นวัตกรรม..กระตุกต่อมสติ


เพิ่มเพื่อน    


    คำว่า "นวัตกรรม" ว่าไปแล้วก็เพิ่งได้ยินมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้เอง เรียกได้ว่าไปไหนมาไหนก็จะได้ยินคำนี้ จนรู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์จูราสสิกแล้วกระมัง เพราะแค่มือถือ ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ ก็มีผู้คนต่อยอดสร้างนวัตกรรมผ่านมือถือนี้มากมาย ในขณะที่มนุษย์ป้าแค่ใช้ส่งไลน์ โพสต์ภาพ ถ่ายรูป และใช้เป็นนาฬิกาปลุก ก็รู้สึกว่าตัวเองเก่งละ
    อ้อ..ล่าสุด ใช้มือถือเป็นเครื่องวัดบอกระยะทางการเดินและวิ่งออกกำลังกายกับเขาเป็นบ้างแล้ว 
    มีการจำกัดความว่า นวัตกรรม คือ สิ่งที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งอาจเป็นเทคโนโลยี ความคิด หรือผลิตภัณฑ์ก็ได้..แล้วก็ไปอ่านเจอนวัตกรรมที่เรียกว่า "ส้อมอัจฉริยะ" เข้าเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้สงสัยเหลือเกินว่า เจ้านวัตกรรมจะทำให้เราเป็นง่อย หรือพึ่งพาเทคโนโลยี จนคิดเอง ตัดสินใจเอง หรือเตือนสติตัวเองไม่เป็นหรือเปล่าหนอ???
    เพราะความสามารถของส้อมอัจฉริยะที่มีชื่อว่า HAPIfork นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ มันจะสั่นเตือนเราว่าเรากินอาหารเร็วเกินไปหรือเปล่า เพราะการกินเร็วไปส่งต่อระบบการย่อยอาหาร ก่อเกิดโรคกรดไหลย้อน และอาจจะทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักตัว หรือโรคอ้วนได้ เพราะคนกินเร็วก็จะกินได้เยอะไม่รู้ตัวนั่นเอง
    อ่านเรื่องส้อมอัจฉริยะแล้ว มนุษย์ป้าก็มโนไปว่า ถ้ามนุษย์ป้ามี HAPIfork ติดตัว ต่อไปเวลาไปเข้าวัดปฏิบัติธรรมก็ไม่ต้องกำหนดจิต หรือเจริญสติกำกับตัวเองว่า เคี้ยวอาหาร 25 ครั้งค่อยกลืน ตามที่หลวงพ่อสอนอีกต่อไปแล้วสิ 
    อย่างไรก็ตาม ด้วยความกังวลก็ทำให้ต้องคิดฟุ้งซ่านต่อว่า ถ้าเราพึ่งพาเทคโนโลยีทันสมัย สะดวกสบายแบบนี้เรื่อยๆ ไป น่าสนใจว่า มนุษย์เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์ เหมือนหนังไซไฟที่เราเคยดูแบบคนเหล็กแล้วกระมัง เพราะเราลั้ลลาตามใจชอบ รอให้เทคโนโลยีมากระตุกแขนกระตุกขาเตือนเราก็ได้นี่นา?!?
     เกิดมีวันไหนไฟดับ หรือแบตเตอรี่ในส้อมอัจฉริยะเสีย เราจะรู้ตัวเมื่อสายเกินไปเสียแล้วหรือเปล่าว่า วันนี้เรากินเร็วเกินไป เพราะส้อมไม่เห็นสั่นเตือนเราเลยนะ 
    โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ จนวันนี้แม้แต่เบอร์โทรศัพท์คนใกล้ตัวเราก็จำไม่ได้ ด้วยเพราะเราอาศัย "เมม" ในมือถือจนเคยตัว เส้นทางที่จะไปไหนต่อไหน เดี๋ยวนี้ก็ขี้คร้านที่จะจำว่าเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ข้ามแยก ข้ามสะพาน เพราะเราพึ่งพามือถือบอกเส้นทางได้ทั้งที่อยากจะให้มันพูดภาษาบ้านเรา หรือภาษาฝรั่งมังค่า 
    ถ้ามองเป็นวิทยาศาสตร์ก็สะดวกดีนะคะ และมองเป็นวิทยาศาสตร์อีกเช่นกัน มันน่าจะทำให้หยักสมองของเราน้อยลง เสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ได้ไม่มากก็น้อย ..จริงไหมคะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องฝึกจำอะไรอีกแล้ว แค่จดจำให้ได้ว่าวางมือถือไว้ตรงมุมไหนของบ้านก็พอ..อิอิ.
                                          "ป้าเอง" 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"