5 ปี "บิ๊กตู่" สานสัมพันธ์ "ต่างชาติ" ยอมรับ


เพิ่มเพื่อน    

    ถึงแม้จะอยู่ในช่วงปลายของรัฐบาล “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” หรือ คสช. แต่การทำงานของรัฐบาลยังคงขับเคลื่อนไปอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน รวมถึงภารกิจด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการเดินทางเยือนต่างประเทศ ในเวทีการประชุมต่างๆ ของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่ยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดรัฐบาลด้วยเช่นกัน
    ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา "บิ๊กตู่" สามารถทำงานพิสูจน์ฝีมือการบริหารประเทศ จนเป็นที่ยอมรับในสายตานานาประเทศ และถูกมองข้ามคำว่า รัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ หรือรัฐบาลรัฐประหาร แต่กลับหันมามองที่ผลงานของรัฐบาลเสียมากกว่า ขณะที่ตัว "บิ๊กตู่" เอง ก็เดินตามโรดแมปการเลือกตั้ง ตามสัญญาที่ประกาศไว้ในเวทีโลกตั้งแต่ต้น ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า ประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
    มาถึงวันนี้ ก่อนจะสิ้นสุดรัฐบาลทหาร ตลอดระยะเวลาที่ “บิ๊กตู่” บริหารประเทศ แม้จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ช่วงที่เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศยังไม่สมบูรณ์ที่สุด แต่นานาประเทศก็วางใจใน “บิ๊กตู่” ส่งคำเชิญเยือนต่างประเทศในเวทีการประชุมต่างๆ มาต่อเนื่อง
    ล่าสุด หลังผ่านการเลือกตั้งครั้งสำคัญของไทยไปหมาดๆ “บิ๊กตู่” ข้ามแดนเยือนกัมพูชา ผูกสัมพันธ์แบบแนบแน่นกับ "สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการฉลองความสำเร็จโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) ซึ่งเป็นสะพานแห่งแรกที่เชื่อมโยง 2 ประเทศที่ยาวที่สุด พร้อมพิธีเปิดสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก พิธีลงนามความตกลงว่าด้วยการเดินรถไฟร่วมกันระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และพิธีส่งมอบรถไฟดีเซลรางอีกด้วย
    ถือเป็นงานที่ชื่นมื่นที่สุด 2 นายกฯ แต่งเพลงฉลองความสำเร็จของ 2 ประเทศ ขณะที่ "สมเด็จฮุน เซน" ชื่นชมการทำงานของรัฐบาลไทยในยุคนี้ ว่าทำงานดีที่สุด ดีกว่า 12 รัฐบาล 12 นายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา พร้อมหนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ และยังยืนยันความสัมพันธ์ที่แนบแน่นนี้ว่า จะไม่ให้ใครมาใช้ดินแดนของกัมพูชาเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลไทยเด็ดขาด จึงนับว่าเป็นอีกความสัมพันธ์ที่ "บิ๊กตู่" สานไว้ได้เป็นอย่างดี
    นอกจากนี้ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา "บิ๊กตู่" ยกคณะบินไปประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก อย่างสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง ตามคำเชิญของ "สี จิ้นผิง" ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังก่อนหน้านี้ ช่วงปี 2560 "สี จิ้นผิง" ได้เคยเชิญ "บิ๊กตู่" เข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS กับประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนามาแล้ว โดยเหตุผลที่ไทยยังคงเป็นประเทศที่ถูกเชิญร่วมเวทีสำคัญของจีน ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แต่ไทยยังเป็นประเทศจุดหมายปลายทางสำคัญของนักลงทุน โดยเฉพาะรัฐบาลนี้ที่ผุดและผลักดันให้เกิดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขึ้นมา ประกอบกับไทยได้รับตำแหน่งประธานอาเซียนในปีนี้ด้วย
    โดยครั้งล่าสุดนี้เอง การเยือนจีนของ “บิ๊กตู่” เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ เวทีการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 2 หรือเส้นทางสายไหมใหม่ ทั้งตัว "บิ๊กตู่" และ "สี จิ้นผิง" ก็ต่างแสดงความพึงพอใจในความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ในช่วง 5 ปีการทำงานของรัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน และมองว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด มีความร่วมมือหลายๆ ด้านเกิดขึ้น ทั้งเรื่องรถไฟ อีอีซี และการลงทุนอีกมากมาย รวมถึงมีการลงนามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทย-ลาว-จีน ในการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ พร้อมตั้งเป้าการค้าร่วมกันกับจีนถึง 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2564
    และด้วยความที่ไทยเป็นประเทศเนื้อหอม การเดินทางครั้งนี้ของ “บิ๊กตู่” ได้รับความสนใจจากสื่อจีน อย่างซีจีเอ็นที (CGNT) และซินหัว (XINHUA) ได้ขอเข้าสัมภาษณ์ "บิ๊กตู่" ในเด็นความร่วมมือด้านการเชื่อมโยงต่างๆ ของไทยอีกด้วย
    ขณะเดียวกัน การเดินทางไปจีนครั้งนี้ “บิ๊กตู่” ยกคณะไปเยอะที่สุดเลยก็ว่าได้ จนมีคำถามจากสังคมในการหอบคณะไปจำนวนมากด้วยเหตุใด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ออกมาชี้แจงทันทีว่า ที่นำคณะผู้แทนไทยไปจำนวนมาก เนื่องจากมีเวทีหารือกลุ่มย่อยอีกหลายเวที ที่ฝ่ายจีนได้เชิญผู้แทนไทยเข้าร่วมด้วย
    อย่างไรก็ตาม การทำงานของ “บิ๊กตู่” ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปีแรกที่ก้าวเข้ามาจนถึงปัจจุบัน เป็นไปในด้านบวกและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ การค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงด้านต่างๆ รวมถึงการที่ “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ที่ต่างชาติยอมรับแล้ว ส่วนในอนาคตจะได้สานต่องานในฐานะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ คงจะได้รู้กันในเร็วๆ นี้!.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"