ผู้เสียหายกว่า 30 คนร้องกองปราบฯ ถูกหนุ่มแปลงเพศอดีตพรีเซนเตอร์ รพ.เสริมความงามตุ๋นลงทุนธุรกิจเกมออนไลน์ รวมแล้วสูญกว่า 50 ล้าน
    ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และทนายความ นำ น.ส.ศิวาพัชญ์ วรวัชร์กิตติ อายุ 44 ปี พร้อมผู้เสียหายกว่า 30 คน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.นันทิพัฒน์ ผังดี รอง สว.กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.วิ (นามสมมติ) ทอมบอย อดีตพรีเซนเตอร์โรงพยาบาลเสริมความงามชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังถูกฉ้อโกงเงินจากการลงทุนทำธุรกิจเกมออนไลน์ (Sweet corn) หรือเกมปลูกข้าวโพด ผ่านทางเฟซบุ๊ก คาดมีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 300 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 50 ล้านบาท
    น.ส.ศิวาพัชญ์กล่าวว่า รู้จักกับ น.ส.วิมาได้ประมาณ 2-3 ปี ที่งานสัมมนาเกี่ยวกับการแปลงเพศจากผู้หญิงเป็นผู้ชายของ รพ.เสริมความงามแห่งหนึ่ง เนื่องจาก น.ส.วิผ่านการแปลงเพศจากหญิงเป็นชาย และในขณะนั้นเป็นพรีเซนเตอร์เกี่ยวกับการแปลงเพศให้กับ รพ.ดังกล่าว ก่อนจะมีการชักชวนให้เล่นเกมปลูกข้าวโพดออนไลน์ ที่ น.ส.วิอ้างว่าเป็นคนสร้างขึ้น ซึ่งเกมดังกล่าวจะมีลักษณะคล้ายกับการจำลองเรื่องราวว่าตัวละครในเกม คือเกษตรกรลงทุนปลูกข้าวโพด เพื่อนำผลผลิตไปขายให้กับร้านค้าในเกม เพื่อแลกกับการได้เงินค่าตอบแทนจริงๆ ให้กับผู้ที่เล่นเกม ซึ่งผู้ที่เริ่มเล่นจะต้องมีการจ่ายเงินซื้อไอเทมต่างๆ อาทิ ที่ดินสำหรับปลูกข้าวโพด เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด และปุ๋ย เพื่อเร่งเก็บผลผลิต
    น.ส.ศิวาพัชญ์กล่าวต่อว่า ช่วงแรกที่เล่นก็เห็นว่าสนุกดี จึงได้เล่นต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา น.ส.วิได้ชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุน เช่น ลงทุน 10,000 บาท ได้เงินปันผลวันละ 100 บาท จึงตัดสินใจชักชวนคนในครอบครัวนำเงินมาร่วมลงทุนด้วยรวมเป็นเงินกว่า 5 แสนบาท โดยช่วง 1-2 เดือนแรกมีการจ่ายเงินปันผลให้จริง ก่อนที่ต่อมาเริ่มบ่ายเบี่ยง แล้วขาดการติดต่อในที่สุด
    ด้านนายรัชพลกล่าวว่า คดีนี้มีผู้เสียหายทั่วประเทศมากกว่า 300 คน และมีผู้เสียหาย 1 รายในจำนวนนี้ต้องเสียชีวิตจากภาวะเส้นเลือดในสมองแตก เพราะเกิดอาการเครียดจากการถูกหลอกสูญเงินหลายแสนบาท และยังมีอีก 1 รายที่ต้องสูญเสียบิดา หลังไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาลอาการป่วยของบิดาอย่างทันท่วงที เนื่องจากนำเงินไปร่วมลงทุนกับ น.ส.วิจนหมด
    เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนส่งเรื่องให้กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ที่มีหน้าที่รับผิดชอบคดีลักษณะดังกล่าวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.