30เมงย.ุ62-  นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยยอดผู้เข้าใช้บริการข้อมูลออนไลน์ กรมศิลปากร ในรอบ 
๖ เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๖๑ – มีนาคม ๒๕๖๒ มีจำนวนทั้งสิ้น ๗,๗๓๘,๓๑๖ ครั้ง เฉลี่ย ๑.๒๘ ล้านครั้งต่อเดือน
ย้ำทุกหน่วยงานเร่งพัฒนาและนำเข้าข้อมูลผ่านระบบดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมได้มากยิ่งขึ้น
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศมรดกศิลปวัฒนธรรม กรมศิลปากร ได้รายงาน
ข้อมูลสถิติการเข้าใช้บริการข้อมูลออนไลน์ ซึ่งกรมศิลปากรได้นำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาการให้บริการข้อมูลข่าวสาร
มรดกวัฒนธรรมของชาติเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในยุคสังคมดิจิทัล ได้แก่ ระบบห้องสมุดออนไลน์ และ 
E – Book กรมศิลปากร มีผู้เข้าใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์สำนักหอสมุดแห่งชาติ เว็บไซต์หอสมุดแห่งชาติส่วนภูมิภาค 
เว็บไซต์กรมศิลปากร และระบบคลังดิจิทัล กรมศิลปากร ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๑ – มีนาคม ๒๕๖๒ รวมทั้งสิ้น 
๗,๖๓๑,๔๖๙ ครั้ง ผู้ใช้บริการข้อมูลจดหมายเหตุ ระบบออนไลน์ ซึ่งให้บริการสืบค้นข้อมูลภาพเก่า และเอกสาร
จดหมายเหตุ ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.nat.go.th ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๑ – มีนาคม ๒๕๖๒ มีจำนวน 
๔๘,๔๒๖ ครั้ง และข้อมูลพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ระบบออนไลน์ ซึ่งนำเสนอข้อมูลพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ทั่วประเทศ ในรูปแบบสื่อการเรียนรู้เสมือนจริงในแต่ละอาคารจัดแสดง รวมทั้งนำเสนอโบราณวัตถุชิ้นสำคัญในแต่ละ
พิพิธภัณฑ์แบบ Interactive ภาพโบราณวัตถุแบบ ๓๖๐ องศา ผ่านเว็บไซต์ www.virtualmuseum.finearts.go.th 
มีผู้เข้าใช้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑ – มีนาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๕๘,๔๒๑ ครั้ง 
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า แม้จำนวนผู้เข้าใช้บริการจะเป็นที่น่าพอใจ แต่ได้เน้นย้ำให้ทุก
หน่วยงานนำข้อมูลสถิติการเข้าใช้บริการข้อมูลออนไลน์เหล่านี้ไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการให้บริการข้อมูล
ด้านศิลปวัฒนธรรมให้มีความก้าวหน้า ทันสมัย โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบต่างๆ 
รวมถึงนำเข้าข้อมูลในระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ข้อมูลด้านศิลปวัฒนธรรมถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง 
และหลากหลาย เพื่อตอบสนองต่อประชาชนในสังคมปัจจุบัน ที่มีความต้องการด้านข้อมูลข่าวสารอย่างไม่หยุดนิ่ง 
และศึกษา ค้นคว้า ด้วยตัวเองผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงความ
เป็นชาติในแง่มุมต่างๆ ได้อย่างดี สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด