วันนี้จะพาไปชิมของกินอร่อยๆบริเวณสี่แยกวัดดวงแข ซึ่งมีร้านขายเป็ดย่างเจ้าเก่าแก่ชื่อ “สิทธิ์โภชนา” ตั้งอยู่ริมถนนจารุเมือง ติดกับธนาคารกรุงศรี ลักษณะร้านเป็นตึกแถวขนาด 1คูหาที่จัดตกแต่งเรียบง่ายดูสะอาดตา หน้าร้านมีตู้กระจก 2 ตู้ แบ่งแยกรายการอาหารชัดเจนคือ ตู้หนึ่งแขวนเป็ดย่าง ขายข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง หมูกรอบ บะหมี่หมูแดง บะหมี่เป็ดย่าง และบะหมี่เกี๊ยว ส่วนอีกตู้หนึ่งแขวนเป็ดพะโล้ ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดทั้งแบบแห้ง น้ำและเกาเหลา
ผมเลือกสั่งข้าวหน้าเป็ดย่างมาชิมก่อนเป็นจานแรก จุดเด่นเป็ดย่างร้านนี้คือ เนื้อนุ่ม หนังกรอบและมีชั้นไขมันน้อยจึงกินได้ไม่เลี่ยน ส่วนหมูกรอบที่หนังกรอบมากๆ เคี้ยวแล้วไม่รู้สึกเหนียวเพราะชั้นไขมันบางและย่างจนแทบไร้มัน แต่ถ้าคอแห้งก็ต้องสั่งเกาเหลาเป็ดพะโล้มาสมทบ เพราะตัวน้ำซุปรสชาติหอมหวานกลมกล่อมกินง่าย ปิดท้ายด้วยบะหมี่เป็ดย่างใส่เกี๊ยวกุ้งผสมกับหมูสับ
สำหรับเจ้าของร้านคือ คุณพิสิษฐ์ จารุศรีพัฒน์ หรือ เฮียเท้า อายุ 70 ปี ซึ่งเมื่อก่อนเคยใช้ชื่อจริงว่า “ประสิทธิ์” จึงตั้งชื่อร้านว่า “สิทธิ์โภชนา” เปิดขายเป็ดย่างมาแล้ว 33 ปี ส่วนเป็ดพะโล้นั้นเฮียเท้าคลุกคลีตั้งแต่เด็กๆเพราะเตี่ยทำเป็ดพะโล้แล้วหาบขายบริเวณวัดดวงแข หัวลำโพง จึงได้เห็นซึมซับการทำเป็ดพะโล้ทุกขั้นตอน
แม้ว่าจะชำนาญเรื่องการทำเป็ดพะโล้ แต่เฮียเท้าเป็นคนชอบชิมและเสาะแสวงหาของอร่อยๆจนกระทั่งลองทำเป็ดย่างด้วยตัวเองและพัฒนาสูตรจนลงตัว เป็ดย่างที่ร้านนี้ไม่เพียงขายดีเฉพาะสับขายเป็นจานๆให้ลูกค้าที่มากินเท่านั้น แต่ยังขายเป็นตัวทั้งปลีกและส่งให้ลูกค้าซื้อกลับไปกินที่บ้าน และทั้งที่ซื้อเพื่อเอาไปขายต่อเป็นข้าวหน้าเป็ดและบะหมี่เป็ดบนห้างสรรพสินค้า
คุณพิสิษฐ์บอกว่า เป็ดย่างที่ร้านย่างสดใหม่ทุกวัน ไม่มีการย่างแล้วเก็บแช่ในตู้เย็น โดยใช้เป็ดเชอรี่จากฟาร์มขนาดมาตรฐานคือ น้ำหนักเฉลี่ยตัวละ 2.8 กิโลกรัม เครื่องเทศที่คิดค้นสูตรขึ้นเองนั้นนำเข้าไปในท้องเป็ด ราดน้ำซอสแล้วผึ่งลมให้แห้ง ใช้เวลาประมาณ8-10 ชั่วโมงเพื่อให้หนังแห้ง เมื่อนำไปย่างในเตาประมาณ 45 นาที จนกระทั่งน้ำมันโดนรีดออกจนหมดก็จะได้เป็ดย่างหนังกรอบอร่อย
ในช่วงย่างเป็ดก็จะเปิดเพลงลูกกรุงฟังตลอดเพราะเป็นแฟนเพลงครูสุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ และมักจะนำไปฝากเพื่อนฝูงในชมรมคนรักสุเทพเสมอจนติดอกติดใจกันหลายคน
ร้านนี้เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-15.30 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร.และ 02-216-1279