SCGโอดยอดขายQ1/62ร่วงเตรียมทวนแผนเติบโตบริษัทใหม่


เพิ่มเพื่อน    

 

เอสซีจี โอดยอดขายไตรมาสแรกของปีหด 5% ส่งผลกำไรลดเหลือ 1.16 หมื่นล้านบาท ชี้ราคาน้ำมันผันผวนกระทบต้นทุนการผลิตเคมีคอล พร้อมทบทวนแผนเติบโตทั้งใหม่ เสี่ยงพลาดเป้า 5% ยันยังไม่ลดงบลงทุน 6 หมื่นล้าน

29เม.ย. 62 -นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือเอสซีจี เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 มีรายได้จากการขาย 112,379 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% ส่งผลให้กำไรอยู่ที่ 11,662 ล้านบาท ลดลง 6% เนื่องจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลงตามความต้องการในตลาดโลกที่อ่อนตัวลงชัดเจน สะท้อนสัญญาณตลาดเคมีภัณฑ์ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามเพื่อประกอบการทบทวนเป้าหมายยอดขายปีนี้อีกครั้งว่าจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ 5% หรือไม่

“ขณะนี้ยอมรับว่าเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ตั้งไว้ 5% ไม่น่าจะไหว เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกับปีก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าอีก 3 ไตรมาสที่เหลือจะกวดทันหรือไม่ เนื่องจากความต้องการในตลาดของสินค้าแต่ละตัวอ่อนตัวลง ทำให้เกิดส่วนต่างราคาสินค้าปรับตัวลดลงตามไปด้วย ส่วนงบลงทุน 60,000 ล้านบาทยังคงเดิมเพราะเป็นแผนการลงทุนขนาดใหญ่ที่วางไว้”นายรุ่งโรจน์  กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอ้างอิงตลาดเบรนท์ที่ปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากต้นปีอยู่ที่ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้มีความกังวลว่ามีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลอีกเร็วๆ นี้ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินธุรกิจ 

โดยหากแยกผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 ตามรายธุรกิจ พบว่าธุรกิจเคมิคอลส์มีรายได้จากการขาย 46,240 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13% ธุรกิจแพคเกจจิ้งมีรายได้ 21,127 ล้านบาท ลดลง 4% ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีรายได้ 48,310 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% ตามการขยายตัวของตลาดซีเมนต์ในประเทศที่คาดว่าไตรมาส 2/2562 จะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก แต่ช่วงเดือนเม.ย.เป้นเดือนที่วันหยุดต่อเนื่องหลายวัน จึงต้องประเมินปัจจัยต่างๆ ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.อีกครั้ง 

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่าแม้เบื้องต้นจะประเมินภาพรวมการดำเนินธุรกิจของเอสซีจีจะขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่หวังว่าจะมีแรงกระตุ้นจากการลงทุนภาครัฐเข้ามาต่อเนื่อง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนักไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาล เพราะหลายโครงการได้มีการประมูลเรียบร้อยแล้ว ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง จึงมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"