ดูดเพื่อชาติ???


เพิ่มเพื่อน    

 คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า...พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างพรรค พปชร. หรือ พลังประชารัฐ นั้น ค่อนข้างเป็นพรรคที่ออกจะมีศิลปะ ลีลา มีขีดความสามารถในการ ดูด อย่างชนิดน่าทึ่ง น่าตื่นตะลึงเอามากๆ ไม่ว่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการตั้งพรรค มาจนถึงก่อนเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งผ่านพ้นไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว แต่ก็ยังส่งผลให้ใครต่อใครถึงขั้น ครางง์ง์ง์ กันไปเป็นรายๆ...

                                                                    -----------------------------------------------

                คือไม่ว่า กกต. ท่านจะบวก-ลบ-คูณ-หาร ถอดรูท ถอดสมการ เทียบบัญญัติไตรยางศ์ ออกมาเป็นจำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรคกันยังไงก็ตามที แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร.แล้ว คงไม่ได้แค่เอาแต่กำเครื่องคิดเลขไว้เฉยๆ แต่ยังพร้อมที่จะคว้าท่อดูดพลังพญานาค สอดส่ายหาบ่อเกรอะในแต่ละบ่อ จนเกิดข่าวล่า-มาเรือข่าวแล้ว ข่าวเล่า ถึงการย้ายข้าง ย้ายค่าย ของพรรคการเมืองบางพรรค หรือถ้าหากไม่เป็นพรรค ก็อาจหลุดออกมาเป็นตัวๆ  อันนำไปสู่การประมาณการว่า ไม่ว่า กกต. จะประกาศผลออกมาในแบบไหน แนวไหน โอกาสที่พรรค พปชร.จะสามารถจัดตั้งรัฐบาล ด้วยจำนวนเสียง ส.ส.ระดับปริ่มน้ำ พ้นน้ำ น่าจะเป็นไปได้แบบ แบเบอร์ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

                                                                     ----------------------------------------------

                แม้ว่าบรรดาหัวหน้าพรรคในแต่ละพรรค จะออกมาปฏิเสธถึงการย้ายข้าง ย้ายค่าย กันไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ แต่โดยลักษณะอาการของการปฏิเสธนั้น มักออกไปทางแบบ ปากกล้า แต่ ขาสั่น อยู่พอสมควร ส่วนจะสั่นเพราะความเสียวซ่าน หรือเสียวสยอง อันนั้น...คงต้องวิเคราะห์เจาะลึกกันเอาเองก็แล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ....เสียงโครกๆ หรือจ๊วบๆ ที่ซึมซ่าน แผ่กระจายไปทั่วแวดวงยุทธจักร น่าจะสร้างความสั่นสะท้าน ให้กับพรรคการเมืองหลายต่อหลายพรรค ที่อยู่ในข่ายต้องถูก ดูด ชนิดอาจถึงขั้นหลับไม่ลง หรือไม่ก็อาจหลับตาพริ้มเอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                                       --------------------------------------------------

                แต่ทำไงได้ล่ะทั่น...ในเมื่อ หมากการเมือง มันดันออกมาในแนวนี้ คือแทนที่จะออกหัว ออกก้อย ให้สิ้นเรื่อง สิ้นราว มันดันออก กลาง ซะยังงั้น ออกในแบบ ฝ่ายประชาธิปไตย เอง ก็คงจัดตั้งรัฐบาลแทบไม่ได้ ถ้าหากไม่คิดจะพึ่งบริการ ฝ่ายเผด็จการ หรือ ฝ่ายประชาธิปไตยสุจริต ที่ป่าวประกาศไม่คิดจะเอากับ ฝ่ายประชาธิปไตยที่ไม่สุจริต มาตั้งแต่แรก เช่นเดียวกับ ฝ่ายเผด็จการ นั่นแหละ ถ้าหากไม่หันไปพึ่งบริการ ฝ่ายประชาธิปไตยที่สุจริต หรือ ไม่สุจริต ก็แล้วแต่ แม้จะได้เสียงจาก ฝ่ายคณาธิปไตยที่สุจริต หรือฝ่ายที่ลากตั้ง ไม่ใช่เลือกตั้ง มาแล้วล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 250 เสียง แต่เพียงแค่โอกาสที่จะผ่านกฎหมายงบประมาณภายใน สภาฯ ล่าง หรือสภาผู้แทนราษฎร มันคงแทบเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องโครกๆ หรือจ๊วบๆ ไปตามสภาพ...

                                                                       --------------------------------------------------

                แต่ก็นั่นแหละ...ถึงแม้จะเป็นการ ดูดเพื่อชาติ ดูดเพื่อไม่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องเข้าสู่ภาวะ ทางตัน ที่แทบไม่มีทางออก ทางไป แต่ขึ้นชื่อว่าการ ดูด แล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า...มันออกจะเป็นอะไรที่น่าเกลียด น่าขยะแขยง มิใช่น้อย ด้วยเหตุนี้...เลยคงต้องอาศัยศิลปะ ลีลา ในการซุก การไซร้ การผล่อบๆ แผล่บๆ อยู่พอสมควรทีเดียว คือต้องพยายามให้ออกไปในทางนิ่มๆ นวลๆ เข้าไว้ อย่าถึงกับต้องฉุดกระชากลากถูชนิดขนติดปาก ค่อยๆ งาบ ค่อยๆ อม กันทีละส่วน สองส่วน หรือถ้าได้จังหวะถึงค่อยๆ กลืนกันทั้งใบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้...ไม่น่าจะเกินขีดความสามารถของผู้คนในพรรคพลังประชารัฐเขา ที่ผ่านประสบการณ์การดูด การกลืน อะไรต่อมิอะไรมาตั้งแต่แรก...

                                                                       ----------------------------------------------------

                อย่างไรก็ตาม...คงต้องขออนุญาตเตือนด้วยความปรารถนาดีเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าคงต้องอาศัยศิลปะ ลีลา อาศัยความละเอียดประณีต นิ่มนวล อยู่พอสมควร เพราะช่วงหลังๆ นี้...บรรดาผู้ที่เคยอาสาสมัครเป็น กองหนุน ของ บิ๊กตู่ คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า ชักหันมาเป็น กองหลอน หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะความหุดหิด รำคาญ ในตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ผลงานการคว้า สากกะเบือ หรือคว้า มาตราฉี่ฉิบฉี่ ออกมาทิ่ม มาตำ อะไรต่อมิอะไรของ บิ๊กตู่ นั้น คงต้องยอมรับว่า...ออกจะไม่ เข้าตากรรมการ มากมายซักเท่าไหร่...

                                                                         -----------------------------------------------------

                และนั่นเองที่ทำให้สิ่งที่มีความสำคัญเอามากๆ หรืออาจสำคัญซะยิ่งกว่าจำนวนเสียง จำนวน ส.ส. จำนวนเก้าอี้ไม่ว่าในสภาฯ บน หรือสภาฯ ล่าง อันได้แก่สิ่งที่ถูกเรียกขานกันในนาม ความชอบธรรมทางการเมือง มันชักออกไปทางสาละวันเตี้ยลงๆ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถ้าหากต้องออกแรง ดูด ในแบบหยาบๆ สากๆ ขาดความประณีตและละเอียดอ่อนด้วยแล้วไซร้ สิ่งที่ว่านี้...มันอาจหายเกลี้ยงภายในช่วงเวลาอันรวดเร็ว และนั่นเองที่จะทำให้รัฐบาลซึ่งมีเสียง พ้นน้ำ ไปแล้ว อาจต้องจมน้ำ จมท่า ตกน้ำ ตกท่า ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ โดยเฉพาะภายใต้บรรยากาศที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล กำลังใช้จังหวะ โอกาส สะสม เงื่อนไข และ ข้ออ้าง ได้มากยิ่งขึ้นทุกที จนอาจนำไปสู่การ พลิกฟ้า-คว่ำดิน ในขั้นตอนสุดท้าย!!!

                                                                          ---------------------------------------------------------

                ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Karl Marx (อีกครั้ง)... Success, arrogance, and injustice, then downfall.- ความสำเร็จ ความหยิ่งยโส และความอยุติธรรม จะเกิดก่อน ครั้นแล้ว...ความหายนะจะตามมา...

                                                                          -------------------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"