30 เม.ย.62-  น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า การอาสามาเป็นนักการเมือง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในระหว่างหาเสียง ผ่านมา 1 เดือน ผลการเลือกตั้งยังไม่ประกาศ แต่มีบางพรรคเริ่มโยนหินถามทางจะบิดพลิ้วสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน อย่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ตอนหาเสียงบอกไม่เอาการสืบทอดอำนาจ ไม่เอาเผด็จการ ดังนั้นคะแนนที่ได้มาคือคะแนนที่ปฏิเสธการสืบทอดอำนาจไม่เอาเผด็จการ แต่มีการปล่อยข่าวโยนหินถามทางออกมาตลอด 1 เดือน ว่าทั้ง 2 พรรคจะไปเข้าร่วมรัฐบาลกับการสืบทอดอำนาจเผด็จการ โดยมีการอ้างเหตุผลว่า ถามประชาชนบางกลุ่มแล้วสนับสนุน บ้างก็อ้างว่าใครผ่านการเลือกตั้งแล้วถือเป็นประชาธิปไตย 

ขอถามจริงๆ ว่าการบิดพลิ้วข้อตกลงในเวทีสาธารณะนี่ นักการเมืองเก่าที่อาวุโสไม่อายหรือมีความรู้สึกผิดบ้างเลยเหรอ หรือคำนึงถึงแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ขอเตือนว่ายุคนี้ผลการกระทำเร็วตามความเร็วของเครือข่ายดิจิตอล ผู้ที่ไปตกลงสนับสนุนการสืบทอดอำนาจอาจจะได้ไปเฉพาะกลุ่มเล็กๆ รอบตัวของผู้ไปตกลง เพราะนักการเมืองที่ลงพื้นที่รู้ดีถึงความรู้สึกประชาชนว่าต้องการอะไร 

"มีข้อมูลว่าที่ ส.ส. จำนวนพอสมควรจะไม่ยอมหักหลังสัญญาประชาชน แต่จะหักหลังมติพรรค เพราะรัฐธรรมนูญ คสช. ระบุให้ ส.ส. โหวตขัดมติพรรคได้ คราวนี้รัฐธรรมนูญที่ คสช. ร่างเพื่อทำลายระบบพรรคการเมืองจะได้ทำลายคนสั่งร่าง บอกได้ว่าอาจจะมีการผิดคาดในวันโหวตนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจที่จะเสียงสนับสนุนไม่พอ"น.ส.เกศปรียากล่าว.