กระทั่งเวลา 16.00 น.ศาลอาญาได้พิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวในส่วนของนายอำนาจ  พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วถือเป็นเรื่องร้ายแรง มีการกระทำไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน หากปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง

ส่วนนายนพดลและนายทนงศักดิ์ ผู้ต้องหาที่เป็นผู้สนับสนุนฯ นั้น ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้งสองมีประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 5 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะได้ควบคุมตัวนายอำนาจ ไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป