ประชาธิปไตยที่ไม่เห็นแก่ตัว


เพิ่มเพื่อน    

      จริง-ไม่จริง...ก็ไม่รู้!!! แต่ต้องถือเป็น ข่าวดี ส่งท้ายฤดูร้อนอยู่พอสมควร สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าบรรดานักการเมือง พรรคการเมือง ที่เห็นว่าควรจะจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นเรื่อง เป็นราว ขึ้นมาได้ซะที น่าจะมีจำนวนมากพอ ระดับที่ไม่ต้องเสียเวลายักตื้นติดกึก-ยักลึกติดกัก หรือต้องยื้อกันไป-ยื้อกันมา กลายเป็น ขี้คาตูด มากมายเกินไปนัก...

                                                                ---------------------------------------------

      ส่วนจะเป็นพรรคอะไร ไปรวมกับพรรคอะไร ได้เสียงปริ่มน้ำ พ้นน้ำ ไปซักขนาดไหน อันนั้น...คงต้องไปสืบหากันเอาเองก็แล้วกัน แต่ที่แน่ๆ ก็คือ โอกาสที่จะจัดตั้งรัฐบาลอันมีเสียงเกิน 250 เสียงในสภาฯ ล่าง โดยมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากจำนวนเสียงเกิน 375 เสียงในสภาฯ ทั้งสองรวมกัน น่าจะเรียบโร้ยย์ย์ย์โรงเรียนไวพจน์ เพชรสุพรรณ หรือโรงเรียนหนุ่มนารอนาง โดยไม่ต้องยักกันไป-ยักกันมา อีกต่อไปแล้ว และนั่น...คงช่วยให้ทิศทางการเมืองไทย ไม่ถึงกับต้องเข้าสู่ ทางตัน ชนิดต้องอาศัยฟ้าผ่าจากสวรรค์ชั้นที่ 9 ต้องกลายเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ เฉพาะกาล ให้ต้องเสียแรงอก ให้ต้องเปลืองเนื้อ เปลืองตัว โดยใช่เหตุ...

                                                                 ---------------------------------------------

      คือถ้าบรรดา นักการเมือง ไม่ว่าพรรคไหน ต่อพรรคไหน ไม่เอาแต่คิดเล็ก คิดน้อย หรือคิดมาก ชนิดต้องแยกเกรด แยกยี่ห้อตัวเอง ออกเป็นฝ่ายประชาธิปไตย-ฝ่ายไม่ประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ขึ้นชื่อว่า นักการเมือง ซะอย่างแล้ว ต่างก็น่าจะเหมือนๆ กันไปด้วยกันทั้งนั้น คือต่างมีปีกงอก เกล็ดแตกลายงา เขี้ยวยาวเฟื้อยเลื้อยลากดินไปด้วยกันทั้งสิ้น พร้อมที่จะ ปล่อยวาง-ละวาง อะไรต่อมิอะไรที่ตัวเอง ฝ่ายตัวเอง สร้างยี่ห้อ สร้างตุ๊กตาขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คงไม่มีโอกาสเข้าสู่ ทางตัน อยู่แล้วแน่ๆ...

                                                                   -------------------------------------------

      เพราะฝ่ายที่พยายามเรียกขานตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยนั้น เอาเข้าจริงๆ แล้ว...หลายต่อหลายรายก็เคยพึ่งพาเผด็จการ หรือไม่ก็ก่อร่างสร้างตัวมาจากเผด็จการเอาเลยก็ยังมี แม้แต่ นักประชาธิปไตยตัวพ่อ อย่าง นายใหญ่ ก็เถอะ ถ้าหากไม่มีเผด็จการคอยช่วยสนับสนุนส่งเสริมแล้วล่ะก็ ป่านนี้...ยังอาจต้อง วิ่งแลกเช็ค ไม่สามารถผงาดขึ้นมาเป็นเศรษฐีโทรศัพท์มือถือรวยเป็นหมื่นล้าน แสนล้าน จนสามารถเอาเงินมาทุ่มเทกับพรรคการเมือง กับความเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจนตราบเท่าทุกวันนี้ส่วนฝ่ายที่ถูกเรียกว่าฝ่ายเผด็จการ สืบทอดอำนาจ ในทุกวันนี้ ก็ล้วนแล้วแต่เคยเป็นนักประชาธิปไตยมาโดยตลอดนั่นแหละ เคย เรียงหิน ให้ฝ่ายประชาธิปไตย เคยจัดซื้อ ซีทีเอ็กซ์ ให้ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ได้แตกต่างไปจากนักประชาธิปไตยที่ยังคงเรียงโน่น เรียงนี่ ซื้อโน่น ซื้อนี่ อยู่ในฟากประชาธิปไตยจนถึง ณ ขณะนี้...

                                                                      -----------------------------------------------

      เพียงแค่การปล่อยวาง ละวาง เลิกยึดมั่น ถือมั่น ต่อ สิ่งสมมุติ ไม่ว่าจะถูกทำให้ดูสูงส่ง วิเศษวิเสโส ชนิดกลายเป็น หลักการ, อุดมการณ์ ใดๆ ก็แล้วแต่ สุดท้าย...ทุกฝ่ายนั่นแหละ ต่างก็เป็น นักการเมือง ไปด้วยกันทั้งสิ้น เป็นผู้ที่ถูกมอบหมายให้ต้องตอบโจทย์ ตอบคำถาม ต่อบรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลาย ว่าเมื่อไหร่จะ เดินหน้าประเทศไทย ไปได้ซักกะที จะมามัวติดกึก ติดกัก ติดแหงกอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตย มันออกจะเป็นอะไรที่ไม่เข้าท่า เข้าทาง ไปด้วยกันทั้งสิ้น เพราะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ยึดมั่นอยู่กับ ประชาชนของฝ่ายมึง ฝ่ายกู เป็นใหญ่ แต่ยึดมั่นอยู่กับ ผลประโยชน์ของประชาชนทุกๆ ฝ่ายเป็นสำคัญ ไม่ใช่แค่เฉพาะยี่ห้อความเป็นประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตยเท่านั้น กระทั่ง ตัวตนของตน จะเป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรี สถานะ หรือ หัวโขน ใดๆ ยังพร้อมที่จะสละ ละวาง ปล่อยวาง ได้ทุกเมื่อ...

                                                                        -----------------------------------------------

      อย่างที่พระสันตะปาปา ฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิก ท่านได้แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างต่อสายตาชาวโลก และต่อการเมืองระดับโลกไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ ภายใต้ความทุกข์ระทมของชาว ซูดานใต้ ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์คาทอลิกเป็นส่วนใหญ่ อันเนื่องมาจากการแย่งอำนาจ ยื้ออำนาจ ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายกบฏ ที่ต่างหยิบเอาเรื่องความเป็นประชาธิปไตย-ไม่ประชาธิปไตยมากล่าวอ้างไปด้วยกันทั้งคู่ จนผู้คนต้องบาดเจ็บ ล้มตาย นับเป็นแสนๆ ก็ยังหาทางออก ทางไป แทบไม่เจอ พระสันตะปาปาท่านเลยตัดสินใจเชื้อเชิญผู้นำทางการเมืองทั้ง 5 ราย มาพบปะที่วาติกัน ก่อนทรุดตัวลงไป จูบฝ่าเท้า  นักการเมืองในแต่ละราย เพื่อขอร้อง วิงวอน ให้ช่วยประคับประคอง รักษา สันติภาพ ให้กับประเทศซูดานใต้ ด้วยเหตุเพราะประชาชนต่างเดือดร้อนกันมาเยอะแล้ว...

                                                                       -----------------------------------------------

      เรียกว่า...แม้แต่ความเป็นองค์พระประมุขของศาสนจักรคาทอลิก ที่มีปวงชนชาวโลกนับเป็นร้อยล้าน พันล้าน ให้ความยกย่องชื่นชม เชิดชู กันไปถึงขั้นไหน ท่านยังพร้อมละวาง ปล่อยวาง ลงไปซะดื้อๆ เพียงเพราะยึดถือ  ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช่เพราะ ยึดประชาชนของตัวเองเป็นใหญ่ อันนี้นี่แหละ...ที่บรรดา นักการเมือง ทั้งหลาย ไม่ว่าประเทศไหน สังคมไหน พึงต้องยึดเอามาเป็นแบบ เป็นตัวอย่าง ไปด้วยกันทั้งสิ้น เนื่องจากสิ่งที่ย่อมอยู่เหนือไปกว่าความเป็นประชาธิปไตย-ไม่เป็นประชาธิปไตย ก็คือ ธรรมะ นั่นเอง อันเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า เพราะ การเมือง ใดๆ ถ้าหากปราศจาก ธรรม เป็นตัวกำกับซะอย่างแล้ว ย่อมนำมาซึ่งความฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ให้กับประชาชน สังคม ประเทศชาติ ได้อย่างไม่มีข้อยกเว้น...

                                                                          -------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก พุทธทาสภิกขุ... ประชาธิปไตยต้องเป็นไปเพื่อลด หรือป้องกันความเห็นแก่ตัว ถ้าเห็นแก่ตัวก็มีแต่ประชาธิป...ตาย โดยไม่รู้สึกตัว ความไม่เห็นแก่ตัวจึงเป็นรากฐานของประชาธิปไตยที่แท้จริง...

                                                                           --------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"