"อภิรักษ์" ประกาศชิงเก้าอี้หัวหน้าประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าฟื้นฟูพรรคครั้งใหญ่ ขณะที่ "ชัยวุฒิ" ยอมรับ "กรณ์" ทาบทามร่วมทีม ลั่นพร้อมเป็นเลขาฯพรรค อาสานำประสบการณ์ 20 ปีทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายสุทธิชัย หยุ่น โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Suthichai Yoon โดยมีเนื้อหาระบุว่า "ยืนยันครับ! คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ยืนยันกับผมต่อหน้า ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ว่า “ผมลงแข่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แน่นอนครับ” ก็ต้องประชันนโยบายกู้พรรคเก่าแก่ที่สุดของประเทศแข่งกับคุณกรณ์ จาติกวณิช และคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
“ผมจะเชื่อมคนรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าในพรรคครับ พรรคต้องการการฟื้นฟู และ transformation ครั้งใหญ่ครับ” คุณอภิรักษ์บอกผม ขณะที่ ดร.ศุภชัย ในฐานะที่ปรึกษาพรรค ปชป. บอกว่า “ประชาชนเหมือนจะมี love-hate relationship สูงมากต่อประชาธิปัตย์ ดังนั้นพอลงโทษเราก็ลงโทษแรงเลย!”
บทสนทนาที่งานสถานทูตอังกฤษเมื่อค่ำนี้ งานศิษย์เก่า LSE ที่เชิญปริญญ์ พานิชภักดิ์ มาพูดเรื่องโลกดิจิทัลกับอนาคตประเทศไทย"
วันเดียวกัน นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังมีข่าวว่านายกรณ์ จาติกวนิช ทาบทามให้เป็นเลขาธิการพรรคว่า เป็นเรื่องจริง โดยตนตัดสินใจเมื่อคืนวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้มีเหตุผลหลายอย่าง และเป็นเรื่องที่หนักใจมาก เพราะทุกคนที่เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคมีดีเหมือนกันหมด แต่ที่ตัดสินใจทำงานกับนายกรณ์ ตนขอเป็นเรื่องส่วนตัวดีกว่า เพราะเดี๋ยวจะกระทบกับหลายฝ่ายแล้วจะไม่ดี แต่ตนต้องการให้พรรคเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ และอยากให้การดำเนินการเลือกหัวหน้าพรรคเป็นไปอย่างเรียบร้อยที่สุด ไม่อยากให้มีผลกระทบเกิดขึ้นภายหลัง และไม่ว่าใครชนะก็อยากให้ทุกคนมารวมตัวกันทำงานเพื่อพรรค ซึ่งตนได้พูดกับทุกฝ่ายว่า ไม่ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค เราต้องมาช่วยกัน แต่จะปล่อยให้ภาพไม่ชัดไม่ได้ จึงจำเป็นต้องชัด
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางในการทำงานในตำแหน่งเลขาธิการพรรคหากได้รับเลือกตั้ง นายชัยวุฒิกล่าวว่าตอนนี้ต้องเอาบุคลากรพรรคทั้งหมดที่มีมาทำงาน รวมถึงบุคลากรจากภายนอกที่คิดถึงประโยชน์ประเทศมาช่วยทำงานเพื่อฟื้นฟูประเทศให้ดี โดยตนเห็นว่าประเทศต้องมาอันดับหนึ่ง พรรคอันดับสอง ส่วนตัวมาอันดับสาม แต่ในเรื่องของการร่วมรัฐบาลเพราะถือเป็นเรื่องของประเทศนั้น เรื่องนี้ตนไม่เคยคิด และระบบของพรรคคือเสียงส่วนใหญ่ ฉะนั้นในเวลานี้เราจะไม่คุยเรื่องนี้ และเมื่อทุกฝ่ายชัด เมื่อมติพรรคเป็นอย่างไร คนในพรรคก็ต้องมีวินัย และตนก็มีวินัยเช่นกัน
เมื่อถามว่า แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นในพรรคในฐานะที่อาสาตัวเข้ามาเป็นแม่บ้านพรรค จะแก้ปัญหาอย่างไร นายชัยวุฒิกล่าวว่า พยายามให้ทุกคนคำนึงถึงพรรคเป็นหลัก ถ้าทุกคนนึกถึงว่าเป็นคนของพรรคและพุ่งประเด็นมา ตนคิดว่าการแก้ปัญหาก็จะง่าย แต่แน่นอนว่าช่วงเลือกตั้งเสร็จใหม่ๆ ทุกคนก็ยังมีอารมณ์อยู่ในใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่เราจะทำอย่างไรให้เขามาหลอมรวมกัน
ต่อข้อถามว่า การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้จะเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นมาอีกหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เราจะพยายามไม่ให้มีแรงกระเพื่อม และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา อยากให้ทุกคนนึกถึงพรรคเป็นหลัก ส่วนเรื่องตำแหน่งต่างๆ ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะบางเรื่องไม่จำเป็นต้องคุย อยากให้ทุกคนเข้ามาช่วยพรรค เอาเรื่องจิตใจและความเข้าใจดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การเป็นเลขาธิการพรรคจำเป็นที่จะต้องมีบารมีและมีคอนเน็กชั่นในทางการเมืองด้วย นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตนรู้ตัวว่ามีข้อจำกัดอยู่มาก แต่เมื่อได้รับความไว้วางใจก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะตนไม่ใช่คนที่มีคอนเน็กชั่นอะไรมากมาย พูดง่ายๆ ถ้าเทียบกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ที่ทำมาตรฐานไว้สูง แต่ตนขี้ปะติ๋ว แต่ก็จะพยายาม เพราะตนอยู่พรรคมา 20 กว่าปีแล้ว อะไรที่คิดว่าช่วยพรรคได้ในเวลานี้ก็ต้องช่วยกัน ไม่ต้องไปสนปัญหาอุปสรรคข้างหน้า เพราะอุปสรรคมีไว้ให้แก้
ถามว่า ก่อนตัดสินใจรับคำเชิญของนายกรณ์ ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคหรือไม่ นายชัยวุฒิยอมรับว่ามีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันพอสมควร ซึ่งทุกคนก็น่ารักไม่มีใครฟันธงที่จะชี้ว่าให้ไปทางไหน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |