30 เม.ย.62-นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ร่วมกันแถลงถึงกรณีการถือหุ้นสื่อของนายชาญวิทย์ วิภูศิริ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
นายปลอดประสพกล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลและทหารพูดเสมอว่าประเทศต้องปกครองภายใต้กฎหมาย นายชาญวิทย์และคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในลักษณะยอมรับแล้วว่าถือหุ้นสื่อจริง โดยตนมอบให้ฝ่ายกฎหมาย ไปร้องนายชาญวิทย์ทั้งในสถานะส่วนตัว และในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ การที่นายชาญวิทย์เป็นกรรมการบริหารพรรคนั้น อาจส่งผลต่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะยื่นร้องต่อกกต.ให้ดำเนินการเลือกตั้งใหม่ และให้กกต.พิจารณากรณีถือหุ้นสื่อ หากกกต.เห็นว่า มีความผิดจริง ก็ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชารัฐ ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะไปยื่นต่อกกต. วันที่1พ.ค.เวลา10.00น.
ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีข้อพิสูจน์แล้วคือ 1.ขณะรับสมัครรับเลือกตั้งนั้นนายชาญวิทย์เป็นเจ้าของและถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 42 (3) ดังนั้น นายชาญวิทย์ถือเป็นบุคคลเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามกฏหมาย และ 2.บุคคลใดที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารพรรค นายชาญวิทย์ในฐานะกรรมการบริหารพรรคจะต้องเซ็นรับรองด้วย แสดงว่ากรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น รับรู้ และส่งผู้สมัครโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ถือว่ากรรมการบริหารพรรคกระทำผิดกฎหมายเสียเอง ด้วยเหตุนี้กรรมการบริหารพรรคจะต้องรับผิดชอบในทางกฎหมายด้วย
ดังนั้น หากกกต.วินิจฉัยว่ามีความผิด กกต.มีอำนาจที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคได้ โดยระหว่างนั้นกกต.จะต้องเพิกถอนสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลนั้นเป็นการชั่วคราว และหากผู้สมัครมีโอกาสได้รับเลือกตั้งหรือมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ต้องระงับการประกาศผลการเลือกตั้งและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |