จับแล้ว 17 วัยรุ่นยกถล่มทำร้ายกันใน รพ.ประทาย หลังบิ๊กแป๊ะกำชับดำเนินคดีเฉียบขาด เกิดการเลียนแบบก่อเหตุซ้ำซาก
    เมื่อวันที่ 30 เมษายนนี้ ตำรวจ สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา ติดตามจับกุมเยาวชนอายุระหว่าง 15-20 ปี จำนวน 13 คน ที่มีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลประทาย ยกพวกรุมทำร้ายกันเมื่อกลางดึกวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่หน้าห้องฉุกเฉิน นำตัวมาสอบปากคำ
    ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายในโรงพยาบาล วัยรุ่นจาก อ.ประทาย มีเรื่องกับวัยรุ่น อ.ชุมพวง ในงานคอนเสิร์ตวันไหลอำเภอประทาย เกิดการตะลุมบอนจนมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ประทาย จากนั้นวัยรุ่นคู่กรณีได้ตามไปทำร้าย มีการชกต่อยและทุ่มเก้าอี้ใส่กันท่ามกลางความตื่นตระหนกของคนไข้ แพทย์และพยาบาล
    ต่อมา พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.ฐิตินันท์ วรรณสาร ผกก.สภ.ประทาย และพันจ่าโททวี พิมพ์อุบล นายอำเภอประทาย ร่วมกันแถลงผลจับกุมวัยรุ่นทำร้ายกันในโรงพยาบาลประทาย จำนวน 17 คน โดยผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากบ้านหนองค่าย และกลุ่มวัยรุ่นจากบ้านหัวดงเค็ง ที่รวมกลุ่มตะลุมบอนกับวัยรุ่นในเขตรอยต่ออำเภอชุมพวง
    พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สภ.ประทาย สภ.ชุมพวง ติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายได้ สอบสวนทราบว่า ชนวนมาจากเหตุการณ์งานคอนเสิร์ตวันไหลประทาย ได้ทะเลาะวิวาท และมีผู้บาดเจ็บ เพื่อนๆ จึงนำส่งโรงพยาบาลประทาย แต่คู่กรณียังค้างคาใจ ยกพวกไปตะลุมบอนกันดังกล่าว เบื้องต้นอยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ก่อนที่โรงพยาบาลจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้งหมดในข้อหา รวมกันเข้าไปหรือซ่อนตัวในเคหสถาน อาคารเก็บรักษาทรัพย์ หรือสำนักงานในความคุ้มครองของผู้อื่น 
    คดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งเร่งรัดตำรวจท้องที่ให้ติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด เพราะถือเป็นภัยสังคมและแพร่ระบาดเกิดเหตุซ้ำซากหลายครั้งแล้ว โดยเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ก็ได้เกิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกวิวาทกันบริเวณหน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ต่อมาตำรวจจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้รวม 8 คน ในจำนวนนี้ 4 คนถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ ส่วนอีก 4 คนถูกแจ้งดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการเพื่อฟ้องศาลได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้.